สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก
ข่าวสารยานยนต์
อ่านข่าวสารล่าสุด

ค้นหาข้อมูล

ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม

              The tax incentive package for Fiat Chrysler Automobiles' $1.6 billion conversion of two Detroit engine plants into a new Jeep assembly plant could top $400 million after additional tax increment financing measures are tacked onto the deal.The Michigan Strategic Fund's board on Tuesday approved a plan for redevelopment of the automaker's idled Mack Engine II plant at Mack and Conner avenues that will capture $93 million in local and school taxes generated at the site over 30 years.Those taxes will go toward repaying the Detroit Brownfield Redevelopment Authority, the city of Detroit and the Michigan Strategic Fund for loans all three governmental entities are incurring to develop the plant site for the automaker, according to the Detroit Economic Growth Corp.In May, the Michigan Strategic Fund and City Council approved a tax incentive package for FCA's $4.5 billion investment across five manufacturing plants in Southeast Michigan that was worth $319 million. That package included a $20 million loan from the Michigan Strategic Fund's investment fund and a $7.5 million loan from the City of Detroit."The loans were used for site preparation and environmental remediation costs of City owned and acquired land assembled for the FCA project," Charlotte Fisher, a spokeswoman for the city's growth corporation, said in an email to Crain's Detroit Business, an affiliate of Automotive News. Fiat Chrysler's tax incentives now total $384.5 million and could climb to as high as $422 million if the Michigan Department of Environment, Great Lakes, and Energy approves an additional $37.83 million application for tax increment financing.The automaker submitted a draft plan to that state agency on June 24 that was "missing a significant amount of environmental data for the properties that are included in the project," spokeswoman Jill Greenberg said in an email.FCA has since submitted additional information and the state agency is reviewing the application for the incentive, Greenberg said.

การขึ้นแรงจูงใจภาษีอาจเพิ่มค่าใช้จ่ายของ Fiat Chrysler กว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

การขึ้นแรงจูงใจภาษีสำหรับ Fiat Chrysler Automobile (FCA) กว่า1.6พันล้านดอลลาร์สหรัฐทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ 2 โรงงานผลิตเครื่องยนต์ในดีทรอยต์ (Detroit) เป็นโรงงานประกอบรถจีป ซึ่งอาจส่งผลให้ส่วนเพิ่มภาษีในภายหลังเพิ่มขึ้นสูงถึง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐบอร์ดกองทุนยุทธศาสตร์ของมิชิแกนได้รับรองว่าแผนการสำหรับพัฒนาเครื่องยนต์ idled Mack Engine II ของผู้ผลิตยานยนต์อีกครั้งในโรงงานบนถนน Mack และถนน Conner ซึ่งจะสามารถสร้างภาษีท้องถิ่นและโรงเรียนมูลค่าราว 93 ล้านดอลลาร์สหรัฐในระยะยาวกว่า 30 ปีโดยภาษีดังกล่าวจะนำไปใช้จ่ายในโครงการ Detroit Brownfield Redevelopment Authority (DBRA) ซึ่งเป็นกองทุนยุทธศาสตร์ของเมืองดีทรอยต์และมิชิแกนสำหรับกู้ยืมในหน่วยงานราชการ ซึ่งก่อให้เกิดการพัฒนาโรงงานผลิตยานยนต์ รวมถึงการเติบโตของเศรษฐกิจในดีทรอยต์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กองทุนยุทธศาสตร์ของมิชิแกนและสภาเทศบาลเมืองได้อนุมัติการขึ้นภาษีจูงใจสำหรับ FCA ในโครงการลงทุน 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 5 โรงงานผลิตในฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองมิชิแกน  ซึ่งมีมูลค่ากว่า 319 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแพคเกจการขึ้นภาษีจูงใจนี้จะรวมไปถึงเงินกู้ยืมมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากกองทุนยุทธศาสตร์มิชิแกน ซึ่งเป็นกองทุนลงทุน และเงินกู้ยืมจากเทศบาลเมืองของดีทรอยต์อีกกว่า 7.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐชาร์ลอตต์ ฟิชเชอร์ (Charlotte Fisher) โฆษกหญิงของ City Growth Corporation กล่าวว่า “เงินกู้ยืมดังกล่าวจะถูกใช้สำหรับการเตรียมการสร้างโรงงานผลิตและเป็นต้นทุนในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่เทศบาลเป็นเจ้าของ รวมถึงที่ดินที่ได้รับการจัดสรรสำหรับโครงการของ FCA ”ในขณะที่ยอดมูลค่าเพิ่มของภาษีจูงใจสำหรับFCAตอนนี้ มีมูลค่าอยู่ที่ 384.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 422 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากฝ่ายสิ่งแวดล้อม ทะเลสาบ และพลังงานของมิชิแกนอนุมัติเงินจำนวน 37.83ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการจัดหาเงินทุนเพื่อเพิ่มภาษีผู้ผลิตยานยนต์ได้ส่งร่างแผนการให้กับหน่วยงานรัฐเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งยังขาดข้อมูลสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมสำหรับคุณสมบัติที่จะรวมอยู่ในโครงการ ในขณะที่ FCA ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่หน่วยงานรัฐเพื่อใช้ในการพิจารณาการขึ้นภาษีจูงใจเป็นที่เรียบร้อย

ที่มา: Automotive News Europe ประจำวันที่ 23 กรกฎาคม 2562

                   รายงานข่าวจาก สตุ๊ทการ์ท เยอรมนี แจ้งว่า ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) เปิดเผยตัวเลขยอดส่งมอบปอร์เช่ทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 (มกราคม-มิถุนายน) จำนวน 133,484 คัน คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2018 ปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) มียอดส่งออก 41,725 คัน นับเป็นรถยนต์รุ่นที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด เพิ่มขึ้น 45 เปอร์เซ็นต์ หลังจากเปิดตัวและทำตลาดอย่างเป็นทางการในทุกภูมิภาคทั่วโลกตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จามติดด้วยกรเปิดตัวเวอร์ชั่นคูเป้ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตามติดด้วยการเปิดตัวเวอร์ชั่นคูเป้ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับปอร์เช่ มาคัน (Porsche Macan) ยังคงเป็นรุ่นรถยนต์ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดโลก มียอดส่งออกกว่า 47,367 คัน ในครึ่งแรกของปี 2019 ในส่วนของทวีปยุโรป คาดว่าผลประกอบการจะยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการปรับเปลี่ยน ขั้นตอนการทดสอบ WLTP และบังคับใช้ แก๊สโซลีน พาร์ทิคิวเลท ฟิลเตอร์ ในไจรมาสที่ 2 ผลลัพธ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อพิจารณาถึงอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นในตลาดหลักที่สำคัญที่สุดทั้ง 2 แห่งของเรา นั่นคือประเทศจีน และสหรัฐอเมริกา สิ่งที่น่ายินดียิ่งกว่า คือ ยอดจำหน่ายสวนทางกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมในทั้ง 2 ประเทศที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง และในปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความสนใจในรถสปอร์ต 2 ประตู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน” เตทเลฟ วอน พลาเทน สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้กำกับดูแลส่วนงานขายและการตลาด ปอร์เซ่ เอจี กล่าว อัตราการเติบโตในภูมิภาค เอเชีย และอเมริกาเหนือ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 24 กรกฎาคม 2562

Lyft Inc. is making research data on self-driving technology available to the public in a bid to accelerate the development of robotic cars, which is seen as critical to the ride-hailing giant’s future viability.Billing it as the largest such trove of data made available to researchers and rivals, Lyft said Tuesday the initiative includes more than 55,000 three-dimensional frames gleaned from cameras, lidar and radar installed on its research fleet. It also includes data from highly detailed maps created by Lyft’s test vehicles, which have been gathering data for nearly two years.“One way to help accelerate innovation in this space is to have broader collaboration not just with industry, but with academia,” Luc Vincent, executive vice president of Lyft’s autonomous driving unit, said in an interview. “We don’t care about doing everything in secrecy; we care about accelerating the whole industry.”Eliminating the human driver from a cab will cut costs by as much as 60 percent, raising the prospect of lower fares and fatter profits. Lyft has partnered with Google parent Alphabet Inc.’s Waymo autonomous car unit and leading auto software supplier Aptiv, but may have less to lose by making its data public since its own self-driving research is believed to trail industry leaders.The race to the driverless car has slowed considerably since an Uber test vehicle struck and killed a woman last year in Tempe, Ariz. Now tech and auto executives are saying they may have overestimated the arrival of the autonomous age and promise to focus on safety before turning the wheel over to robots.Lyft contends that by releasing its driverless data, it can help push the creators of the technology to come up with solutions that solve the remaining challenges. “It’s quite possible that through this data we will accelerate another player that will eventually create something great,” Vincent said. “Then hopefully we will put that on the Lyft platform.”

Lyft เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีไร้คนขับเพื่อ การพัฒนาร่วมกันที่ดีขึ้น

หนึ่งในวิธีการที่จะเร่งความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยี นั้นไม่ใช้การคิดค้นแต่เพียงหนึ่งหน่วยงาน หากแต่ต้องเป็น การร่วมมือกันพัฒนาไม่ใช่แค่ในระดับองค์กรแต่ต้องรวมถึง เหล่านักศึกษารุ่นใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนา เราไม่เคยคิดว่าเราจำเป็นต้องเก็บข้อมูลเป็นความลับ หากแต่เราสนใจแค่เพียงการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ให้เร็วที่สุด” นาย Luc Vincent  รองประธานหน่วยงานพัฒนายานยนต์ไร้คนขับของ Lyft กล่าว Lyft ได้เปิดเผยข้อมูลจากการวิจัยทั้งหมดเกี่ยวกับการพัฒนา นวัตกรรมรถยนต์ไร้คนขับ โดยมีเป้าหมายให้การพัฒนานั้นเป็นไปได้เร็วขึ้น การที่รถสามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้นั้นสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นถึง 60 % แต่จากอุบัติเหตุในการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ ของUber ทำให้หญิงสาวคนนึงเสียชีวิตทำให้พวกเขาตัดสินใจทีจะทำให้รถยนต์ไร้คนขับนั้นปลอดภัยได้มากขึ้น

ที่มา: https://www.autonews.com/mobility-report/lyft-making-driverless-data-public-bid-speed-development

รายงานข่าวจากเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม ประเทศไทย แจ้งว่า จีเอ็มประกาศแต่งตั้งนายเฮกเตอร์ บีจาเรียล ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผลทันที นายเฮกเตอร์จะประจำอยู่ที่สำนักงานในกรุงเทพฯ ประเทศไทย เพื่อเข้ามาบริหารดูแลตลาดที่มีความสำคัญนี้ หลังจากนายเอียน นิโคลส์ ตัดสินใจเกษียณอายุหลังจากทำงานให้กับจีเอ็มมาเป็นเวลา 27 ปี ก่อนหน้าจะมารับตำแหน่งประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ นายเฮกเดอร์ ดำรงตำแหน่งกรรมการ จีเอ็ม เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ นายเฮกเดอร์ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม รัสเซีย ในบทบาทใหม่ที่เขาจะมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจและความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เซฟโรเลตในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งเน้นกลยุทธ์การทำการตลาดรถกระบะและรถอเนกประสงค์ของเซฟโรเลต อาทิ รถกระบะโคโลราโดและรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์ รวมถึงการเปิดตัวรถอเนกประสงค์ แคปติวา รุ่นใหม่ประเทศไทย “นายเฮกเตอร์จะนำความรู้และความเชี่ยวชาญทางการค้าและการพานิชย์มาบริหาร จีเอ็ม ตะวันออกเฉียงใต้ เขาได้สั่งสมประสบการณ์จากการบริหารธุรกิจ และหน่วยงานต่างๆ ภายในจีเอ็มในหลายตลาด ได้แก่ เม็กซิโก เกาหลี อุซเบกิสถาน และรัสเซีย เขามีความเข้าใจในธุรกิจของเราอย่างถ่องแท้ และประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งกับฝ่ายต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ผู้แทนจำหน่าย และผู้จัดจำหน่ายของเรา แอนดี้ ดันสแตน ประธานกรรมการและกรรมการเชิงกลยุทธ์ พันธมิตรและผู้แทนจำหน่าย กล่าว นายเฮกเตอร์ เริ่มต้นการทำงานกับจีเอ็มในตำแหน่งวิศวกรโครงการฝ่ายผลิตที่ศูนย์การผลิตรามอส อาริสเพในแม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา รวมถึงการเป็นผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมอุตนสาหการและผู้อำนวยการกลุ่มรถยนต์ และยังเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและจัดการโครงสร้างที่จีเอ็ม เม็กซิโก ในปี 2555 นายเฮกเตอร์ร่วมงานกับจีเอ็ม เกาหลี ในตำแหน่งรองประธานกรรมการ ฝ่ายวางแผนและจัดการโครงสร้างก่อนในปี 2558 เข้ารับตำแหน่งประธานกรรมากรและกรรมการผู้จัดการ จีเอ็มโอเปอร์เรชั่น อถซเบกิสถาน ต่อมาในปี 2560 นายเฮกเตอร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม รัสเซีย นายเฮกเตอร์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมเครื่องกลจากสถาบันเทคโนโลยีมอนเทอเรย์ (Instituto Tecnologico yde Estudios Superiores de Monterrey) และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท คณะวิศวกรรมอุตสาหการจากสถาบันเดียวกัน เขาสมรสแล้วและมีบุตรธิดา 3 คน

ทีมา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 24 กรกฎาคม 2562

รายงานข่าวจาก สตุ๊ทการ์ท เยอรมนี แจ้งว่า ปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) เปิดเผยตัวเลขยอดส่งมอบปอร์เช่ทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 (มกราคม-มิถุนายน) จำนวน 133,484 คัน คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2018 ปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne) มียอดส่งออก 41,725 คัน นับเป็นรถยนต์รุ่นที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด เพิ่มขึ้น 45 เปอร์เซ็นต์ หลังจากเปิดตัวและทำตลาดอย่างเป็นทางการในทุกภูมิภาคทั่วโลกตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จามติดด้วยกรเปิดตัวเวอร์ชั่นคูเป้ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตามติดด้วยการเปิดตัวเวอร์ชั่นคูเป้ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำหรับปอร์เช่ มาคัน (Porsche Macan) ยังคงเป็นรุ่นรถยนต์ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดโลก มียอดส่งออกกว่า 47,367 คัน ในครึ่งแรกของปี 2019 ในส่วนของทวีปยุโรป คาดว่าผลประกอบการจะยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการปรับเปลี่ยน ขั้นตอนการทดสอบ WLTP และบังคับใช้ แก๊สโซลีน พาร์ทิคิวเลท ฟิลเตอร์ ในไจรมาสที่ 2 ผลลัพธ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อพิจารณาถึงอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นในตลาดหลักที่สำคัญที่สุดทั้ง 2 แห่งของเรา นั่นคือประเทศจีน และสหรัฐอเมริกา สิ่งที่น่ายินดียิ่งกว่า คือ ยอดจำหน่ายสวนทางกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมในทั้ง 2 ประเทศที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง และในปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความสนใจในรถสปอร์ต 2 ประตู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน” เตทเลฟ วอน พลาเทน สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้กำกับดูแลส่วนงานขายและการตลาด ปอร์เซ่ เอจี กล่าว อัตราการเติบโตในภูมิภาค เอเชีย และอเมริกาเหนือ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 24 กรกฎาคม 2562

รายงานข่าวจากเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม ประเทศไทย แจ้งว่า จีเอ็มประกาศแต่งตั้งนายเฮกเตอร์ บีจาเรียล ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผลทันที นายเฮกเตอร์จะประจำอยู่ที่สำนักงานในกรุงเทพฯ ประเทศไทย เพื่อเข้ามาบริหารดูแลตลาดที่มีความสำคัญนี้ หลังจากนายเอียน นิโคลส์ ตัดสินใจเกษียณอายุหลังจากทำงานให้กับจีเอ็มมาเป็นเวลา 27 ปี ก่อนหน้าจะมารับตำแหน่งประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ นายเฮกเดอร์ ดำรงตำแหน่งกรรมการ จีเอ็ม เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ นายเฮกเดอร์ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม รัสเซีย ในบทบาทใหม่ที่เขาจะมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจและความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เซฟโรเลตในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งเน้นกลยุทธ์การทำการตลาดรถกระบะและรถอเนกประสงค์ของเซฟโรเลต อาทิ รถกระบะโคโลราโดและรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์ รวมถึงการเปิดตัวรถอเนกประสงค์ แคปติวา รุ่นใหม่ประเทศไทย “นายเฮกเตอร์จะนำความรู้และความเชี่ยวชาญทางการค้าและการพานิชย์มาบริหาร จีเอ็ม ตะวันออกเฉียงใต้ เขาได้สั่งสมประสบการณ์จากการบริหารธุรกิจ และหน่วยงานต่างๆ ภายในจีเอ็มในหลายตลาด ได้แก่ เม็กซิโก เกาหลี อุซเบกิสถาน และรัสเซีย เขามีความเข้าใจในธุรกิจของเราอย่างถ่องแท้ และประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งกับฝ่ายต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ผู้แทนจำหน่าย และผู้จัดจำหน่ายของเรา แอนดี้ ดันสแตน ประธานกรรมการและกรรมการเชิงกลยุทธ์ พันธมิตรและผู้แทนจำหน่าย กล่าว นายเฮกเตอร์ เริ่มต้นการทำงานกับจีเอ็มในตำแหน่งวิศวกรโครงการฝ่ายผลิตที่ศูนย์การผลิตรามอส อาริสเพในแม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา รวมถึงการเป็นผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมอุตนสาหการและผู้อำนวยการกลุ่มรถยนต์ และยังเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและจัดการโครงสร้างที่จีเอ็ม เม็กซิโก ในปี 2555 นายเฮกเตอร์ร่วมงานกับจีเอ็ม เกาหลี ในตำแหน่งรองประธานกรรมการ ฝ่ายวางแผนและจัดการโครงสร้างก่อนในปี 2558 เข้ารับตำแหน่งประธานกรรมากรและกรรมการผู้จัดการ จีเอ็มโอเปอร์เรชั่น อถซเบกิสถาน ต่อมาในปี 2560 นายเฮกเตอร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม รัสเซีย นายเฮกเตอร์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมเครื่องกลจากสถาบันเทคโนโลยีมอนเทอเรย์ (Instituto Tecnologico yde Estudios Superiores de Monterrey) และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท คณะวิศวกรรมอุตสาหการจากสถาบันเดียวกัน เขาสมรสแล้วและมีบุตรธิดา 3 คน

ทีมา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 24 กรกฎาคม 2562

บลูมเบิร์ก – บริษัท วอลโว่ คาร์ส กำลังเรียกรถยนต์คืนทั่วโลกกว่า 507,000 คัน เนื่องจากท่อเครื่องยนต์พลาสติกอาจละลายและเสียรูปได้ ซึ่งในกรณีรุนแรงที่สุดอาจส่งผลให้เกิดไฟลุกไหม้ได้ โฆษกของบริษัทไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบทางการเงินจากการเรียกรถคืน แต่จะแก้ไขรถยนต์ที่บกพร่องให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับรถยนต์ที่จะเรียกคืนได้แก่รถยนต์ที่ผลิตในระหว่างปี ค.ศ. 2014 2019 ที่มีเครื่องยนต์ดีเซล 2000 ซีซี สี่กระบอกสูบ ซึ่งได้แก่รุ่น S60, S80, S90, V40, V60, V70, V90, XC60, และ XC90 ในขณะนี้วอลโว่ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บ แต่ลูกค้าจะได้รับหนังสือให้ไปติดต่อบริษัทวอลโว่ในท้องถิ่น

ที่มา : หนังสือพิมพ์ ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 24 กรกฎาคม 2562

Beijing has rolled out the most generous subsidy program among domestic cities to encourage use of full-electric vehicles as taxis. Under the program, Chinas capital will offer up to 73,800 yuan ($10,727) per vehicle if a taxi operator buys EVs to replace gasoline vehicles that have been scrapped since 2018 or will be scrapped by 2020, the Beijing city government said on its website. Eligible EVs must have a minimum range of 300 kilometers (186 miles) and their manufacturers must provide a warranty of eight years or mileage of 600,000 km for EV batteries.The subsidy program, which took effect July 16, will remain through 2020.Beijing, with nearly 22 million residents, is Chinas second most populous city, after Shanghai. The city has roughly 67,000 taxis, according to the local government

รัฐบาลปักกิ่งเสนอเงินสนับสนุนเพื่อเปลี่ยนรถแท็กซี่ให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า

รัฐบาลปักกิ่งจะเสนอเงินสนับสนุนมูลค่า 73,800 หยวน (ประมาณ 330,000 บาท) สำหรับเจ้าของรถแท็กซี่ที่มีกำหนดต้องเปลี่ยนรถใหม่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 2020 โดยมีข้อแม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่จะได้รับการอุดหนุนจะต้องมีระยะทางวิ่งได้ 300 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง และมีการรับประกับแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 600,000 กิโลเมตร โดยการอุดหนุนดังกล่าวได้เริ่มในวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

Volvo is recalling 507,000 vehicles worldwide because of a faulty engine component that, in extreme cases, could result in a fire.Volvo said its own investigations have identified that “in very rare cases the plastic engine intake manifold may melt and deform.”The cars being recalled were produced between 2014 and 2019 and have a 2.0-liter, four-cylinder diesel engine, Volvo said.The affected models are the S60, S80, S90, V40, V60, V70, V90, XC60 and XC90.While the company has no reports of accidents or personal injuries, all customers will receive a letter asking them to contact their local retailer for corrective action."In the very worst case, there is a possibility that a localized engine bay fire may occur," Volvo said.When asked to provide details of the potential financial impact, Stefan Elfstrom, a spokesman for the automaker, said, "We don't comment on the cost."The company is keen to fix the faulty vehicles as fast as possible and customers will not incur any costs related to addressing the error, he said

วอลโว่เรียกคืนรถยนต์กว่า 507,000 คันทั่วโลก หลังจากสอบสวนพบความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดไฟไหม้

วอลโว่ (Volvo) เรียกคืนรถยนต์ 507,000 คันทั่วโลก เนื่องจากความผิดพลาดในส่วนประกอบของเครื่องยนต์ ซึ่งในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดอาจก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ วอลโว่กล่าวว่าในการสอบสวนของทางบริษัทสามารถระบุได้ว่า “เป็นเหตุที่พบได้ยากในกรณีที่พลาสติกของเครื่องยนต์ท่อไอดีอาจเกิดการละลายและผิดรูป”โดยรถยนต์ที่ถูกเรียกคืนคือรถยนต์ที่ถูกผลิตขึ้นในระหว่างปี 2014 ถึง 2019 ขนาดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เครื่องยนต์ดีเซล 4 กระบอกสูบ ซึ่งรุ่นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ S60, S80, S90, V40, V60, V70, V90, XC60, และ XC90 ในขณะที่ทางบริษัทยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุ หรือ การบาดเจ็บส่วนบุคคล โดยลูกค้าจะได้รับจดหมายสอบถามถึงการติดต่อกับศูนย์วอลโว่ในพื้นที่สำหรับการดำเนินการแก้ไข ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดไฟไหม้ที่ห้องเครื่อง ซึ่งเมื่อถามถึงรายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น สเตฟาน เอลฟ์สตอร์ม (Stefan Elfstorm) โฆษกของวอลโว่กล่าวว่า “เราขอไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่าย” โดยบริษัทมีความกระตือรือร้นที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดของรถยนต์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และลูกค้าไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดนี้

ที่มา: Automotive News Europe ประจำวันที่ 22 กรกฎาคม 2562

ศูนย์สารสนเทศยานยนต์

ติดต่อ ศูนย์สารสนเทศยานยนต์ สถาบันยานยนต์

อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา (สพข.) ซ.ตรีมิตร กล้วยน้ำไท ถ.พระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์: 0-2712-2414 ต่อ 6443
email : aiu@thaiauto.or.th