สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก
ข่าวสารยานยนต์
อ่านข่าวสารล่าสุด

ค้นหาข้อมูล

ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม

        นายณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์และอุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า ขณะนี้การดำเนินโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์ และยางล้อแห่งชาติ อ.สนามไชยเขต จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ในขั้นตอนการเตรียม ก่อสร้าง ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงเดือนเมษายน 2561 และมีกำหนดแล้วเสร็จบางส่วนในช่วงเดือน ก.ย.2561 โดยส่วนที่ต้องแล้วเสร็จก่อนคือ สนามทดสอบ ยางล้อ R117 และห้องทดสอบและปฏิบัติการมาตรฐานยางล้อที่ยึดมาตรฐานของยุโรป หลังจากนั้นจึงจะดำเนินการ ก่อสร้างอาคารสำนักงานตามลำดับ"ศูนย์ทดสอบฯ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อสร้างมูลค่า นวัตกรรม และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงจูงใจในการลงทุนแก่นักลงทุนชาวต่างชาติด้วย ที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณบ้างแล้ว โดยค่ายรถต่างประเทศก็มีความเชื่อมั่นในการสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาเพิ่มเติมในประเทศไทย"
ที่มา : หนังสือพิมพ์ แนวหน้า วันที่ 22 มกราคม  2561
 

 

     นายสนธิรัตน์กล่าวว่า กระทรวงฯ ยังได้วิเคราะห์ผลการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต่อภาคการผลิต โดยพบว่าต้นทุน ค่าแรงในภาคการผลิตและบริการจะ เพิ่มขึ้น 10,006 ล้านบาทต่อปี หรือ คิดเป็น 0.07% ของจีดีพี โดยภาค บริการที่มีการใช้แรงงานเข้มข้นจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงมากสุด 3 อันดับแรก คือ การก่อสร้าง การขายส่งและการขายปลีก, การซ่อมยานยนต์และรถจักรยานยนต์, โรงแรมและบริการด้านอาหาร ส่วนภาคอุตสาหกรรม คือ ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม, การฟอกและตกแต่งหนังฟอก, เครื่อง จักรสำนักงานโลหะขั้นมูลฐาน  ส่วนผลกระทบต่อการส่งออก พบว่า ต้นทุนเพิ่มขึ้น 0.022% หรือมีต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 167 ล้านบาทต่อปี โดยสาขาที่มีสัดส่วนต้นทุน เพิ่มมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ การพิมพ์ เครื่องหนัง เครื่องแต่งกาย โลหะประดิษฐ์ และเฟอร์นิเจอร์ ส่วนอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบน้อย ได้แก่ เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ และยานยนต์
ที่มา: หนังสือพิมพ์ ผู้จัดการรายวัน 360 องศา  วันที่ 19 มกราคม 2561

 

         บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ค่ายรถยักษ์ใหญ่ ของญี่ปุ่น แถลงว่า ได้ระงับการผลิตรถทั้งหมด สำหรับส่งออกไปตลาดเวียดนามตั้งแต่เริ่ม ต้นปี 2561โดยปัจจุบัน โตโยต้ายังมีการผลิตรถ ในเวียดนาม แต่นำเข้ารถจากไทย อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น คิดเป็นประมาณ 1 ใน 5 ของยอดขายรถในตลาดเวียดนาม หรือ 1,000 คันต่อเดือน นายมิชิโนบุ ซึงาตะ ประธานโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย แถลงว่า ตลาดเวียดนาม ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนในปีที่แล้ว หลังจาก ผู้บริโภคยับยั้งแผนการซื้อรถใหม่ เพราะรอให้ มาตรการยกเลิกภาษีนำเข้ามีผลบังคับใช้สิ้นปี 2560  ยอดขายรถในเวียดนามระหว่างเดือนม.ค.-พ.ย. 2560 ลดลง 10% เทียบกับปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 245,000 คัน ซึ่งนายซึงาตะ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะเกิดแรงกระตุ้นครั้งใหญ่ในปีนี้ แต่เนื่องจากอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษีของรัฐบาลเวียดนาม ทำให้ บริษัทส่งออกรถไปตลาดนี้ไม่ได้ มาตรการดังกล่าวซึ่งประกาศใน เดือนต.ค.กำหนดให้มีการทดสอบการปล่อย มลพิษและความปลอดภัยกับรถนำเข้า ทุกล็อต หลังก่อนหน้านี้มีการทดสอบเฉพาะกับรถนำเข้าล็อตแรกเท่านั้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ  วันที่ 18 มกราคม 2561

 

       การลงทุนในชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเฉพาะแบตเตอรี่เพื่อรับตลาดเกิดใหม่กลุ่มรถยนต์ไฮบริด ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลกและประเทศไทย รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้กับโปรดักต์เกือบทุกตัวเพื่อเป็นมาตรฐานของยานยนต์ในอนาคต เน้นไปที่ 4 กลุ่มหลัก คือ ประกอบด้วย 1.ระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นใหม่ 2.นวัตกรรมโครงสร้างใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ระบบความปลอดภัยใหม่มาตรฐานระดับโลก และระบบนำทางและเชื่อมต่อผู้ขับขี่กับรถยนต์ (Toyota T-connect Telematics) ซึ่งโตโยต้าเริ่มแนะนำกับรถซับคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นใหม่ ซี-เอชอาร์ จะส่งมอบให้ลูกค้าได้ในเดือนมีนาคมนี้   "มั่นใจว่าตลาดฟี้นตัวแล้ว ปัจจัยบวกตอนนี้มีครบ ทั้งความเชื่อมั่นจาก ผู้บริโภค, มาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ, จีดีพีที่มีแนวโน้มดีในระดับ 3.9% รวมถึง การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของค่ายรถต่าง ๆ จะเป็นแรงกระตุ้นให้ยอดขายรถทั้งปีทะยานขึ้นในระดับ 900,000 คัน"
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 17 มกราคม  2561
 

 

         German automakers expect to continue to grow market share in the United States this year thanks to a raft of new models, even as demand in the world's second largest car market is seen falling again slightly, Germany's VDA industry lobby said. Manufacturers including Volkswagen Group, Daimler and BMW raised their combined share of the U.S. auto market to 7.9 percent of industry-wide sales last year from 7.6 percent in 2016.
ที่มา: www.autonews.com วันที่ 16 มกราคม 2561
 

 

            กระแสการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในฐานะฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สอดคล้องกับเทรนด์ของโลกที่มุ่งไปยังเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า  รถจักรยานยนต์ดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งในยานยนต์ที่จะมุ่งไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าได้รวดเร็วที่สุด ซึ่งแม้ว่าบรรดาผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยจะเห็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่มองว่าจะต้องค่อยเป็นค่อยไปตามลำดับ เช่นเดียวกันกับผู้ผลิตรถยนต์ที่มองรอยต่อของการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่จะต้องไปเป็นเครื่องยนต์ไฮบริดก่อนจะไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าในที่สุด  สุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ในประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยถือได้ว่าจะเป็นประเทศกลุ่มแรกของโลกที่จะมีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์ไฮบริด ซึ่งบริษัทมีแผนการเปิดตัวรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์ไฮบริดภายในปี 2562 ซึ่งเป็นการสร้างตลาดด้วยเทคโนโลยีใหม่และการให้ความรู้และข้อมูลตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ต่อเทคโนโลยีใหม่
ที่มา : หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์ วันที่ 15 มกราคม  2561
 

 

           น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 ม.ค.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาประชุมเพื่อมอบนโยบายและติดตามการทำงานซึ่งบีโอไอเตรียมหารือกับรองนายกรัฐมนตรี 4 เรื่อง ประกอบด้วย 1.สรุปสถิติตัวเลขการลงทุนภาพรวม แยกรายอุตสาหกรรม และตัวเลขคำขอในพื้นที่ลงทุนต่างๆ อาทิ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (เอสอีแซด) พร้อมกำหนดตัวเลขเป้าหมายการลงทุนปีนี้ โดยปีที่ผ่านมา ตัวเลขขอรับการส่งเสริมได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 600,000 ล้านบาท  2.ยุทธศาสตร์ในการดึงการลงทุน กลยุทธ์การชักจูงการลงทุนตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) 3.แผนการเดินทางไปชักจูงการลงทุน (โรดโชว์) ต่างประเทศ 4.หารือแนวทางการจัดงานสัมมนาประจำปี โดยจะให้นายสมคิดกำหนดรูปแบบ (ธีม) การจัดงานซึ่งปีนี้จะเป็นปีแห่งการเริ่มต้นการขับเคลื่อนประเทศไทยแบบครบวงจร หรือเทคออฟการลงทุนที่จะเชิญผู้บริหารระดับสูงจากทั่วโลกมาร่วมรับฟังแนวทางการส่งเสริมการลงทุนของไทย โดยจะจัดในเดือน มี.ค.นี้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ไทยรัฐ  ที่ 12 มกราคม 2561

 

            ปี 2560 มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเงื่อนไขหลายอย่างสำหรับรถนำเข้า ทั้งการชำระภาษีเพื่อนำรถยนต์ออกจากเขตพื้นที่ปลอดภาษี, การปรับเปลี่ยนวิธีการและอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต, การกำหนดราคาจำหน่าย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลายอย่างของหน่วยงานราชการ เป็นสิ่งที่ สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ มองว่าส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจอย่างรุนแรง ยอดจำหน่ายหดตัวอย่างชัดเจน "ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงสำคัญในการดำเนินธุรกิจของผู้นำเข้าอิสระ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนนโยบายของภาครัฐแบบกะทันหัน ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการจำหน่ายรถยนต์เป็นอย่างมาก หลายบริษัทปิดกิจการ  เลิกจ้างงาน หรือปัญหาภาวะหนี้สูญ ขณะที่ผู้บริโภค ต้องซื้อรถยนต์แพงขึ้น ตลาดไม่เกิด การแข่งขันด้านราคา ทำให้ตลาดหดตัวลงอย่างรุนแรง"  สมศักดิ์ ศรีรัตนประภาสนายกสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่
ที่มา: หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ  วันที่ 11 มกราคม 2561
 

 

             ในปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่ตลาดรถยนต์ทั่วโลกจะได้มีโอกาสสัมผัสอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มของรถยนต์พลังไฟฟ้า รุ่นใหม่ๆ หรือไม่ก็เป็นการเสริมทางเลือกแบบ EV ให้กับ รถยนต์ที่มีอยู่ในตลาดอยู่แล้ว เพราะว่าปี 2020 ทางฝั่งยุโรป โดยเฉพาะประเทศเยอรมนีจะถือเป็นจุดเริ่มต้นของนโยบายในการกระตุ้นให้คนหันมาใช้รถยนต์พลังไฟฟ้ากันมากขึ้น พร้อมกับมีการตั้งเป้าว่าจะต้องมีรถยนต์ประเภทนี้แล่นอยู่บนท้องถนนรวม 1 ล้านคัน     นั่นเท่ากับว่าปี 2018-2019 จะเป็น 2 ปีในการกอบโกยยอดขายเพื่อทำตัวเลขของรถยนต์ประเภทนี้ให้ขยับขึ้นมาอยู่ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และการที่จะโกยยอดได้ บรรดาผู้ผลิต ทั้งหลายก็จะต้องมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นรถยนต์ในกลุ่ม BEV หรือ Battery Electric Vehicle ออกมารองรับกับความต้องการของตลาดด้วยเช่นกัน  นั่นคือแง่มุมหนึ่งของความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นใน ปีหน้าสำหรับตลาดรถยนต์ในต่างประเทศ แต่แม้ว่า EV จะเป็น กระแสฮ็อตที่ถูกพูด ถึงแต่นั่นไม่ได้หมายความว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในทั่วไปจะถูกลืมในบัดดล และไม่มีอะไรใหม่ๆ ออกมาขาย ซึ่งอย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์ประเภทนี้ ก็ยังจำเป็นอยู่ และมีบทบาทในการขับเคลื่อนผู้คนทั่วโลกต่อไปอีกสักระยะหนึ่งเลยทีเดียว และรุ่นใหม่ๆ ก็จะมีการเปิดตัวออกสู่ตลาดมาให้เราได้เห็นกันอย่างแน่นอน

ที่มา: หนังสือพิมพ์ ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ที่ 10 มกราคม 2561
 

 

ศูนย์สารสนเทศยานยนต์

ติดต่อ ศูนย์สารสนเทศยานยนต์ สถาบันยานยนต์

อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา (สพข.) ซ.ตรีมิตร กล้วยน้ำไท ถ.พระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์: 0-2712-2414 ต่อ 6443
email : aiu@thaiauto.or.th