สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก
ข่าวสารยานยนต์
อ่านข่าวสารล่าสุด

ค้นหาข้อมูล

ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม

           ค่ายรถยนต์ รายใหญ่เกือบทุกค่าย ในเวลานี้ไม่เพียง แต่เร่งออกแบบ และผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) เท่านั้น แต่เหนือกว่านั้น ค่ายรถชั้นนำอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู ออดี้ ฟอร์ด เมอร์เซเดส-เบนซ์ นิสสัน หรือโตโยต้า ต่างกำลังเร่งวางแผนและออกแบบรถรุ่นใหม่ ที่รองรับนวัตกรรมไร้คนขับ (Autonomous Vehicle หรือ AV) เพื่อให้พร้อมรับมือกับคู่แข่งมาแรง อย่างเทสล่า (Tesla) หรือผู้ท้าชิงน้องใหม่ อย่างบริษัทเวย์โม (Waymo) ซึ่งแตกตัวมาจากกลุ่มงานโครงการ Self-Driving Car ของกูเกิล ตลอดจนอูเบอร์ (Uber)ที่เริ่มการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับมา ตั้งแต่ปี 2016 โดยความหวังที่จะเปิด ให้บริการรถแท็กซี่แบบไร้คนขับ (Robo-Taxi หรือ Robo-Cab)ในอนาคต  ระดับสู่ความเป็นเลิศ   การจัดระดับยานพาหนะที่ขับเคลื่อนแบบไร้ผู้ขับขี่ (Autonomous) ถูกจัดเป็น 5 ระดับ โดยมีระดับ 0 ซึ่งถือเป็นระดับที่ยานพาหนะไม่มีการควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติแต่อย่างใด ระดับที่ 1 "Driver Assistance"เป็นระดับการขับขี่อัตโนมัติขั้นพื้นฐานที่ผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนใหญ่อาจคุ้นเคย เช่น การทำงานของระบบ Cruise Control ที่สามารถปรับระยะตรวจจับหน้ารถได้ก่อนรถเบรก  ระดับที่ 2 "Partial Automation"เป็นระดับที่เริ่มเห็นมากขึ้น โดยระบบเริ่มเข้าควบคุมการขับเคลื่อนรถยนต์ได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่นระบบการเข้าจอดในที่จอดรถแบบอัตโนมัติ (Remote-Controlled Parking) เป็นต้น
ที่มา : หนังสือพิม กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 20  เมษายน 2561

 

            นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะ กรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงสถิติขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วงไตรมาสแรก ของปี 2561 (มกราคม - มีนาคม 2561) ว่ามีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 333 โครงการเงินลงทุนรวม 203,630 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อบรรยากาศการลงทุนในปีนี้โดยมูลค่าดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 28% ของเป้าหมายขอรับส่งเสริมการลงทุนตลอดทั้งปี ที่ 720,000 ล้านบาท   ทั้งนี้มูลค่าเงินลงทุนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กว่า 1 แสนล้านบาท โดยเป็นการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากกลุ่มอุตสาหกรรม เป้าหมายต่างๆ ได้แก่ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร
ที่มา: หนังสือพิมพ์ แนวหน้า วันที่ 19  เมษายน 2561

 

                      China will end foreign ownership caps on local auto companies by 2022 and will remove restrictions on new-energy vehicle ventures this year, a major shift that will open the market wider to carmakers such as Nissan and Tesla.  The country will remove limits on companies making electric and plug-in hybrid vehicles in 2018, commercial-vehicle producers in 2020 and the wider passenger vehicle market by 2022, China's state planner said in a statement.  The move, which comes amid a trade standoff between Washington and Beijing, signals the end of a rule put in place in 1994 in the world's largest auto market that limited foreign automakers to a 50 percent share of any local venture. The policy was implemented to help support domestic carmakers compete against more advance international rivals.
ที่มา : www.autonews.com วันที่ 18  เมษายน 2561

 

          ตั้งเป้าเปิดใช้งานสนามทดสอบเฟส 1 เดือน ก.ย.นี้   สมอ.เดินหน้าผลักดัน ศูนย์ทดสอบยานยนต์ฯ เฟส 1 คาดเปิดดำเนินการ ก.ย.นี้ รองรับทดสอบยางล้อมาตรฐานบังคับใหม่ เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน พร้อมลุยเฟส 2 ทดสอบ 19 มาตรฐาน เปิดดำเนินการปี 2563      นายณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ ว่า การก่อสร้างศูนย์ทดสอบยานยนต์ฯเฟส 1 จะเสร็จในเดือน ก.ย.2561 ล่าช้ากว่ากำหนด 3 เดือน เพราะการประมูลครั้งแรกไม่มีผู้เข้าร่วมประมูล แต่ขณะนี้ได้ผู้ก่อสร้างแล้ว คือ บริษัทนิปปอนการโยธา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างไทยกับญี่ปุ่น และมีประสบการณ์สร้างสนามทดสอบรถยนต์ที่เมืองโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ส่วนตัวอาคารสนามทดสอบจะเปิดซองประมูลภายในเดือน เม.ย.นี้    "สนามทดสอบเฟส 1 ใช้งบลงทุน 800 ล้านบาท จะเป็นสนามทดสอบมาตรฐานล้อยาง มอก.ใหม่ที่เน้นในเรื่องการยึดเกาะถนน จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือน ก.ย.นี้ โดยช่วงเริ่มต้นจะให้สถาบันยานยนต์ร่วมกับ สมอ.เข้ามาบริหารจัดการ เพราะมีผู้เชี่ยวชาญในด้านการทดสอบรถยนต์"

ที่มา: หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 17  เมษายน 2561

 

          สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อดูจากตัวเลขยอดผลิตยอดส่งออก-ยอดขาย ในภาพรวมมีการเติบโต โดยเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2561 มีรถที่ผลิตทั้งสิ้น 344,433 คัน เพิ่มขึ้น 12.28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในช่วง 2 เดือนพบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 184,284 คัน เพิ่มขึ้น 3.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 และคิดเป็นมูลค่าการส่งออกจะอยู่ที่  94,287.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.03 %   ส่วนยอดขายรถในประเทศ ตั้งแต่เดือนมกราคม- กุมภาพันธ์ 2561 มีจำนวน 142,011 คัน เพิ่มขึ้น 13% ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 300,517คัน เพิ่มขึ้น 0.9%    แม้ในภาพรวมจะดูสดใส แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยมีความกังวลใจ นั่นก็คือ สงครามการค้าระหว่าง จีน-สหรัฐอเมริกา ที่จะกระทบกับภาวะเศรษฐกิจโลก และเป็นห่วงโซ่ทั่วทั้งโลก ที่อาจจะส่งผลดี หรือ ผลเสียให้กับการส่งออกของไทย
ที่มา : หนังสือพิม ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 16  เมษายน 2561

 

            ผู้นำจีน ประกาศกลางเวที ประชุมโป๋อ่าว ให้คำมั่นเปิดเสรีการค้า-การลงทุน ลดภาษีรถยนต์นำเข้าภายในปีนี้ พร้อมปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มขึ้น ขณะกระทรวงพาณิชย์จีน ยื่นดับเบิลยูทีโอ แก้ข้อพิพาทการค้ากับสหรัฐ ประเด็นขึ้นภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม  นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวสุนทรพจน์ ในพิธีเปิดการประชุมโป๋อ่าว ฟอรัม ฟอร์ เอเชีย (บีเอฟเอ) ที่มณฑลไห่หนาน ทางตอนใต้ของจีน
เมื่อวานนี้ (10เม.ย.) ว่าในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์มวลรวม ภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนขยายตัวประมาณ 9.5% ต่อปี ส่วนปริมาณการค้ากับต่างประเทศขยายตัว ต่อปีประมาณ 14.5% ทำให้ชาวจีนเริ่มลืมตาอ้าปากจากเดิมที่มีชีวิตขาดแคลนและยากจน  และปัจจุบันนี้ ชาวจีนได้รับประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์ มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก     ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีสีของจีน ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจีนจะเปิดตลาดให้กว้างขึ้น ด้วยการขับเคลื่อนการเปิดเสรีการลงทุนด้านยานยนต์ เรือและเครื่องบิน ลดกำแพงภาษีสินค้านำเข้าประเภทรถยนต์ภายในปีนี้ และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มขึ้น พร้อมย้ำว่า  กระแสโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ เป็นกระแสที่คงทนถาวร ไม่ย้อนกลับ เช่นเดียวกับประตูสู่เศรษฐกิจจีน ที่เมื่อเปิดออกแล้ว จะไม่มีวันปิด มีแต่จะเปิดกว้างยิ่งขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 12  เมษายน 2561
 

 

           ค่ายรถโลกตบเท้าลงทุนผลิตแบตเตอรี่อีวีในไทย รับนโยบายรัฐหนุนรถไฟฟ้า ค่ายรถทั่วโลกเตรียมเพิ่มกำลังผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในไทยมากยิ่งขึ้น หลังรัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนด้านผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ขณะที่ตลาดรถยนต์ไฮบริดในประเทศกำลังขยายตัว     นายอันเดรอัส เลทเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เดมเลอร์ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนีวางแผนเปิดโรงงานแบตเตอรี่ขนาด 4.8 หมื่นตารางเมตรในไทยช่วงต้นปี 2562 ภายใต้การบริหารโดยหน่วยธุรกิจของเมอร์เซเดส ซึ่งโรงงานดังกล่าวจะเน้นประกอบแบตเตอรี่รถอีวีให้เมอร์เซเดสโดยเฉพาะ    ทั้งนี้ เมอร์เซเดสกำลังวางแผนขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ออกไปอีก 6 แห่งทั่วโลก ที่ประกอบด้วยในสหรัฐ จีน และไทย โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เมอร์เซเดสประกาศลงทุน 100 ล้านยูโร หรือกว่า 3,900 ล้านบาท จนถึงปี 2563 เพื่อขยายโรงงานประกอบรถยนต์และสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทย นิกเกอิรายงานว่า แผนขยายโรงงานผลิตของเมอร์เซเดสเกิดขึ้นขณะที่ความนิยมรถยนต์ไฮบริดในไทยกำลังเพิ่มขึ้น โดยเมื่อปี 2560 รถไฮบริดคิดเป็นสัดส่วน 40% ของยอดขายรถในไทยของบริษัทขณะเดียวกันรายงานระบุว่า บีเอ็ม ดับเบิลยูบริษัทรถยนต์เยอรมนีรายใหญ่อีกรายกำลังจะลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ที่ จ.ระยอง ซึ่งจะเป็นโรงงานแห่งที่ 4 ของบริษัท หลังตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในเยอรมนี สหรัฐ และจีน โดยปัจจุบันบีเอ็มดับเบิลยูประกอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 4 รุ่นในไทย และจำหน่ายรถยนต์รุ่นดังกล่าวได้ 1,300 คัน

ที่มา : หนังสือพิม  โพสต์ทูเดย์ วันที่ 11  เมษายน 2561
 

 

    นายณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ.อยู่ระหว่างกำหนดมาตรฐานตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (เอสเคิร์ฟ) สอดรับกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมของรัฐบาลก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ตุลาคม 2560-มีนาคม 2561) กำหนดมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายแล้ว 45 เรื่อง คิดเป็นความคืบหน้า 38.46% แบ่งเป็นอุตสาหกรรมเดิม 22 เรื่อง และกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต 23 เรื่อง จากเป้าหมายทั้งหมด 117 เรื่อง ตั้งเป้ากำหนดมาตรฐานครบก่อนสิ้นปีงบประมาณคือเดือนกันยายน 2561 โดยกลุ่มต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่มีเพียง 2 กลุ่ม คืออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิง ชีวภาพและเคมีชีวภาพดำเนินการครบแล้ว ที่เหลือยานยนต์สมัยใหม่, อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร, หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม, อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ยังดำเนินการไม่เสร็จ    นายณัฐพลกล่าวถึงการจัดทำมาตรฐานอุตสาหกรรมเอส (มอก.เอส) เพื่อยกระดับขีดความสามารถเอสเอ็มอีว่า มีการประกาศใช้แล้ว 20 มาตรฐาน ปีนี้กำหนดเพิ่มเติมอีก 20 มาตรฐาน ได้แก่ กลุ่มมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อาทิ น้ำมันกฤษณา ลูกหมากรถยนต์ และกลุ่มมาตรฐานการให้บริการ อาทิ การบริการล้างรถ การบริการซักอบรีด การบริการร้านกาแฟ และเตรียมประกาศมาตรฐานยางล้อเป็นมาตรฐานบังคับ โดยอยู่ระหว่างการตราพระราชกฤษฎีกา และจะประกาศใช้ภายในปีนี้ เพื่อรองรับศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ

ได้ที่มา: หนังสือพิมพ์ มติชน  วันที่ 10  เมษายน 2561

 

     สหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศกฎข้อบังคับให้ติดตั้งระบบเตือนภัยฉุกเฉิน (Automatic Emergency Alert System) หรือที่เรียกกันว่า ระบบอีคอล (eCall) ในยานยนต์รุ่นใหม่ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน หรือจากผู้ผลิตค่ายใด จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 เป็นต้นไป อีคอลถือเป็นระบบมาตรฐานจะต้องติดตั้งในยานยนต์เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนระบบดังกล่าวก็คือส่วนหนึ่งของระบบเทเลเมติกส์ (Telematics) มีหน้าที่เชื่อมต่อและรับส่งข้อมูลทางไกล ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์บนสมาร์ทโฟนกับแอพพลิเคชั่น สำหรับคอนติเนนทอลได้พัฒนาระบบ เทเลเมติกส์มาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2539 บริษัทเห็นด้วยกับทางคณะกรรมาธิการยุโรปสำหรับกฎข้อบังคับในการติดตั้งระบบอีคอลในยานยนต์รุ่นใหม่ทุกประเภท        เฮเบลกล่าวว่า ระบบอีคอลเป็นเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ จะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตบนท้องถนน ตอบโจทย์กับวิสัยทัศน์บริษัท คือ การลดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ (Vision Zero) ฟังก์ชั่นการทำงานของระบบ อีคอลจะใช้ระบบเทเลเมติกส์วิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมของผู้ขับขี่ยานยนต์แบบเรียลไทม์ผ่านทางแอพพลิเคชั่น รวมถึงการแจ้งเตือนสภาพการจราจรหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะขับขี่ยานยนต์

ที่มา : หนังสือพิม มติชน  วันที่ 9  เมษายน 2561

 

ศูนย์สารสนเทศยานยนต์

ติดต่อ ศูนย์สารสนเทศยานยนต์ สถาบันยานยนต์

อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา (สพข.) ซ.ตรีมิตร กล้วยน้ำไท ถ.พระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์: 0-2712-2414 ต่อ 6443
email : aiu@thaiauto.or.th