Nissan Motor is expected to report a more than 90% plunge in first-quarter operating profit on Thursday, Nikkei has learned, and will cut up to 7% of its global workforce as it braces for one of the worst years in a decade.Operating profit in the April to June period will come in at less than 10 billion yen, down from 109.1 billion yen ($1 billion) for the same period a year earlier.The Japanese automaker issued a statement saying that it expects the result "to be close to the figure reported" in the Nikkei article, which it described as "speculative."Sales in the U.S., one of Nissan's biggest markets, continue to fall, while the costs of developing electric vehicles and autonomous driving technologies are weighing heavily on profits.The company is now scrambling to reduce production capacity and intends to increase the planned 4,800 job cuts announced in May to more than 10,000 out of a 139,000-strong workforce.Data from QUICK FactSet shows the automaker's operating profit also fell below 10 billion yen for January to March. The last time Nissan's operating performance dropped so sharply was in January-March 2009, when the company recorded a loss of 200 billion yen.Nissan is scheduled formally to announce the first-quarter results on Thursday afternoon.The carmaker is expected to show a significant decrease in overall sales from the same quarter of 2018, when it recorded turnover of 2.7 trillion yen. Autodata, a market research firm, estimates the company sold around 350,000 units in the U.S., down 4% on the year and greater than the 2% average decline across the American market.Nissan is trying to wean itself off discounting as a means to boost sales in the U.S., and in April-June it decreased dealership incentives -- in effect, raising prices. Yet the automaker is pushing a number of ageing models that have not had major revamps in years, making it harder to persuade drivers to swallow price hikes.The company also suffered sales declines in Europe, where it was hit by tighter environmental regulations. In Japan, the Nissan brand has taken a major hit from the arrest of former chairman Carlos Ghosn for alleged financial misconduct. The executive denies any wrongdoing.But in China, Nissan sales turned upward in June after year-on-year declines in the previous two months. Japanese brands have fared relatively well as the world's biggest auto market has slowed. Chinese operations had no net impact on Nissan's quarterly profit.While sales are under pressure, Nissan is also being forced to invest more to meet new regulations and to develop next generation technology -- connected, autonomous, shared and electric cars. The costs are eating into profit.Higher costs of rare metals and other raw materials, as a result of the U.S.-China conflict, have also hurt the company, along with the impact of a stronger yen against the dollar.Nissan in May had forecast a 230 billion yen operating profit for the fiscal year through March 2020, down 28% from a year earlier. Net profit was expected to come in at 170 billion yen, down 47%.Along with the plunge in earnings, Nissan is expected tomorrow to announce a restructuring plan centered on job cuts and output capacity reductions. Management aims to free up resources -- rendered scarce by Ghosn's expansion drive -- to concentrate on next-generation technology.In May, Nissan announced 19 reform steps designed to reduce annual costs by 30 billion yen, including 4,800 job cuts in North America and other regions. The plan is to accelerate the layoffs by promoting early retirement and other measures. Capacity, mainly in emerging countries, is to be slashed by around 10%.Nissan had a workforce of 139,000 as of March 2018, with 33 plants around the world. Annual production capacity stood at about 6 million vehicles, but its sales of 5.5 million vehicles in 2018 came in well below that.The new restructuring plan is expected to include capacity cuts at around 10 plants worldwide.
Nissan กำไรลดลง 90% อาจจะส่งผลให้คนนับพันตกงาน
Nissan คาดการณ์ว่ากำไรของพวกเขานั้นอาจจะลดลงมากถึง 90% นั่นอาจจะส่งผลให้พวกเขาจำเป็นจะต้องปลดพนักงานทั้งบริษัทลงถึง 7% ของพนักงานทั้งหมด ยอดขายของนิสสันในสหรัฐตกลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการ วิจัยและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์อัตโนมัตินั้นถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงในระดับนึง การที่ยอดขายลดลงนั้นเหมือเป็นการบังคับให้ นิสสันต้องหาหนทางใหม่ในการลงทุนเพื่อเพิ่มกำไร หากแต่ด้วยสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐส่งผลให้วัสดุที่จำเป็นต้องใช้ในการผลิตนั้นราคาสูงขึ้นมาก อีกทั้งด้วยเรื่องค่าเงินเยนแข็งตัวขึ้นอีกจึงเป็นงานยากสำหรับ นิสสันที่จะควบคุมสถานการนี้โดยนิสสันจะประกาศแผนการดำเนินงานและการปลดพนักงานเพื่อเพิ่มกำไรให้กลับมาอยู่ในสภาวะปรกติในภายหลัง
BMW plans to double its U.S. production capacity for lithium ion battery packs at its assembly plant in Spartanburg, S.C., to support electric vehicle output there at its largest plant in the world.The fourth-generation batteries will be used in plug-in hybrid models of the BMW X5 and the future BMW X3, the automaker said Wednesday.The $10 million investment comes as BMW embarks on an ambitious plan to launch 25 electrified vehicles — nearly half of which will be full electric — by 2023.BMW said the additional capacity required it to add an assembly line and expand its battery production area at Spartanburg to more than 86,000 square feet.The new line will be able to produce different types of batteries.BMW has assembled lithium ion battery packs in Spartanburg since 2015 and has produced more than 45,000 units for the X5More than 120 people will be employed in battery pack assembly at the plant by year end.Local assembly of the BMW X 5 xDrive45e will begin in August and BMW X 3 xDrive30e production will start in December
BMW ขยายปริมาณการผลิตแบตเตอรี่ในอเมริกา
BMWมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขึ้นเป็นสองเท่าที่โรงงานผลิตในเมือง Spartanburg เพื่อสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า โดยต้องการให้เป็นโรงงานผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยแบตเตอรี่รุ่นที่4จะสามารถใช้ได้ในรถยนต์รุ่น Plug-in hybrid ซึ่งรวมถึง BMW X5 และ BMW X3 ในอนาคต ซึ่งการเพิ่มยอดการผลิตครั้งนี้ มีเงินลงทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย BMW เริ่มดำเนินการตามแผนที่วางไว้เพื่อเตรียมการในการปล่อยรถยนต์ที่จะประยุกต์เป็นรถยนต์ไฟฟ้าอีกกว่า 25 รุ่นภายในปี 2023 ซึ่งนับเป็นครึ่งหนึ่งของทั้งหมดที่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าBMW กล่าวว่าปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นนี้จะเป็นที่ต้องการของภาคการผลิต และยังเป็นการขยายพื้นที่การผลิตแบตเตอรี่ที่เมือง Spartanburg อีกกว่า 86,000 ตารางฟุต โดยฐานการผลิตใหม่นี้จะสามารถผลิตแบตเตอรี่ได้ในหลากลายรูปแบบ BMW ได้วางแผนการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนในเมือง Spartanburg ตั้งแต่ปี 2015 และผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ BMW X5 ไปกว่า 45,000 หน่วย อีกทั้งยังเป็นการสร้างอาชีพ ซึ่งคาดว่าจะมีการจ้างงานเกิดขึ้นกว่า 120 ตำแหน่งภายในสิ้นปีนี้ โดยการผลิตในท้องถิ่นจะสามารถเริ่มต้นผลิตแบตเตอรี่ xDrive45e สำหรับ BMW X5 ซึ่งจะเริ่มต้นผลิตในเดือนสิงหาคม และแบตเตอรี่รุ่น xDrive30e สำหรับ BMW X3 ซึ่งจะเริ่มต้นผลิตในเดือนธันวาคม
ฟอร์ด มอเตอร์ คอมปานี และ โฟล์คสวาเก้น กรุ๊ป ประกาศขยายความร่วมมือในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และร่วมกับ อาร์โก เอไอ เปิดตัวเทคโนโลยีรถไร้คนขับในสหรัฐอเมริกา และยุโรป เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าของทั้งสองบริษัท เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่าย ดร. เฮอร์เบิร์ท ไดส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โฟล์คสวาเก้น และนายจิม แฮคเก็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คอมปานี ร่วมเปิดเผยว่าบริษัทได้ประกาศร่วมกันในการลงทุนกับอาร์โก เอไอ บริษัทแพลทฟอร์มเทคโนโลยีรถไร้คนขับ โดยจากความร่วมมือระหว่างฟอร์ด และโฟล์คสวาเก้น ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (SDS) ของอาร์โก เอไอ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการรุกตลาดยุโรป และอเมริกา นอกจากนั้น แพลตฟอร์มของอาร์โก เอไอ ที่สามารถเข้าถึงตลาดผ่านเครื่อข่ายทั่วโลกของผู้ผลิตรถยนต์ ยังมีศักยภาพในการขยายเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ ให้ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขวางที่สุดในปัจจุบัน โฟล์คสวาเก้น และฟอร์ดต่างก็จะนำระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติดังกล่าวมาใช้กับรถที่ผลิตขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพื่อสนับสนุนการนำร่องการขนย้ายคนและสินค้าของทั้งสองบริษัท นายแฮคเก็ต กล่าวว่า สิ่งที่อาร์โก เอไอ ให้ความสำคัญยังคงเป็นการนำระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ SEA Level 4-capable ไปประยุกต์ใช้กับรถเพื่อเป็นการใช้บริการ ride sharing และบริการส่งของในพื้นที่ในเมืองที่มีประชากรหนาแน่น
ที่มา : หนังสือพิมพ์ สยามธุรกิจ ฉบับวันที่ 25 กรกฎาคม 2562
เตรียมนับถอยหลังกันแล้ว สำหรับมหกรรมกีฬาของเหล่ามวลมนุษยชาติ หรือ โอลิมปิก 2020 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม – 9 สิงหาคม 2563 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และแม้จะเหลือเวลาอีกถึง 1 ปี ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น แต่เจ้าภาพผู้จัด, สปอนเซอร์หลัก, พันธมิตรต่างๆ เริ่มประชาสัมพันธ์ และมีการจัดกิจกรรมเพื่อทำการโหมโรง โดยเฉพาะพันธมิตรหลังอย่าง โตโยต้า มอเตอร์ คอร์เปอเรชั่น ที่ประกาศความพร้อมด้วยการจัดเตรียมยานพาหนะสำหรับเคลื่อนย้ายผู้โดยสารประมาณ 200 คัน เพื่อรับ-ส่ง ผู้เข้าร่วมชมกีฬาและเจ้าหน้าที่ ให้สามารถเดินทางไปยังสถานที่จัดการแข่งขัน รวมถึงเดินทางไปยังจุดต่างๆภายในบริเวณงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่ใช้จัดกิจกรรมและการแข่งขัน รวมไปถึงหมู่บ้านนักกีฬา นอกจากนั้นแล้ว โตโยต้ายังโชว์นวัตกรรมด้วยการพัฒนายานพาหนะที่ออกแบบพิเศษเพื่อเคลื่อนย้ายผู้โดยสาร (Accessible People Mover – APM) ยานพาหนะพิเศษคันดังกล่าวได้ถูกออกแบบมาขึ้นเพื่อเคลื่อนย้ายผู้คน, อำนวยความสะดวกของผู้โดยสารที่เข้ามาร่วมงาน และเปิดให้บริการทั้งนักกีฬา เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขัน ตลอดจนผู้เข้าชมที่มีความต้องการพิเศษ เช่น ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ผู้พิการ และครอบครัวที่มาพร้อมกับเด็กเล็ก พร้อมกันนี้ยังพัฒนาให้รองรับการกู้ภัยในกิจกรรมตามสถานที่ต่างๆ ในช่วงฤดูร้อนด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 25 กรกฎาคม 2562
Pickup sales in China, which remained robust in 2018, have turned south this year as the slowing domestic economy has dented overall vehicle demand.For the first half, new-pickup deliveries dropped 2.8 percent year on year to approximately 229,000, according to the China Association of Automobile Manufacturers. Meanwhile, as pickups have been increasingly used to carry people, new-pickup purchases continue to migrate from diesel to gasoline models. As a result, while sales of gasoline pickups surged 32 percent from a year earlier to top 68,000 in the first six months, deliveries of diesel pickups slumped 13 percent to roughly 160,000, according to the industry group. The association didn’t disclose pickup sales for individual companies. In the period, Great Wall Motor Co., China’s largest pickup maker, delivered 64,878 pickups, sliding 0.2 percent from the same period last year, according to its filings.Nissan Motor Co. is the only foreign automaker that has localized pickup production. It assembles the Nissan Navara gasoline pickup at its joint venture with Dongfeng Motor Group.General Motors and Ford Motor Co. sell imported gasoline pickups in China. GM markets the Colorado and Silverado under the Chevrolet brand while Ford distributes the F-150 Raptor under the Ford marque. Sales are unavailable for the four pickups marketed under global brands.
ยอดขายรถกระบะลดลงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ยอดขายรถกระบะในประเทศจีนซึ่งยังคงแข็งแกร่งในปีพ.ศ. 2561 แต่ในปีนี้เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวทำให้ความต้องการรถยนต์โดยรวมลดลงสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของจีนเปิดเผยว่าในช่วงครึ่งปีแรกยอดส่งออกรถกระบะใหม่ลดลง 2.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีแตะที่ 229,000 คัน ในขณะเดียวกันเมื่อมีการใช้รถปิคอัพมากขึ้นในการซื้อรถกระบะใหม่ที่เปลี่ยนจากดีเซลไปยังเบนซินเพิ่มมากขึ้น เป็นผลให้ในขณะที่ยอดขายรถปิคอัพน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 32% จากปีก่อนเป็น 68,000 อันดับแรกในช่วง 6 เดือนแรกการส่งออกรถปิคอัพดีเซลลดลง 13% หรือประมาณ 160,000 คัน สมาคมไม่ได้เปิดเผยยอดขายรถกระบะสำหรับในแต่ละบริษัท ในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัท เกรทวอลล์มอเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถปิคอัพรายใหญ่ที่สุดของจีนส่งออกรถปิคอัพ 64,878 คันลดลง 0.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว นิสสันมอเตอร์ จำกัด เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเดียวในต่างประเทศที่ผลิตรถกระบะในประเทศ มันประกอบรถกระบะเบนซิน Nissan Navara ที่ บริษัท ร่วมทุนกับ Dongfeng Motor Group เจเนอรัลมอเตอร์และ บริษัท ฟอร์ดมอเตอร์ขายรถปิคอัพน้ำมันนำเข้าในประเทศจีน จีเอ็มทำตลาดโคโลราโดและ Silverado ภายใต้แบรนด์เชฟโรเลตในขณะที่ฟอร์ดจัดจำหน่าย F-150 Raptor ภายใต้ยี่ห้อฟอร์ด การขายไม่สามารถใช้ได้สำหรับรถปิคอัพทั้งสี่ที่วางตลาดภายใต้แบรนด์ระดับโลก
ที่มา : Automotive News china ฉบับวันที่ 22 กรกฎาคม 2562
The tax incentive package for Fiat Chrysler Automobiles' $1.6 billion conversion of two Detroit engine plants into a new Jeep assembly plant could top $400 million after additional tax increment financing measures are tacked onto the deal.The Michigan Strategic Fund's board on Tuesday approved a plan for redevelopment of the automaker's idled Mack Engine II plant at Mack and Conner avenues that will capture $93 million in local and school taxes generated at the site over 30 years.Those taxes will go toward repaying the Detroit Brownfield Redevelopment Authority, the city of Detroit and the Michigan Strategic Fund for loans all three governmental entities are incurring to develop the plant site for the automaker, according to the Detroit Economic Growth Corp.In May, the Michigan Strategic Fund and City Council approved a tax incentive package for FCA's $4.5 billion investment across five manufacturing plants in Southeast Michigan that was worth $319 million. That package included a $20 million loan from the Michigan Strategic Fund's investment fund and a $7.5 million loan from the City of Detroit."The loans were used for site preparation and environmental remediation costs of City owned and acquired land assembled for the FCA project," Charlotte Fisher, a spokeswoman for the city's growth corporation, said in an email to Crain's Detroit Business, an affiliate of Automotive News. Fiat Chrysler's tax incentives now total $384.5 million and could climb to as high as $422 million if the Michigan Department of Environment, Great Lakes, and Energy approves an additional $37.83 million application for tax increment financing.The automaker submitted a draft plan to that state agency on June 24 that was "missing a significant amount of environmental data for the properties that are included in the project," spokeswoman Jill Greenberg said in an email.FCA has since submitted additional information and the state agency is reviewing the application for the incentive, Greenberg said.
การขึ้นแรงจูงใจภาษีอาจเพิ่มค่าใช้จ่ายของ Fiat Chrysler กว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การขึ้นแรงจูงใจภาษีสำหรับ Fiat Chrysler Automobile (FCA) กว่า1.6พันล้านดอลลาร์สหรัฐทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ 2 โรงงานผลิตเครื่องยนต์ในดีทรอยต์ (Detroit) เป็นโรงงานประกอบรถจีป ซึ่งอาจส่งผลให้ส่วนเพิ่มภาษีในภายหลังเพิ่มขึ้นสูงถึง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐบอร์ดกองทุนยุทธศาสตร์ของมิชิแกนได้รับรองว่าแผนการสำหรับพัฒนาเครื่องยนต์ idled Mack Engine II ของผู้ผลิตยานยนต์อีกครั้งในโรงงานบนถนน Mack และถนน Conner ซึ่งจะสามารถสร้างภาษีท้องถิ่นและโรงเรียนมูลค่าราว 93 ล้านดอลลาร์สหรัฐในระยะยาวกว่า 30 ปีโดยภาษีดังกล่าวจะนำไปใช้จ่ายในโครงการ Detroit Brownfield Redevelopment Authority (DBRA) ซึ่งเป็นกองทุนยุทธศาสตร์ของเมืองดีทรอยต์และมิชิแกนสำหรับกู้ยืมในหน่วยงานราชการ ซึ่งก่อให้เกิดการพัฒนาโรงงานผลิตยานยนต์ รวมถึงการเติบโตของเศรษฐกิจในดีทรอยต์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กองทุนยุทธศาสตร์ของมิชิแกนและสภาเทศบาลเมืองได้อนุมัติการขึ้นภาษีจูงใจสำหรับ FCA ในโครงการลงทุน 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 5 โรงงานผลิตในฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองมิชิแกน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 319 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแพคเกจการขึ้นภาษีจูงใจนี้จะรวมไปถึงเงินกู้ยืมมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากกองทุนยุทธศาสตร์มิชิแกน ซึ่งเป็นกองทุนลงทุน และเงินกู้ยืมจากเทศบาลเมืองของดีทรอยต์อีกกว่า 7.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐชาร์ลอตต์ ฟิชเชอร์ (Charlotte Fisher) โฆษกหญิงของ City Growth Corporation กล่าวว่า “เงินกู้ยืมดังกล่าวจะถูกใช้สำหรับการเตรียมการสร้างโรงงานผลิตและเป็นต้นทุนในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่เทศบาลเป็นเจ้าของ รวมถึงที่ดินที่ได้รับการจัดสรรสำหรับโครงการของ FCA ”ในขณะที่ยอดมูลค่าเพิ่มของภาษีจูงใจสำหรับFCAตอนนี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 384.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 422 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากฝ่ายสิ่งแวดล้อม ทะเลสาบ และพลังงานของมิชิแกนอนุมัติเงินจำนวน 37.83ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการจัดหาเงินทุนเพื่อเพิ่มภาษีผู้ผลิตยานยนต์ได้ส่งร่างแผนการให้กับหน่วยงานรัฐเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งยังขาดข้อมูลสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมสำหรับคุณสมบัติที่จะรวมอยู่ในโครงการ ในขณะที่ FCA ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่หน่วยงานรัฐเพื่อใช้ในการพิจารณาการขึ้นภาษีจูงใจเป็นที่เรียบร้อย
รายงานข่าวจาก สตุ๊ทการ์ท เยอรมนี แจ้งว่า ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) เปิดเผยตัวเลขยอดส่งมอบปอร์เช่ทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 (มกราคม-มิถุนายน) จำนวน 133,484 คัน คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2018 ปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) มียอดส่งออก 41,725 คัน นับเป็นรถยนต์รุ่นที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด เพิ่มขึ้น 45 เปอร์เซ็นต์ หลังจากเปิดตัวและทำตลาดอย่างเป็นทางการในทุกภูมิภาคทั่วโลกตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จามติดด้วยกรเปิดตัวเวอร์ชั่นคูเป้ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตามติดด้วยการเปิดตัวเวอร์ชั่นคูเป้ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับปอร์เช่ มาคัน (Porsche Macan) ยังคงเป็นรุ่นรถยนต์ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดโลก มียอดส่งออกกว่า 47,367 คัน ในครึ่งแรกของปี 2019 ในส่วนของทวีปยุโรป คาดว่าผลประกอบการจะยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการปรับเปลี่ยน ขั้นตอนการทดสอบ WLTP และบังคับใช้ แก๊สโซลีน พาร์ทิคิวเลท ฟิลเตอร์ ในไจรมาสที่ 2 ผลลัพธ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อพิจารณาถึงอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นในตลาดหลักที่สำคัญที่สุดทั้ง 2 แห่งของเรา นั่นคือประเทศจีน และสหรัฐอเมริกา สิ่งที่น่ายินดียิ่งกว่า คือ ยอดจำหน่ายสวนทางกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมในทั้ง 2 ประเทศที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง และในปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความสนใจในรถสปอร์ต 2 ประตู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน” เตทเลฟ วอน พลาเทน สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้กำกับดูแลส่วนงานขายและการตลาด ปอร์เซ่ เอจี กล่าว อัตราการเติบโตในภูมิภาค เอเชีย และอเมริกาเหนือ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 24 กรกฎาคม 2562
Lyft Inc. is making research data on self-driving technology available to the public in a bid to accelerate the development of robotic cars, which is seen as critical to the ride-hailing giant’s future viability.Billing it as the largest such trove of data made available to researchers and rivals, Lyft said Tuesday the initiative includes more than 55,000 three-dimensional frames gleaned from cameras, lidar and radar installed on its research fleet. It also includes data from highly detailed maps created by Lyft’s test vehicles, which have been gathering data for nearly two years.“One way to help accelerate innovation in this space is to have broader collaboration not just with industry, but with academia,” Luc Vincent, executive vice president of Lyft’s autonomous driving unit, said in an interview. “We don’t care about doing everything in secrecy; we care about accelerating the whole industry.”Eliminating the human driver from a cab will cut costs by as much as 60 percent, raising the prospect of lower fares and fatter profits. Lyft has partnered with Google parent Alphabet Inc.’s Waymo autonomous car unit and leading auto software supplier Aptiv, but may have less to lose by making its data public since its own self-driving research is believed to trail industry leaders.The race to the driverless car has slowed considerably since an Uber test vehicle struck and killed a woman last year in Tempe, Ariz. Now tech and auto executives are saying they may have overestimated the arrival of the autonomous age and promise to focus on safety before turning the wheel over to robots.Lyft contends that by releasing its driverless data, it can help push the creators of the technology to come up with solutions that solve the remaining challenges. “It’s quite possible that through this data we will accelerate another player that will eventually create something great,” Vincent said. “Then hopefully we will put that on the Lyft platform.”
Lyft เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีไร้คนขับเพื่อ การพัฒนาร่วมกันที่ดีขึ้น
หนึ่งในวิธีการที่จะเร่งความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยี นั้นไม่ใช้การคิดค้นแต่เพียงหนึ่งหน่วยงาน หากแต่ต้องเป็น การร่วมมือกันพัฒนาไม่ใช่แค่ในระดับองค์กรแต่ต้องรวมถึง เหล่านักศึกษารุ่นใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนา เราไม่เคยคิดว่าเราจำเป็นต้องเก็บข้อมูลเป็นความลับ หากแต่เราสนใจแค่เพียงการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ให้เร็วที่สุด” นาย Luc Vincent รองประธานหน่วยงานพัฒนายานยนต์ไร้คนขับของ Lyft กล่าว Lyft ได้เปิดเผยข้อมูลจากการวิจัยทั้งหมดเกี่ยวกับการพัฒนา นวัตกรรมรถยนต์ไร้คนขับ โดยมีเป้าหมายให้การพัฒนานั้นเป็นไปได้เร็วขึ้น การที่รถสามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้นั้นสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นถึง 60 % แต่จากอุบัติเหตุในการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ ของUber ทำให้หญิงสาวคนนึงเสียชีวิตทำให้พวกเขาตัดสินใจทีจะทำให้รถยนต์ไร้คนขับนั้นปลอดภัยได้มากขึ้น
ที่มา: https://www.autonews.com/mobility-report/lyft-making-driverless-data-public-bid-speed-development