สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก
ข่าวสารยานยนต์
อ่านข่าวสารล่าสุด

ค้นหาข้อมูล

ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม

            ผู้นำจีน ประกาศกลางเวที ประชุมโป๋อ่าว ให้คำมั่นเปิดเสรีการค้า-การลงทุน ลดภาษีรถยนต์นำเข้าภายในปีนี้ พร้อมปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มขึ้น ขณะกระทรวงพาณิชย์จีน ยื่นดับเบิลยูทีโอ แก้ข้อพิพาทการค้ากับสหรัฐ ประเด็นขึ้นภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม  นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวสุนทรพจน์ ในพิธีเปิดการประชุมโป๋อ่าว ฟอรัม ฟอร์ เอเชีย (บีเอฟเอ) ที่มณฑลไห่หนาน ทางตอนใต้ของจีน
เมื่อวานนี้ (10เม.ย.) ว่าในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์มวลรวม ภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนขยายตัวประมาณ 9.5% ต่อปี ส่วนปริมาณการค้ากับต่างประเทศขยายตัว ต่อปีประมาณ 14.5% ทำให้ชาวจีนเริ่มลืมตาอ้าปากจากเดิมที่มีชีวิตขาดแคลนและยากจน  และปัจจุบันนี้ ชาวจีนได้รับประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์ มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก     ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีสีของจีน ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจีนจะเปิดตลาดให้กว้างขึ้น ด้วยการขับเคลื่อนการเปิดเสรีการลงทุนด้านยานยนต์ เรือและเครื่องบิน ลดกำแพงภาษีสินค้านำเข้าประเภทรถยนต์ภายในปีนี้ และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มขึ้น พร้อมย้ำว่า  กระแสโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ เป็นกระแสที่คงทนถาวร ไม่ย้อนกลับ เช่นเดียวกับประตูสู่เศรษฐกิจจีน ที่เมื่อเปิดออกแล้ว จะไม่มีวันปิด มีแต่จะเปิดกว้างยิ่งขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 12  เมษายน 2561
 

 

           ค่ายรถโลกตบเท้าลงทุนผลิตแบตเตอรี่อีวีในไทย รับนโยบายรัฐหนุนรถไฟฟ้า ค่ายรถทั่วโลกเตรียมเพิ่มกำลังผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในไทยมากยิ่งขึ้น หลังรัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนด้านผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ขณะที่ตลาดรถยนต์ไฮบริดในประเทศกำลังขยายตัว     นายอันเดรอัส เลทเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เดมเลอร์ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนีวางแผนเปิดโรงงานแบตเตอรี่ขนาด 4.8 หมื่นตารางเมตรในไทยช่วงต้นปี 2562 ภายใต้การบริหารโดยหน่วยธุรกิจของเมอร์เซเดส ซึ่งโรงงานดังกล่าวจะเน้นประกอบแบตเตอรี่รถอีวีให้เมอร์เซเดสโดยเฉพาะ    ทั้งนี้ เมอร์เซเดสกำลังวางแผนขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ออกไปอีก 6 แห่งทั่วโลก ที่ประกอบด้วยในสหรัฐ จีน และไทย โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เมอร์เซเดสประกาศลงทุน 100 ล้านยูโร หรือกว่า 3,900 ล้านบาท จนถึงปี 2563 เพื่อขยายโรงงานประกอบรถยนต์และสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทย นิกเกอิรายงานว่า แผนขยายโรงงานผลิตของเมอร์เซเดสเกิดขึ้นขณะที่ความนิยมรถยนต์ไฮบริดในไทยกำลังเพิ่มขึ้น โดยเมื่อปี 2560 รถไฮบริดคิดเป็นสัดส่วน 40% ของยอดขายรถในไทยของบริษัทขณะเดียวกันรายงานระบุว่า บีเอ็ม ดับเบิลยูบริษัทรถยนต์เยอรมนีรายใหญ่อีกรายกำลังจะลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ที่ จ.ระยอง ซึ่งจะเป็นโรงงานแห่งที่ 4 ของบริษัท หลังตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในเยอรมนี สหรัฐ และจีน โดยปัจจุบันบีเอ็มดับเบิลยูประกอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 4 รุ่นในไทย และจำหน่ายรถยนต์รุ่นดังกล่าวได้ 1,300 คัน

ที่มา : หนังสือพิม  โพสต์ทูเดย์ วันที่ 11  เมษายน 2561
 

 

    นายณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ.อยู่ระหว่างกำหนดมาตรฐานตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (เอสเคิร์ฟ) สอดรับกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมของรัฐบาลก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 (ตุลาคม 2560-มีนาคม 2561) กำหนดมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายแล้ว 45 เรื่อง คิดเป็นความคืบหน้า 38.46% แบ่งเป็นอุตสาหกรรมเดิม 22 เรื่อง และกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต 23 เรื่อง จากเป้าหมายทั้งหมด 117 เรื่อง ตั้งเป้ากำหนดมาตรฐานครบก่อนสิ้นปีงบประมาณคือเดือนกันยายน 2561 โดยกลุ่มต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่มีเพียง 2 กลุ่ม คืออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และอุตสาหกรรมเชื้อเพลิง ชีวภาพและเคมีชีวภาพดำเนินการครบแล้ว ที่เหลือยานยนต์สมัยใหม่, อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร, หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม, อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ยังดำเนินการไม่เสร็จ    นายณัฐพลกล่าวถึงการจัดทำมาตรฐานอุตสาหกรรมเอส (มอก.เอส) เพื่อยกระดับขีดความสามารถเอสเอ็มอีว่า มีการประกาศใช้แล้ว 20 มาตรฐาน ปีนี้กำหนดเพิ่มเติมอีก 20 มาตรฐาน ได้แก่ กลุ่มมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อาทิ น้ำมันกฤษณา ลูกหมากรถยนต์ และกลุ่มมาตรฐานการให้บริการ อาทิ การบริการล้างรถ การบริการซักอบรีด การบริการร้านกาแฟ และเตรียมประกาศมาตรฐานยางล้อเป็นมาตรฐานบังคับ โดยอยู่ระหว่างการตราพระราชกฤษฎีกา และจะประกาศใช้ภายในปีนี้ เพื่อรองรับศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ

ได้ที่มา: หนังสือพิมพ์ มติชน  วันที่ 10  เมษายน 2561

 

     สหภาพยุโรป หรืออียู ประกาศกฎข้อบังคับให้ติดตั้งระบบเตือนภัยฉุกเฉิน (Automatic Emergency Alert System) หรือที่เรียกกันว่า ระบบอีคอล (eCall) ในยานยนต์รุ่นใหม่ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน หรือจากผู้ผลิตค่ายใด จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 เป็นต้นไป อีคอลถือเป็นระบบมาตรฐานจะต้องติดตั้งในยานยนต์เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนระบบดังกล่าวก็คือส่วนหนึ่งของระบบเทเลเมติกส์ (Telematics) มีหน้าที่เชื่อมต่อและรับส่งข้อมูลทางไกล ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์บนสมาร์ทโฟนกับแอพพลิเคชั่น สำหรับคอนติเนนทอลได้พัฒนาระบบ เทเลเมติกส์มาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2539 บริษัทเห็นด้วยกับทางคณะกรรมาธิการยุโรปสำหรับกฎข้อบังคับในการติดตั้งระบบอีคอลในยานยนต์รุ่นใหม่ทุกประเภท        เฮเบลกล่าวว่า ระบบอีคอลเป็นเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ จะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตบนท้องถนน ตอบโจทย์กับวิสัยทัศน์บริษัท คือ การลดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ (Vision Zero) ฟังก์ชั่นการทำงานของระบบ อีคอลจะใช้ระบบเทเลเมติกส์วิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมของผู้ขับขี่ยานยนต์แบบเรียลไทม์ผ่านทางแอพพลิเคชั่น รวมถึงการแจ้งเตือนสภาพการจราจรหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะขับขี่ยานยนต์

ที่มา : หนังสือพิม มติชน  วันที่ 9  เมษายน 2561

 

          ความเป็นไปของงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 ซึ่งปิดฉากลงไปแล้ว อาจเป็นดัชนีชี้วัดประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยในห้วงเวลาปัจจุบันได้พอสมควร หากแต่ในภาพที่กว้างออกไป ภายใต้แนวคิด "ปฏิวัติทุกการเคลื่อนไหว"นอกจากค่ายรถยนต์แต่ละรายจะนำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ที่ประกอบส่วนด้วยนวัตกรรมและการออกแบบที่ล้ำหน้าไปในแต่ละปีแล้ว ประเด็นที่หลายฝ่ายจับตามองก็คือการมาถึงของรถยนต์พลังงานกึ่งไฟฟ้า และพลังงานไฟฟ้า ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนผ่านทั้งในมิติของการเป็นผู้นำตลาด และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตในระบบอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคตอีกด้วย    ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ความพยายามว่าด้วยการส่งเสริมการผลิตและใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ได้รับการกล่าวถึงอยู่เป็นระยะ หากแต่ ดูเหมือนว่ารูปธรรมที่ชัดเจนทั้งในมิติของนโยบายหรือมาตรการเพื่อสร้างแรงจูงใจทั้งต่อผู้บริโภคและผู้ผลิตกลับยังโดดเด่นให้จับต้องได้มากนัก กระทั่งพัฒนาการล่าสุดที่เกิดขึ้นเริ่มปรากฏภาพที่แจ่มชัดขึ้น เมื่อผู้ประกอบการหลายรายต่างทยอยเปิดตัวเทคโนโลยีและรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและกึ่งไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องในห้วงเวลาปัจจุบัน  การปรับตัวของผู้ประกอบการยานยนต์เข้าสู่รถยนต์ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ในด้านหนึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐไทยที่พยายามผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งดำเนินควบคู่ไปกับแผนพัฒนาในโครงการพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ด้วยหวังว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศให้ไหลบ่าเข้ามาช่วยดูดซับภาวะเสื่อมถอยทางเศรษฐกิจให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ที่มา : หนังสือพิม ผู้จัดการสุดสัปดาห์ วันที่ 6  เมษายน 2561
 

 

         Registrations in Germany fell 3.4 percent in March with the decline in diesel-car sales accelerating after a court ruled that cities can ban vehicles to tackle pollution.Total market registrations dropped to 347,433, the country's Federal Motor Vehicle Authority, the KBA, said in a statement on Wednesday.Luxury brands were hit by the decline. Audi's sales fell by 13 percent while registrations of BMW and Mercedes-Benz cars both declined by 5.4 percent. Volvo's volume plunged 25 percent.Some volume brands also had a bad month. Opel's registrations fell 24 percent and Renault's sales declined by 16 percent. Toyota's registrations dropped 6.9 percent, while Citroen's volume was down by 5.1 percent and Ford sales fell 1.2 percent
ที่มา: www.autonews.com  5  เมษายน 2561
 

 

     นายเจน นำชัยศิริ ประธาน ส.อ.ท.ในฐานะประธาน กกร.ว่า เศรษฐกิจไทยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยยังมีแรงส่งจากภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้การส่งออกของไทยเติบโตแข็งแกร่ง และการท่องเที่ยวก็ยังคงขยายตัวได้ดี   โดยเฉพาะการส่งออกที่ขยายตัวมาก และการนำเข้าที่ขยายตัวในทุกหมวดทั้งสินค้าทุนและสินค้าเพื่อการบริโภค สะท้อนถึงการผลิตและการใช้จ่ายในที่ดีขึ้น  กกร.จึงปรับเพิ่มประมาณเศรษฐกิจใหม่ โดยปรับจีดีพี ปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.8-4.5% เพิ่มเป็น 4.0-4.5% การส่งออกจากเดิมคาดว่าขยายตัว 3.5-6.0% เพิ่มเป็น 5.0-8.0% และเงินเฟ้อทั่วไป จากเดิมขยายตัว 1.1-1.6% ลดลงเหลือ 0.7-1.2% “ประมาณการเศรษฐกิจใหม่นี้ คำนวณบนพื้นฐานที่ค่าเงินบาทอยู่ในระดับ 31-32 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐน่าจะปรับสูงขึ้น เพราะในปีนี้สหรัฐน่าจะปรับดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง และปีหน้าอีก 3 ครั้ง น่าจะผลักดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐสูงขึ้นในช่วงต่อไป”   อย่างไรก็ตาม การที่อัตราเงินเฟ้อลดลงสวนทางกับตัวเลขเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากสินค้าคอมมูนิตี้ต่างๆยังไม่ได้มีราคาที่เพิ่มขึ้น เช่น น้ำมัน และราคาสินค้าเกษตรเป็นต้น โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตรที่ยังไม่ดีนัก ทำให้สินค้าในกลุ่มอาหารเพิ่มขึ้นต่ำ กดดันให้อัตราเงินเฟ้อต่ำ

ที่มา : หนังสือพิม เว็บไซต์คมชัดลึก วันที่ 4  เมษายน 2561
 

 

                  นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.62 กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เตรียมบังคับใช้มาตรฐานความปลอดภัยด้านวิศวกรรมยานยนต์ของรถโดยสารเพื่อความปลอดภัย 3 เรื่อง ได้แก่ 1.มาตรฐานความแข็งแรงของที่นั่ง ประกอบด้วย ความแข็งแรงของ โครงสร้างที่นั่งและพนักพิงหลัง, จุดยึดที่นั่ง, พื้นรถหรือตัวถังที่ใช้ติดตั้งที่นั่ง, อุปกรณ์ที่ใช้ยึดที่นั่งกับพื้นและมาตรฐานความแข็งแรงของจุดยึดเข็มขัดนิรภัย เพื่อลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถโดยสาร 2.มาตรฐานการลุกไหม้ของวัสดุตกแต่งภายในตัวรถโดยสาร ต้องเป็นวัสดุทนไฟ หรือลามไฟช้า เช่น เบาะที่นั่ง ผ้าม่าน ผนัง เป็นต้น และ 3.มาตรฐานตัวถังรถ โดยจะบังคับใช้กับ รถใหม่ทุกคันที่จะจดทะเบียน หากพบอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ได้มาตรฐาน จะไม่รับจดทะเบียนและไม่สามารถนำรถมาวิ่งได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ไทยรัฐ  3  เมษายน 2561

 

         “เวียดนาม” ผ่อนคลายมาตรการนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปจากไทย หลัง ม.ค.-ก.พ.ยอดส่งออกยานยนต์และส่วนประกอบไปตลาดเวียดนามวูบหนัก 30% “ฮอนด้า” ส่งลอตแรก 2,000 คัน “มาสด้า-โตโยต้า” จ่อคิวไม่เกินไตรมาส 2 ส่งทั้งรถยนต์นั่งและปิกอัพ “อีซูซุ” เล็งส่งรถบรรทุกทำตลาดปีหน้า   รัฐบาลเวียดนามออกกฎระเบียบเงื่อนไขเกี่ยวกับการผลิต การค้า และการนำเข้ารถยนต์ (Decree 116) มีผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 2561 ส่งผลให้รถยนต์ที่นำเข้าทุกการขนส่ง (shipment) ต้องตรวจไอเสีย และความปลอดภัย รวมถึงมีเอกสารรับรองจากหน่วยงานของประเทศผู้ส่งออก โดยให้เหตุผลว่าเป็นระเบียบที่กำหนดเพื่อควบคุมความปลอดภัยของรถยนต์จากทุกประเทศสร้างความกังวลใจผู้ประกอบการไทย และทำให้การส่งออกยานยนต์และส่วนประกอบของไทยไปยังตลาดเวียดนามในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กุมภาพันธ์) ปรับตัวลดลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 30% ทำให้รัฐบาลไทยและเวียดนามผลักดันการแก้ไขอุปสรรคดังกล่าวนี้มากว่า 3 เดือน    ล่าสุด กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ฮอนด้าได้ทดลองส่งออกรถยนต์ลอตแรกไปเวียดนามแล้ว 2,000 คัน อยู่ระหว่างติดตามผลการดำเนินการตรวจสอบ
ที่มา : หนังสือพิม เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 2  เมษายน 2561
 

 

ศูนย์สารสนเทศยานยนต์

ติดต่อ ศูนย์สารสนเทศยานยนต์ สถาบันยานยนต์

อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา (สพข.) ซ.ตรีมิตร กล้วยน้ำไท ถ.พระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์: 0-2712-2414 ต่อ 6443
email : aiu@thaiauto.or.th