สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก
ข่าวสารยานยนต์
อ่านข่าวสารล่าสุด

ค้นหาข้อมูล

ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม

                 Volvo Cars has signed long-term, multi-billion dollar agreements with Asian manufacturers CATL and LG Chem to supply lithium ion batteries over the next decade to models from its namesake brand and subsidiary Polestar, the company said Wednesday.The deal is crucial to helping Volvo reach its goal of having full-electric cars account for half of its global sales by 2025.“The future of Volvo Cars is electric and we are firmly committed to moving beyond the internal combustion engine,” CEO Hakan Samuelsson said in a release. “Today’s agreements with CATL and LG Chem demonstrate how we will reach our ambitious electrification targets.”For LG Chem, the deal is an extension of its Volvo business as it already provides the batteries for plug-in hybrid variants of models such as the XC90, XC60 and V60.Volvo’s first battery assembly line is under construction at its vehicle manufacturing plant in Ghent, Belgium, and will be ready by year-end to start supplying the full-electric version of the XC40 compact SUV, which will be revealed later this year. Plug-in hybrid variants of the XC40 are already made in Ghent.The XC40 will be the first battery-driven model from the Swedish brand and the second full-electric vehicle from the Volvo Car Group. The first was the Polestar 2.Both vehicles will be on the road by 2020.In addition, both battery-driven models will use the Compact Modular Architecture (CMA) that Volvo developed with Chinese sister brand Geely Automobile. CMA also underpins the 01, 02 and 03 from sibling brand Lynk & CO.The full-electric XC40, Polestar 2 and Lynk & CO 01 will be built on a single production line at a Volvo-operated plant in Luqiao, China.Volvo also plans to offer full-electric models underpinned by the second generation of its Scalable Product Architecture, called SPA2.China’s CATL and LG Chem of South Korea have battery contracts with multiple automakers. Both are playing a key role in boosting the output of EV batteries in Europe.LG Chem was the first Asian supplier to open a battery plant in Europe when it started production at a new Poland facility last year manufacturing cells for Daimler, Porsche, Volvo, Audi, Renault and Jaguar.The company is already planning to expand annual capacity to 70 gigawatt hours in the next few years from about 3 to 5 GWh now, according to Polish media reports that quoted Jong Hyun Kim, president of LG Chem Energy Solutions.CATL, short for Contemporary Amperex Technology Ltd., is scheduled to start production at its 240 million euro factory in Erfurt, Germany, in 2022. That factory that will start by supplying BMW.When asked whether Volvo will also be supplied by the Erfurt plant a spokesman told Automotive News Europe in an email that the company would not comment on sites but added that both suppliers would be present in Europe, Asia and the United States.

บริษัท วอลโว่ ได้เลือกบริษัท CATL และ LG Chem ผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า

ค่ายรถยนต์อย่างบริษัท วอลโว่ คาร์ ได้ประกาศลงนามในข้อตกลงในระยะยาว ที่มีมูลค่าสัญญาหลายพันล้านดอลลาร์กับผู้ผลิตแบตเตอรี่ในเอเชียอย่าง CATL และ LG Chem เพื่อจัดหาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในทศวรรษหน้าให้กับรถยนต์รุ่นใหม่จากแบรนด์เนมที่มีชื่อเสียง บริษัทในเครือโพลีสตาร์กล่าว ข้อตกลงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้วอลโว่บรรลุเป้าหมายในการมีรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ที่จะมียอดขายเป็นครึ่งหนึ่งทั่วโลกภายในปีพ.ศ. 2568 “ อนาคตของวอลโว่คาร์คือไฟฟ้าและเรามุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไป Samuelsson กล่าวว่าในรุ่น “ ข้อตกลงวันนี้กับ CATL และ LG Chem แสดงให้เห็นว่าเราจะบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ทะเยอทะยานของเราได้อย่างไร”สำหรับ LG Chem ข้อตกลงนี้เป็นส่วนเสริมของธุรกิจวอลโว่เนื่องจากมีแบตเตอรี่สำหรับปลั๊กอินไฮบริดหลากหลายรุ่นเช่น XC90, XC60 และ V60 สายการประกอบแบตเตอรีแรกของวอลโว่อยู่ระหว่างการก่อสร้างที่โรงงานผลิตรถยนต์ในเมือง Ghent ประเทศเบลเยียมและจะพร้อมใช้งานภายในสิ้นปีเพื่อเริ่มจัดหารถเอสยูวีรุ่น XC40 ขนาดกะทัดรัดซึ่งจะเปิดเผยในปลายปีนี้ ปลั๊กอินไฮบริดผันแปรของ XC40 นั้นได้ทำขึ้นในเกนต์แล้ว XC40 จะเป็นรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่รุ่นแรกจากแบรนด์สวีเดนและรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันที่สองจาก Volvo Car Group อันแรกก็คือโพลสตา 2 ยานพาหนะทั้งสองคันจะเปิดตัวในปี พ.ศ. 2563 นอกจากนี้ทั้งสองรุ่นใช้แบตเตอรี่จะใช้ Compact Modular Architecture (CMA) ที่วอลโว่พัฒนาด้วย Geely Automobile แบรนด์น้องสาวชาวจีน CMA ยังได้รับการสนับสนุนจาก 01, 02 และ 03 จากแบรนด์พี่น้อง Lynk & CO ด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบ XC40, Polestar 2 และ Lynk & CO 01 จะถูกสร้างขึ้นในสายการผลิตเดียวที่โรงงานที่ดำเนินการโดย Volvo ใน Luqiao, จีนวอลโว่ยังวางแผนที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ได้รับการสนับสนุนจากสถาปัตยกรรมผลิตภัณฑ์ที่ปรับขยายได้รุ่นที่สองที่เรียกว่า SPA2CATL ของจีนและ LG Chem ของเกาหลีใต้มีสัญญาแบตเตอรี่กับผู้ผลิตรถยนต์หลายราย ทั้งสองจะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการส่งออกของแบตเตอรี่ EV ในยุโรปLG Chem เป็นซัพพลายเออร์รายแรกในเอเชียที่เปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในยุโรปเมื่อเริ่มผลิตที่โรงงานแห่งใหม่ในโปแลนด์เมื่อปีที่แล้วเพื่อผลิตเซลล์สำหรับ Daimler, Porsche, Volvo, Audi, Renault และ Jaguar บริษัท กำลังวางแผนที่จะขยายกำลังการผลิตต่อปีเป็น 70 กิกะวัตต์ชั่วโมงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจากประมาณ 3 ถึง 5 กิกะวัตต์ชั่วโมงในขณะนี้ตามรายงานของสื่อโปแลนด์ที่อ้างถึง Jong Hyun Kim ประธาน บริษัท LG Chem Energy Solutions CATL ย่อมาจาก Contemporary Amperex Technology Ltd. มีกำหนดจะเริ่มการผลิตที่โรงงาน 240 ล้านยูโรในเมือง Erfurt ประเทศเยอรมนีในปี 2565 โรงงานที่จะเริ่มผลิตโดยจัดหา BMW เมื่อถามว่าโรงงานของ Erfurt จะจัดหาวอลโว่ด้วยหรือไม่โฆษกของAutomotive News Europe กล่าว ในอีเมลที่ บริษัท จะไม่แสดงความคิดเห็นในเว็บไซต์ แต่เสริมว่าซัพพลายเออร์ทั้งสองจะปรากฏในยุโรปเอเชียและสหรัฐอเมริกา

ที่มา : Automotive News Europe ฉบับวันที่ 15 พฤษภาคม 2562

        การจราจรเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน การที่ต้องติดอยู่ท่ามกลางรถที่ไม่ขยับก็ทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิด เบื่อ และกังวลซึ่งสามารถนำไปสู่พฤติกรรมการขับรถที่ก้าวร้าวไม่พึงประสงค์ ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control – ACC) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องว่าง (Lane Keeping System) สามารถลดปัญหาเหล่านี้ได้โดยการลดความเครียดที่ผู้ขับขี่ต้องเจอในแต่ละวัน ปัจจุบัน ฟอร์ดนำหน้าไปหนึ่งก้าวด้วยเทคโนโลยี ACC และ Lane Keeping System เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้การขับรถเป็นไปอย่างราบรื่นและง่ายดายดังต่อไปนี้

รักษาระยะห่างระหว่างรถ

การขับรถท่ามกลางการจราจรที่หนาแน่นทำให้สมองอ่อนล้าเพราะคุณต้องตื่นตัวตลิดเวลาว่ารถจะเข้าใกลีรถคันหน้ามากเกินไปหรือต้องชะลอความเร็วลงตามคันหน้า เปรียบเทียบได้กับการสอบเป็นเวลาหลายๆชั่วโมง ทั้งๆที่คุณนั่งอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ยังรู้สึกเหนื่อยอ่อน ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติเป็นระบบที่ช่วยควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติเป็นระบบที่ช่วยควบคุมความเร็วตามที่คุณกำหนดและช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างสม่ำเสมอ คุณไม่จำเป็นต้องเบรกหรือคันเร่งตาม ช่วยลดความกังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุยามที่ร่างกายเหนื่อยล้า

ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางอัตโนมัติ

Lane Keeping System ทำหน้าที่ตามชื่อของฟังก์ชัน คือปรับพวงมาลัยเพื่อให้รถของคุณอยู่ในช่องทางหรือสั่นเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้ผู้ขับขี่มีสามธิกับสถานการณ์อื่นๆบนถนน โดยขับรถได้อย่างปลอดภัยและผ่อนคลายยิ่งขึ้น

ป้องกันรถติด

ผลการค้นคว้าเผยว่าหากผู้ขับขี่สามารถเรียนรู้ได้จากความเร็วและระยะห่างมาตรฐานระหว่างรถก็จะสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์รถติดบางประเภทได้ งานวิจัยโดยฟอร์ดและมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์เมื่อปี 2561 ซึ่งจัดขึ้นในสนามปิดเพื่อจำลองสถานการณ์รถติดในโลกจริง แสดงให้เห็นว่าแม้จะมีผู้ขับขี่เพียงหนึ่งในสามที่ใช้ ACC ก็ช่วยป้องกันสภาวะการจราจรติดขัดแบบ Phantom traffic ได้ ความติดขัดแบบนี้เกิดขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และมักจะเกิดจากพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ดี เช่น การขับขี่ การเบรคแบบไม่จำเป็น หรือการเข้าแทรกเกิดเหตุการณ์ใดๆ บนท้องถนน นอกจากระบบอัตโนมัติจะช่วยลดความเครียดและทำให้สภาพแวดล้อมในการขับขี่ผ่อนคลายมากขึ้นแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนการจราจรได้บางสถาณการณ์ได้ เช่นกัน อย่าลืมใช้ ACC และร่วมเป็นฮีโร่ที่ทำให้การจราจรมีสภาพคล่องขึ้นกันเถอะ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 17 พฤษภาคม 2562

              Volvo CEO Hakan Samuelsson believes the industry needs to change the way it brings its products to customers. That is why the automaker debuted its Care by Volvo subscription service in 2017 and last year its stand-alone Volvo Car Mobility unit launched M, a new brand that will expand the companys global mobility operations.Volvo Car Mobilitys mission is to deliver an alternative to car ownership for urban and metro consumers while Care by Volvo provides customers use of a model such as the XC40 compact crossover, including insurance and maintenance, all for one monthly payment.Although Volvo believes these services provide a big benefit, not everyone agrees. U.S. dealers in California have called Care by Volvo illegal and filed a petition to the state's department of motor vehicles to block it. According to Volvo, neither Care by Volvo nor M is facing any legal challenges from dealers in Europe.Samuelsson said services such as Care by Volvo will not work without support from the automakers retailers. “There is a very big misconception that the dealers are going to be told, You guys can drop dead. We dont need you anymore.’ That is absolutely wrong,Samuelsson told Automotive News Europe. “In this new world we need them even more.”Samuelsson believes that dealers that embrace Care by Volvo will extend their connection to the car and its owner for a much longer period than today.“Its wrong to just cash-in on day one and then have a two-year warranty and then someone else takes over,Samuelsson said on the sidelines of a Volvo event in late March. “The dealer gets less and less service and sells fewer and fewer parts that way. We need to look at the profitability of the car over eight years or longer.”He mentioned that length of time because it is expected that vehicles will remain in the Care by Volvo program for that amount of time.Samuelsson feels so strongly about the need to adapt the car ownership model that Volvo in March created a position on its top management board specifically focused on developing direct business relationships with consumers.Last year Volvo said its aim is to build more than 5 million direct consumer relationships by 2025. To reach this goal Samuelsson put Lex Kerssemakers in charge of the new post because the longtime Volvo executive has experience working with the automakers retailers in Europe and the United States.“I think convincing them [dealers] and bringing them on board, making them motivated about this new world requires somebody who understands how the system works,Samuelsson said. “Thats why I think Lex is the right guy to do that. He can go to the dealers and say, This is how it will work and this is your part of it. Its good business because you will get a bigger share of the pie’.”The CEO added that the new job also gives Kerssemakers a chance to really create something new. I think hes very motivated to do that -- and he has the experience to do it.”When asked about the new job Kerssemakers told Automotive News Europe: “One of my tasks will be to reduce the nervousness. Our retail partners are wondering what the future will bring.”His goal is to find the right mix of old and new ideas to lure customers and keep them. “The good thing is that Im coming in from the existing world,Kerssemakers said. “Im trying to bring the two worlds together in such a way that we dont let go of the current system but we are also very open-minded as an organization about the new system.”When asked how hell try to convince reluctant retailers to adapt, he said the key will be providing them with tangible results that Volvos ideas work.“I believe in this,Kerssemakers said, and I want this to succeed because this is how the world will look in the next 10 to 15 years.”

CEO Volvo ตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการถือครองรถยนต์

          นาย Hakan Samuelsson CEO บริษัท Volvo เชื่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการที่จะส่งมอบสินค้าแก่ผู้บริโภค ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Volvo ได้เปิดตัวการจ่ายค่าบริการรายเดือนสำหรับการเช่ารถยนต์ชื่อว่า Care by Volvo ในปี ค.ศ. 2017 และ M ซึ่งเป็นตราสินเค้าสำหรับให้บริการ Mobility Service ของ Volvo ซึ่ง Care by Volvo ถูกต่อต้านโดยตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาว่าเป็นบริการที่ผิดกฎหมาย ซึ่งตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อาจจะมองว่า Care by Volvo จะเข้ามาทดแทนการมีอยู่ของตัวแทนจำหน่าย แต่อย่างไรก็ตามนาย Hakan Samuelsson กล่าวว่า กลับกัน จริงๆ แล้วทาง Volvo จำเป็นต้องพึ่งพาตัวแทนจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากลักษณะการดำเนินการที่เปรียยเสมือนกับการเช่ารถยนต์ในระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งทำให้ทางตัวแทนจำหน่ายเกิดปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น ต่างจากการจำหน่ายรถยนต์ และให้การรับประกันเป็นเวลา 2 ปี และหลังจากนั้นลูกค้าก็จากไปจากตัวแทนจำหน่ายเลย โดยทาง Volvo คาดการณ์ไว้ว่าในปี ค.ศ. 2025 Volvo จะมีสามสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้าจำนวน 5 ล้านคน ผ่านรูปแบบธุรกิจใหม่อย่าง Care by Volvo และ M

ที่มา: Automotive News Europe ประจำวันที่ 14 พฤษภาคม 2562

            วอลโว่คาร์ส บริษัทผลิตรถยนต์จากสวีเดน ที่มีกีลี กลุ่มทุนจีนเป็นเจ้าของ แถลงวานนี้ (15 พ.ค. 62) ว่า บริษัทลงนามข้อนามช้อตกลงระยะยาวกับซีเอเทีแอลและแอสจีเคม กลุ่มบริษัทจากจีนและเกาหลีใต้ ให้เป็นผู้จัดหาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับรถไฟฟ้าของวอลโว่ ซึ่งตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป รถรุ่นใหม่ของบริษัทจะเป็นรถพลังงานลูกผสมและพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น โดยตั้งเป้าว่า ยานยนต์ทั้งสองชนิดจะทำยอดขายเป็นครึ่งหนึ่งของทั้งหมดภายในปี 2568 ขณะที่ยอดขายวอลโว่ปี 2561 อยู่ที่ 642,000 คัน วอลโว่คาร์คาดว่า สายการผลิตแบตเตอรี่ในเบลเยี่ยมจะแล้วเสร็จภายในปีนี้และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มตัวรุ่นแรกของวอลโว่ จะเป็นรถอเนกประสงค์ขนาดเล็กรุ่น “เอ็กซ์ซี 40

ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 16 พฤษภาคม 2562

    ช่วงเหตุการณ์ปล่อยเด็กไว้ในรถตามลำพังกำลังเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจกันมากในช่วงนี้ในหลายประเด็นทั้งประเด็นข้อเท็จจริง และประเด็นทางด้านอารมณ์ซึ่งจะไม่พูดถึงมากนักในเรื่องนั้น แต่สิ่งที่น่าตกใจก็คือ ข่าวคราวการปล่อยเด็กไว้ในรถเกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีหลายครั้งที่เด็กซึ่งช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จนต้องเสียชีวิต การปล่อยเด็กไว้ในรถมีทั้งการลืม และตั้งใจ การลืม เช่น เหตุการณ์รถตู้นักเรียน ลืมเด็กนักเรียน ซึ่งจริงๆแล้วผู้ให้บริการรถสาธารณะ โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก คสรจะต้องใส่ใจในรายละเอียดมากกว่านี้และการตรวจเช็คเป็นเรื่องสำคัญ ที่ควรจะทำให้เป็นเรื่องปกติ อีกกรณีเป็นการตั้งใจปล่อยไว้ในรถ โดยผู้ปกครองอาจมีเหตุผลว่าลงไปแค่ทำธุระแค่ครู่เดียวเท่านั้น จึงติดเครื่องยนต์ทิ้งเอาไว้ ซึ่งถือวว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง เพราะเด็กที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร อาจจะไปโดนอุปกรณ์ต่างๆในรถที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น ปุ่มล็อคประตู หรือบางกรณีอาจจะโดนคันเกียร์จนเปลี่ยนตำแหน่งทำให้รถเคลื่อนที่ได้เช่นกัน ถือเป็นเรื่องอันตราย ซึ่งการที่เกียร์จะเปลี่ยนไปเป็นกียร์ขับเคลื่อน โดยที่ไม่ต้องเหยียบเบรก มักเกิดจากการใส่ตำแหน่งเกียร์ไว้ที่ N สำหรับรถเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งเป็นแนวทางการปฎิบัติท่ไม่ถูกต้องเช่นกัน เพราะตามหลักความปลอดภัยที่ถูกต้องเมื่อผู้ขับไม่อยู่ในตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับ ควรจะต้องใส่เกียร์ P เท่านั้น เพราะถ้าใส่เกียร์ N เมื่อมีเด็กหรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงที่หลายคนชอบพาไปไหนมาไหนด้วย ไปโดนอาจจะมีโอกาสเปลี่ยนเป็น D ได้ หรือบางกรณีที่เคยเกิดเช่นกัน คือ ผู้ขับขี่ลงเดินออกจากรถโดยยังอยู่เกียร์ N แล้วรถไหลมาชน การใส่เกียร์ N โดยที่เครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ หรือแม้แต่ดับแล้วแต่ยังไม่จอดในที่จอดที่เหมาะสม ต้องมีผู้ขับอยู่ในตำแหน่งเท่านั้น เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดก็สามารถเหยียบเบรกได้ทัน ทางออกที่ดีที่สุดคือต้องดับเครื่องยนต์ทุกครั้ง โดยหากทำธุระไม่นานอาจจะใช้วิธีแง้มกระจกออกเอาไว้ให้อากาศถ่ายเท แต่วิธีที่ดีที่สุดคือให้ทุกคนออกจากรถมาก่อน ส่วนในกรณีที่เกิดเหตุการณ์แล้ว ก็ควรจะต้องตัดสินใจแก้ไขอย่างรวดเร็วที่สุด และคำนึงถึงความปลอดภัยของคนมากที่สุด อย่าคำนึงถึงความเสียหายของรถยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งของนอกกาย แต่วิธีที่ดีที่สุด คือ เรียนรู้การใช้งานที่ถูกต้อง เป็นการป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นตามมานั่นเอง

ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 16 พฤษภาคม 2562

             เตทเลฟ วอน เพลเทน สมาชิกคณะกรรมการบริการผู้กำกับดูแลส่วนงานขายและตลาดปอร์เช่ เอจี ประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า ปอร์เช่เผยโฉม คาเยนน์ คูเป้ ครั้งแรกของโลก ต่อยอดความสำเร็จของยนตรกรรมสปอร์ตเอสยูวีรุ่นใหญ่ เจเนอเรชั่นที่ 3 สปอยเลอร์หลังปรับระดับอัตโนมัติเบาะหลังแบบแยกที่นั่งอิสระและการออกแบบหลังคาแตกต่างกัน 2 สไตล์ คือ หลังคากระจกพาโนรามิกเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หรือเลือกติดตั้งหลังคาคาร์บอนเป็ฯอุปกรณ์พิเศษ เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า หรือ 250 กิโลวัตต์ อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลา 6.0 วินาที สำหรับรุ่นเรือธง คาเยนน์ เทอร์โบ คูเป้ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 4.0 ลิตร V8 ทวิน เทอร์โบกำลังสูงสุดกว่า 550 แรงม้า หรือ 404 กิโลวัตต์ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 3.9 วินาที คาเยนน์ คูเป้ เป็นตัวแทนของรถสปอร์ตจากปอร์เช่เพิ่มเติมความอเนกประสงค์และอรรถประโยชน์รอบด้าน สำหรับตัวถังสไตล์คูเป้ คือเทรนด์ที่กำลังมาแรงในรถเอสยูวี

ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 15 พฤษภาคม 2562

                นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า อาวดี้ จัดแคมเปญลูกค้าออกรถยนต์อาวดี้ทุกรุ่น ยกเว้น Q2 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เลือกรับดอกเบี้ยเพียง 1% เฉพาะลูกค้าที่ดาวน์ 30% และผ่อน 48 เดือน “หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานมอเตอร์โชว์ ที่ผ่านมา อาวดี้ ทีที คูเป้ 45 TFSI ควอทโทร เอส ไลน์ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมียอดจำหน่ายเป็นอันดับต้นๆของรถยนต์ที่อาวดี้ ประเทศไทย นำเข้ามาจำหน่ายทั้งหมดอีกด้วย หรือประมาณ 40% ของยอดขายทั้งหมด นายกฤษณะกล่าว สำหรับ อาวดี้ ทีที คูเป้ 45 TFSI ควอทโทร เอส ไลน์ เป็นรถสปอร์ตคูเป้สองประตู ดีไซต์ดุดัน ด้วยชุดแต่งภายนอกแบบ เอส ไลน์ ดีไซต์ใหม่ล่าสุด มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ควอทโทร ขับสนุกราคาจำหน่าย 3,299 ล้านบาท มีให้เลือก 6 สี พร้อมสีใหม่ ฟ้า เทอร์โบ บลู เร็วๆนี้ อาวดี้ประเทศไทย มีแผนจะออกรุ่นพิเศษ ลิมิเต็ด ออกมาอีกด้วย นายกฤษณะกล่าวว่า ภายใต้การทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างอาวดี้ประเทศไทยกับ อาวดี้ เอจี บริษัทแม่ที่เยอรมนี รถยนต์อาวดี้ทุกคัน ทุกรุ่น ที่นำเข้ามาจำหน่ายจะได้รับการปรับสเปกให้เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทยที่มีสภาพอากาศค่อนข้างร้อน อย่างไรก็ตามเพื่อเพิ่มดีกรีความมั่นใจให้กับลูกค้าขึ้นไปอีก โดยมอบแพคเกจบริการหลังการขายให้ลูกค้านำรถเข้ามาตรวจเช็คฟรี 36 รายการ ครอบคลุมระบบเบรค ระบบไฟฟ้า ระบบช่วงล่าง พร้อมมอบส่วนลด 10% สำหรับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ผ้าเบรก จานเบรก น้ำมันเบรก และใบปัดน้ำฝน และลูกค้ามียอดค่าบริการตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ยังจะได้รับแก้วอาวดี้ ควอทโทร ฟรี 1 ใบ วันนี้- 30 มิถุนายน 2562

ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 14 พฤษภาคม 2562

                นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายรถมาสด้าเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทะลุ 6 พันคัน โตเกือบ 40% รวมทั้งยอดขายสะสม 4 เดือน ยังทะลุเกิน 22,000 คัน เพิ่มขึ้น 8% หลังจากเพิ่งเฉลิมฉลองปิดปีงบประมาณไปเกินกว่าที่คาดการณ์ และยังสร้างปรากฎการณ์ใหม่ กลายเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดของมาสด้าทั่วโลก ที่ผ่านมามาสด้ามีรถรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดน้อยมาก แต่ทุกคนในมาสด้าทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในแบรนด์ และเข้าใจผู้จำหน่ายอย่างท่องแท้ เข้าใจระบบการทำงานในทุกภาคส่วน ที่สำคัญเราเข้าใจดีว่าลูกค้ามาสด้าเป็นใครและต้องการอะไรจากมาสด้า การจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องนั้นจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายๆด้านมาผนวกเข้าด้วยกันและดำเนินการไปพร้อมๆกันอันไหนเป็นจุดแข็งต้องรักษาไว้ อันไหนเป็นจุดอ่อน ต้องรีบปรับปรุงแก้ไข นายชาญชัยกล่าวว่า เดือนเมษายนที่ 2561 มาสด้า 2 กวาดยอดขายไปได้ 4,450 คัน ครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง เติบโต 61% รถยนต์มาสด้า 3 จำนวน 430 คัน เพิ่มขึ้น 14% มาสด้า CX-3 จำนวน 267 คัน เพิ่มขึ้น 70% รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 526 คัน เพิ่มขึ้น 27% รถอเนกประสงค์เอสยูวี CX-5 จำนวน 424 คัน และมาสด้า MX-5 จำนวน 2 คัน ส่งผลให้ยอดขายรถมาสด้าในเดือนเมษายนปิดตัวเลขสูงถึง 6,099 คัน และยอดขายสะสม 4 เดือน (มกราคม เมษายน 2562 ) สูงถึง 22,678 คัน เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 21,005 คัน

ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 14 พฤษภาคม 2562

                ดุเดือดเลือดพล่านจริงๆ กับค่าย “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ที่ตั้งแต่ต้นปีเปิดตัวรถใหม่ รถไมเนอร์เชนจ์กันไปหลายรุ่น ล่าสุดเปิดตัวรถในตระกูล ‘Mercedes-AMG’ ซึ่งเป็นรถสปอร์ตของค่ายชนิดคู่แข่งมองค้อนถึง 5 รุ่นรวด มีทั้งแบบนำเข้าทั้งคันและประกอบในประเทศทั้ง 5 รุ่นประกอบไปด้วย

1.       Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe]

2.       Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupe

3.       Mercedes-AMG G 63

4.       Mercedes-AMG C 43 4MATIC และ

5.       Mercedes-AMG E 53 4MATIC+

โดย 2 รุ่นหลังเป็นรุ่นประกอบในประเทศและด้วยต้องการลงข้อมูลต่างๆ ของรถแต่ละรุ่นให้ละเอียดมากที่สุด จึงขอแบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนแรกเน้นไปที่ตัวแรงราคาแบบจัดหนักกันสักหน่อย เริ่มที่ตัวลุยกันก่อน “Mercedes-AMG G 63” สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของรถยนต์ ‘G-Class’ ในตระกูล Mercedes-AMG ดีไซน์ภายนอก Mercedes-AMG G 63 ออกแบบให้สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์เอเอ็มจีและมีรูปลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยโครงสร้างตัวถังทรงสี่เหลี่ยมที่ใช้เหล็กกล้าหลากหลายระดับ มีความทนทานและแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าโครงสร้างเดิมถึง 55% ช่วยดูดซับเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้ดียิ่งขึ้นด้านหน้าของตัวรถเป็นกระจังและกันชนหน้าของเอเอ็มจีที่มีท่อรับอากาศด้านข้างและเก็บขอบเป็นสีน้ำเงินอิริเดียม ไฟหน้าทรงกลมที่ใช้ระบบ MULTIBEAM LED เทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืนปลอดภัยสูงสุดไฟเลี้ยวแบบเชื่อมเข้ากับตัวถัง และตราสัญลักษณ์เอเอ็มจีสีเงิน ที่แขวนยางอะไหล่ด้านหลังพร้อมฝาปิดที่ทำจากสแตนเลสที่มีตราสัญญาลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์แบบ 3 มิติ ในขณะที่สปอยเลอร์ ฝากระโปรงหน้า และประตูใช้อะลูมิเนียมเป็นวัสดุหลัก หลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าล้ออัลลอย AMG ขนาด 21 นิ้ว 5 ก้านคู่ ดีไซน์ภายในตกแต่งใหม่ เพื่อให้ห้องโดยสารมีความทันสมัยและใหญ่ขึ้นในทุกมิติยาวกว่าเดิม 101 ม.ม. กว้างกว่าเดิม 121 ม.ม. และสูงกว่าเดิม 40 ม.ม.

ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ศูนย์สารสนเทศยานยนต์

ติดต่อ ศูนย์สารสนเทศยานยนต์ สถาบันยานยนต์

อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา (สพข.) ซ.ตรีมิตร กล้วยน้ำไท ถ.พระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์: 0-2712-2414 ต่อ 6443
email : aiu@thaiauto.or.th