วันที่ 8 ธ.ค.นี้ สานแผนบริษัทแม่ ดันไทย เป็นฐานผลิต-ส่งออกพวงมาลัยขวา ประเดิม รุ่นแรก "โกลบอล โมเดล" เอสยูวี แซดเอส บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประเทศจีนกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ผู้ผลิตรถยนต์ เอ็มจี ในไทย แจ้งว่า บริษัทเตรียมเปิดสายการผลิต อย่างเป็นทางการโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์น ซีบอร์ด 2 จ.ชลบุรี วันที่ 8 ธ.ค.นี้ โรงงานแห่งใหม่ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 437.5 ไร่ ถูกกำหนดให้เป็นฐานการผลิตรถยนต์เอ็มจี พวงมาลัยขวา เพื่อรองรับตลาดในประเทศ และเป็นฐานส่งออกไปยังตลาดที่ใช้รถยนต์พวงมาลัยขวา เช่นเดียวกับไทย ขณะที่โรงงานในจีน จะรับผิดชอบการผลิตและส่งออกรุ่นพวงมาลัยขวา และเป็นโรงงานที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โรงงานแห่งนี้ใช้เงินลงทุนเฟสแรก 1,200 ล้านหยวน หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยเบื้องต้นวางแผนให้มีกำลังผลิตสูงสุด 100,000 คันต่อปี ซึ่งจะทำให้ เอ็มจีสามารถดำเนินแผนการตลาดได้คล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้การผลิตที่โรงงานระยองตั้งแต่การเข้ามาเปิดตัวในปี 2556 เป็นเพียงการเช่าโรงงานสำเร็จรูปเท่านั้น ทำให้มีข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน ทั้งปริมาณการผลิต หรือการผลิตชิ้นส่วนอื่นๆ แต่โรงงานแห่งใหม่จะทำให้สามารถพัฒนาด้านอื่นๆ ได้มากขึ้น รวมถึงยังเหลือพื้นที่สำหรับเฟสต่อไปอีกด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2560
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงผลการหารือระหว่างรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและญี่ปุ่นอย่างไม่เป็นทางการ ในช่วงการประชุม ASEAN Summit ครั้งที่ 31 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2560 ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ว่าอาเซียนและญี่ปุ่นได้ใช้เวลาในการเจรจาเรื่องการค้าบริการ และการลงทุนมากว่า 5 ปีแล้ว แม้จะสรุปผลในภาพรวมได้ แต่ที่ผ่านมายังติดประเด็นเกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทการลงทุน ซึ่งมีความสำคัญกับประเทศสมาชิกอาเซียน โดยอาเซียนและญี่ปุ่น ต่างใช้ความพยายามในการเจรจาด้วยความยืดหยุ่น และเข้าใจถึงสถานการณ์ของประเทศสมาชิกมาโดยตลอด จนทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุผลการเจรจาเรื่องนี้ได้สำเร็จ สำหรับการดำเนินการต่อไป อาเซียนและญี่ปุ่นจะเร่งเดินหน้าขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมาย ในพิธีสารแก้ไขความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อผนวกข้อบทการค้าบริการ การเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา และการลงทุน โดยตั้งเป้าหมายลงนามในเอกสารดังกล่าวภายในปีหน้า
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2560
China's vehicle sales rose 2 percent year on year in October the fifth straight month of growth although the auto industry will struggle to meet forecasts of 5 percent annual growth. Sales totaled 2.7 million vehicles last month, the China Association of Automobile Manufacturers reported. For the first 10 months, industry sales rose 4.1 percent to 22.9 million vehicles. Sales totaled 2.70 million vehicles last month, the association reported, and for the first 10 months, industry sales rose 4.1 percent to 22.9 million vehicles. Association officials said Friday they were caught off guard by how slow October vehicle sales were. “We didn’t expect October sales to be this low,” said Chen Shihua, an association official. Chen ascribed slow growth to an “insufficient” offering of discounts and other incentives. Another official, Shi Jianhua, said: “We would be lucky if overall vehicle sales grew 4 percent this year,” compared with the association’s 5 percent annual growth forecast for 2017. Last year, sales rose nearly 14 percent.
ที่มา : www.autonews.com วันที่ 14 พฤศจิกายน 2560
เปิดเสรีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าภายใต้ข้อตกลงเอฟทีเอ เร่งหามาตรการดูแล ด้าน “กอบศักดิ์” เผย 1 เดือนรู้แนวทางดำเนินการ ขณะที่รัฐเร่งมาตรการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เร็วๆนี้จะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กรมศุลกากร กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เพื่อหาผลสรุปจากผลกระทบจากการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า และหาแนวทางป้องกันปัญหาอันสืบเนื่องมาจากข้อตกลงการค้าเสรี(เอฟทีเอ) ไทย-จีน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปของแนวทางดำเนินการภายใน 1 เดือนนี้ นอกจากนี้ จะได้มีการยกประเด็นข้อกังวลนี้ขึ้นมาหารือในที่ประชุมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจ ระหว่างไทย-จีน หรือ High Level JC (HLJC) ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในช่วงต้นปี 2561 นี้ด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560
ตลาดรถยนต์โตเกินเป้า ผู้จัดงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปมั่นใจถึงสิ้นปียอดขายขยายตัวทะลุ 12% สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 8% นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน จัดงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 เปิดเผยว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัวเชื่อว่าภาพรวมยอดขาย รถในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ต้องมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% เพิ่มขึ้นจาก 3 ไตรมาสที่ยอดขายรถมีการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 10% และจากแนวโน้มที่ดีขึ้นคาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมยอดขายรถ ในสิ้นปี 2560 นี้เติบโตได้ที่ 12% สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 8% ทั้งนี้ จากสัญญาณที่ดีดังกล่าวทำให้มั่นใจว่าการจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2017 จะได้ผลการตอบรับที่ดีจากผู้สนใจเข้า ร่วมงาน โดยในปีนี้ได้มีการนำรถยนต์ 35 แบรนด์ จากผู้ผลิต 9 ประเทศ และรถจักรยานยนต์ 20 แบรนด์ จากผู้ผลิต 8 ประเทศ มาจัดแสดงพร้อมจำหน่ายให้กับผู้บริโภค
ที่มา : หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวง มีมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้พลังงานลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ 1.2 ล้านคัน ในปี 2579 และส่งเสริมการจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและเป็นสถานีนำร่องสำหรับรองรับยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต 150 หัวจ่าย ภายในปี 2561 และเพิ่มเป็น 690 หัวจ่าย ในปี 2579
ที่มา : หนังสือพิมพ์ แนวหน้า วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560
Tencent Holdings has developed its own autonomous driving system, according to people familiar with the matter, becoming the latest technology player to dive into a crowded field that could become a $42 billion industry. The social media giant intends to leverage its mapping and artificial intelligence technology to compete in a sector that's attracted investment from the likes of Alphabet Inc.'s Waymo as well as local rivals Baidu Inc. and Alphabet Inc., the people said, requesting not to be named because the matter is private. It's unclear how far the development effort has advanced though Tencent has a prototype and begun testing the system internally, the people said.
ที่มา : www.autonews.com วันที่ 8 พฤศจิกายน 2560
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ วิจารณ์ว่าญี่ปุ่นทำการค้าที่ไม่ยุติธรรมกับสหรัฐ และกระตุ้นให้อุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นลงทุนผลิตรถยนต์ในสหรัฐมากกว่าส่งออกชิ้นส่วนรถไปประกอบเป็นหลักเหมือนในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี จากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่นพบว่าปัจจุบันรถยนต์ญี่ปุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐนั้น เป็นรถที่ผลิตในอเมริกาเหนือมากถึง 75% ขณะที่ข้อมูลระบุว่า ในปี 2015 กลุ่มบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นมีโรงงานผลิตอย่างน้อย 26 แห่ง และมีบริษัทวิจัยและพัฒนาอีกราว 36 แห่งทั่วสหรัฐ โดยมีการผลิตรถยนต์ในสหรัฐทั้งหมด 3.9 ล้านคัน ขณะที่ในการแถลงข่าวร่วมระหว่างทรัมป์และนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น ผู้นำสหรัฐได้ชื่นชมญี่ปุ่นที่ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์สหรัฐว่าเป็นการสร้างงานให้ชาวอเมริกัน หลังจากญี่ปุ่นได้สั่งซื้อเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 รวมถึงขีปนาวุธและระบบต่อต้านขีปนาวุธไปก่อนหน้านี้ พร้อมมีแผนจะซื้อระบบอาวุธเอจิสบนเรือรบเพิ่ม ขณะที่อาเบะระบุว่า จะมีการคุยประเด็นเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศในเวทีต่อไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์ โพสต์ ทูเดย์ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2560
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง ซึ่งจะหมดอายุลงในวันที่ 31 ธ.ค. 2560 อาจต้องขยายระยะเวลาออกไปอีก หรือจะต้องมีมาตรการอะไรมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ระหว่างรอ พ.ร.บ.อีอีซี ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยจะหารือในที่ประชุมของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เร็วๆ นี้ นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) (กรศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ขยายระยะเวลาการเชิญชวนนักลงทุนเทคโนโลยีขั้นสูงในต่างประเทศให้ได้ตามเป้าหมายระยะแรก 30 ราย จากสิ้นปี 2560 เป็นเดือน มี.ค. 2561 เนื่องจากสำนักงาน อีอีซีเริ่มก่อตั้งช่วงเดือน มี.ค. 2560 ดังนั้นอยากขอเวลาทำงาน 1 ปี เพื่อให้การชักชวนการลงทุนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยนักลงทุนต่างชาติที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจะเน้นกลุ่มที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง เป็นเทคโนโลยีใหม่ของประเทศ เน้นผลประโยชน์กับประเทศ เน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยี การฝึกฝนบุคลากร มากกว่าเม็ดเงินลงทุนที่จะเข้ามา
ที่มา : หนังสือพิมพ์ โพสต์ ทูเดย์ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2560