สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก
ข่าวสารยานยนต์
อ่านข่าวสารล่าสุด

ค้นหาข้อมูล

ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม

 

          The Department of Trade and Industry (DTI) expects to finish within the year an incentive package for electric vehicle manufacturers, a top official said. Trade and Industry Undersecretary Rafaelita Aldaba told reporters that the package could include a temporary zero tariff for vehicle importers who plan to eventually manufacture in the country. Aldaba, a technocrat who has recently been promoted undersecretary for the DTI’s competitiveness and innovation group, said the zero tariff could last two to three years. The package is still in the works. The short period of time for the incentive, would be given for the market to form a base, after which the government could grant incentives to the assembly of electric vehicles.
 
 
          Eventually, the goal is to manufacture in the country. However, The companies were not expected to do the entire vehicle here, but to at least use some locally available products like electronic parts. Toyota Motor Philippines Corp. stressed the need to popularize hybrid electric vehicles (HEVs) first before going full electric. Also known as electrified vehicles, this segment is composed of a range of cars that use electricity to run. These include HEVs, which use both a battery and electric motor in addition to an engine that runs on gasoline. Toyota, for one, only sells HEVs in the Philippines. Cutting the tariff to zero for two to three years will be a great help to the company, although a temporary relief. Currently, the import duty is at 30 percent, which gives the Toyota Prius a retail price of P2.2 million.
 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ The Nation ฉบับวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
แหล่งที่มารูป : business.inquirer.net

 

          นายกิตติชัย จรัสโรจน์โภคา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามในบันทึกข้อตกลงเรื่องการแต่งตั้งผู้จำหน่ายรถยนต์ 'ซูบารุ' อย่างเป็นทางการในจังหวัดสระบุรี สมุทรสาคร ปทุมธานี อุบลราชธานี สุรินทร์ ลำปาง สุราษฎร์ธานี สงขลา ชลบุรี และระยอง โดยการลงนามครั้งนี้ส่งผลให้ บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด จะมีผู้จำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็น 35 แห่ง ครอบคลุม 23 จังหวัดทั่วประเทศ
 
          "การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้จะนำมาซึ่งความมั่นใจและความสะดวกสบายยิ่งขึ้นแก่ลูกค้าซูบารุทุกท่าน เนื่องจากเครือข่ายการให้บริการของซูบารุจะขยายครอบคลุมทุกจังหวัดสำคัญที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจทั่วประเทศ และเรามุ่งหวังที่จะตั้งศูนย์บริการให้ได้ 45 แห่งภายในปี พ.ศ. 2562 นี้
 
ที่มา : หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ ฉบับวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
แหล่งที่มารูป : www.checkraka.com
 

 

           บริษัท Toyota Corp. กำลังพิจารณาลงทุนมูลค่า 60,000 ล้านเยน กับบริษัท Didi Chuxing ผู้ให้บริการ Platform Ride Hailing (คล้ายกับ Uber) ในประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็น Platform ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน นอกจากนั้น Toyota เองยังพิจารณาที่จะก่อตั้งบริษัทให้บริการด้านการเคลื่อนที่ (Mobility service provider) ในประเทศจีนอีกด้วย เพื่อเป็นการยกระดับบริษัทให้เข้ากับแนวโน้มเทคโนโลยียานยนต์ของโลกที่เปลี่ยนไปสู่ C-A-S-E เพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้า
 
           ก่อนหน้านี้ Toyota ได้ลงทุนกับบริษัทให้บริการ Platform Ride Hailing รายใหญ่อย่าง Uber และ Grab มาแล้ว นอกจากนั้น ยังได้ร่วมมือกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ Disruptive Technology อีกด้วย
 
 
ที่มา: Automotive News China ประจำวันที่ 30 พฤษภาคม 2562
แหล่งที่มารูป : asia.nikkei.com/
 

 

 

          นายราเมซ นาราสิมัน ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ จับมือ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด และแต่งตั้งให้เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งชุดชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของนิสสัน (ควิก ชาร์จ) ที่ โชว์รูม นิสสันทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้รับแต่งตั้งให้ เป็นตัวแทนจำหน่าย รถยนต์นิสสัน ลีฟ และ ที่ โรงงานผลิตรถยนต์นิสสัน ที่บางนา-ตราม กม.21 ทั้งนี้นิสสัน มีแผนที่จะขยายการให้บริการสำหรับโชว์รูมที่จำหน่ายรถยนต์นิสสัน ลีฟเพิ่มเติม  ภายในระยะเวลา 3 ปีจากนี้หากเป็นไปได้จะขยายให้ได้มากที่สุด หากเป็นไปได้จะขยายให้ครบทุกสาขา แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาจากความพร้อมและความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของในแต่ละพื้นที่เป็นสำคัญ
 
 
 
          ขณะที่นายเซีย เชน เยน ประธานบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าว การติดตั้งชุดชาร์จที่โชว์รูมจะเป็นชุดแบบชาร์จเร็ว กระแสตรง(DC) ขนาด 50 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่นิสสัน ลีฟ เต็มในเวลาเพียง 40 นาทีเท่านั้น ขณะที่อีกหนึ่งทางเลือกของลูกค้าในการติดตั้งชุดชาร์จไฟที่บ้านแบบธรรมดา กระแสสลับ (AC) หรือ “วอลล์ชาร์จ” ขนาด 7.36 กิโลวัตต์ จำหน่ายราคา 45,000 บาทรวมค่าติดตั้ง ใช้เวลาในการชาร์จ นิสสัน ลีฟ ประมาณ 4-6 ชั่วโมง เร็วกว่าชุดชาร์จที่ติดมากับรถซึ่งจะใช้เวลาชาร์จเต็มประมาณ 10 ชั่วโมง
 
 
ที่มา : www.prachachat.net ฉบับวันที่ 30 พฤษภาคม 2562
 

 

         บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ จะเริ่มสร้างโรงงานประกอบรถแห่งแรกที่เมียนมาในปีนี้ เพื่อตอบรับความต้องการรถใหม่ที่ขยายตัว ขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากที่การนำเข้ารถยนต์มือสองถูกควบคุมเข้มงวดมากขึ้นในปี 2560 โตโยต้าจะลงทุนหลายพันล้านเยน ในโรงงานประกอบรถปิคอัพในเขต เศรษฐกิจพิเศษทิลาวา ซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองย่างกุ้ง โดยเมื่อปี 2561 ยอดขายรถใหม่ใน เมียนมาเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็นประมาณ 17,000 คัน และปัจจุบันมีค่ายรถหลายแห่งที่เข้าไป ตั้งฐานการผลิตในเมียนมา อาทิ ซูซูกิ มอเตอร์ ฟอร์ด มอเตอร์ และฮุนได มอเตอร์ เพื่อรองรับความต้องการที่แข็งแกร่ง
 
          คาดว่าการเคลื่อนไหวของโตโยต้าครั้งนี้จะกระตุ้นให้บรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วนรถเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถในเมียนมามากขึ้น ในเบื้องต้น ค่ายรถยนต์ชั้นนำของญี่ปุ่นตั้งเป้าผลิตรถปิคอัพในโรงงานแห่งใหม่ในเมียนมาให้ได้ประมาณปีละ 10,000 คัน ที่ผ่านมา โตโยต้า เข้าไปลงทุนตั้ง โรงงานผลิตใน 5 ประเทศอาเซียน รวมทั้ง ไทยและอินโดนีเซีย แต่กลับมีความระมัดระวัง ในการเข้าไปตั้งโรงงานผลิตในเมียนมา ขณะที่ รัฐบาลเมียนมา มีนโยบายห้ามนำเข้ารถยนต์เพื่อให้บรรดาค่ายรถเข้ามาตั้งฐานการผลิตในเมียนมา ด้วยความหวังว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะช่วยสร้างงานให้ประเทศได้ โดยรัฐบาลเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับรถปิคอัพนำเข้าในอัตราสูงถึง 40% แต่หากเป็นรถที่ผลิตในประเทศไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในส่วนนี้และผู้ผลิตรถยังได้รับ การยกเว้นภาษีด้วย
          
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 29 พฤษภาคม 2562
           สงครามการค้า หรือ Trade War ถูกชุดชนวนขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา หลังสหรัฐและจีนได้เปิดฉากขึ้นภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกันหลายรายการ มูลค่ารวมหลาย แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอลงชัดเจน เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่าการค้าโลกเชื่อมโยงถึงกันหมด ในฐานะที่การส่งออกถือเป็นรายได้หลักของไทย คิดเป็นสัดส่วนราวๆ 60-70% ของจีดีพี เราจึงได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สะท้อนจากตัวเลขส่งออกล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์เดือนเม.ย. ติดลบไป 2.57% หรือ คิดเป็นมูลค่า 18,555 ล้านดอลลาร์ ต่ำสุดใยรอบ 2 ปีโดยหดตัวแทบทุกตลาด โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับหนึ่งของไทย สาเหตุหลัก มาจากสงครามการค้าที่กระทบต่อกำลังซื้อทั่วโลก รวมทั้งความผันผวนของ อัตราแลกเปลี่ยน
 
            หนึ่งในสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ที่หดตัวลงอย่างชัดเจน คือ รถยนต์สำเร็จรูป ตัวเลขล่าสุดเดือนเม.ย. อยู่ที่ 67,114 คัน ต่ำสุดรอบ 2 ปี ลดลงถึง 7.52% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยลดลงเกือบทุกตลาด ยกเว้นออสเตรเลียที่กลับมาเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกของปี และตลาดตะวันออกกลางที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ ส่งผลให้ช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.เม.ย.) มียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปรวม 366,955 คัน ลดลง 0.23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ คิดเป็นมูลค่าส่งออก 185,200 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.46%
 
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 27 พฤษภาคม 2562

                นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ประกาศแต่งตังบริษัท เดลต้า อีเล็คโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้บริการเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบเร็วกระแสตรง และแบบธรรมดากระแสสลับ ที่โชว์รูมตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด 32 แห่ง ทั่วประเทศ โดยความร่วมมือดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย การพัฒนาการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย ที่ต้องการให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า จำนนวน 1.2 ล้านคัน บนท้องถนนภายในปีพ.ศ.2579 และเพื่อส่งมอบเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ที่ได้รับมาตรฐานสากล พร้อมการบริการที่ได้มาตรฐานจากเดลต้า อีเลคทรอนิคส์ และได้รับการรับรองโดยนิสสัน ให้แก่เจ้าของรถยนต์นิสสัน ลีฟ (Nissan LEAF) ในประเทศไทย นายราเมช นาราลิมัน ประธาน นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “นิสสัน ประเทศไทย ขับเคลื่อนอิโคซิลเต็มส์ของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าและคนไทยทุกคน โดยการร่วมสร้างสรรค์อนาคต ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านยานยนต์ไฟฟ้า และเพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจนี้ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับเดลต้า อีเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) เพื่อร่วมกับนิสสันเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้เกิดการเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

ที่มา : หนังสือพิมพ์ แนวหน้า ฉบับวันที่ 24 พฤษภาคม 2562

                เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นายสมบูรณื ตรัยศิลานันท์ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่า บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ ค่ายรถยนต์ของสหรัฐอเมริกามีนโยบายปรับลดพนักงานลงประมาณร้อยละ 10 ทั่วโลก หรือประมาณ 7,000 ตำแหน่ง ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับลดต้นทุนตามแผนปรับโครงสร้างของบริษัท สำหรับบริษัท ฟอร์ด ในประเทศไทยตั้งอยู่ที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้บริหาร แต่การปรับลดดังกล่าวจะไม่กระทบกับลูกจ้างระดับปฎิบัติการ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยอง ติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งชี้แจงข้อกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าบริษัทปฎิบัติไม่ถูกต้องจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือลูกจ้างทันที นายสมบูรณ์กล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 23 พฤษภาคม 2562

                 นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า ฟอร์ด ประเทศไทยประกาศขยายไลน์อัพของ ฟอร์ด เรนเจอร์ เปิดตัวกระบะพันธุ์แกร่ง 6 รุ่นย่อยใหม่ เพื่อมอบตัวเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้า ตอบรับการใช้งานไม่ว่าจะใช้เพื่อการทำงานหรือไลฟ์สไตล์อื่นๆ ได้แก่ ไวล์ดแทรค 1 รุ่น XLT 1 รุ่น XL และ XL+ อีก 4 รุ่น ทำให้ลูกค้าในประเทศไทยมีตัวเลือกถึง 26 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น ไวล์ดแทรค รุ่นลิมิเต็ด รุ่น XLT รุ่น XLS รุ่น XL+ รุ่น XL รุ่นกระบะฐานล้อสั้น (SWB) และสุดยอดรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงอย่าง เรนเจอร์ แร็พเตอร์ การเพิ่มรุ่นของเรนเจอร์ เป็นการมอบตัวเลือกหลากหลายขึ้นให้กับลูกค้าในประเทศไทยสามารถเลือกรถรุ่นที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งในด้านการทำงานและการใช้ชีวิต

ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 22 พฤษภาคม 2562

ศูนย์สารสนเทศยานยนต์

ติดต่อ ศูนย์สารสนเทศยานยนต์ สถาบันยานยนต์

อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา (สพข.) ซ.ตรีมิตร กล้วยน้ำไท ถ.พระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์: 0-2712-2414 ต่อ 6443
email : aiu@thaiauto.or.th