นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายรถมาสด้าเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทะลุ 6 พันคัน โตเกือบ 40% รวมทั้งยอดขายสะสม 4 เดือน ยังทะลุเกิน 22,000 คัน เพิ่มขึ้น 8% หลังจากเพิ่งเฉลิมฉลองปิดปีงบประมาณไปเกินกว่าที่คาดการณ์ และยังสร้างปรากฎการณ์ใหม่ กลายเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดของมาสด้าทั่วโลก ที่ผ่านมามาสด้ามีรถรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดน้อยมาก แต่ทุกคนในมาสด้าทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในแบรนด์ และเข้าใจผู้จำหน่ายอย่างท่องแท้ เข้าใจระบบการทำงานในทุกภาคส่วน ที่สำคัญเราเข้าใจดีว่าลูกค้ามาสด้าเป็นใครและต้องการอะไรจากมาสด้า การจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องนั้นจำเป็นต้องอาศัยปัจจัยหลายๆด้านมาผนวกเข้าด้วยกันและดำเนินการไปพร้อมๆกันอันไหนเป็นจุดแข็งต้องรักษาไว้ อันไหนเป็นจุดอ่อน ต้องรีบปรับปรุงแก้ไข นายชาญชัยกล่าวว่า เดือนเมษายนที่ 2561 มาสด้า 2 กวาดยอดขายไปได้ 4,450 คัน ครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง เติบโต 61% รถยนต์มาสด้า 3 จำนวน 430 คัน เพิ่มขึ้น 14% มาสด้า CX-3 จำนวน 267 คัน เพิ่มขึ้น 70% รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 526 คัน เพิ่มขึ้น 27% รถอเนกประสงค์เอสยูวี CX-5 จำนวน 424 คัน และมาสด้า MX-5 จำนวน 2 คัน ส่งผลให้ยอดขายรถมาสด้าในเดือนเมษายนปิดตัวเลขสูงถึง 6,099 คัน และยอดขายสะสม 4 เดือน (มกราคม – เมษายน 2562 ) สูงถึง 22,678 คัน เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 21,005 คัน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 14 พฤษภาคม 2562
ดุเดือดเลือดพล่านจริงๆ กับค่าย “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ที่ตั้งแต่ต้นปีเปิดตัวรถใหม่ รถไมเนอร์เชนจ์กันไปหลายรุ่น ล่าสุดเปิดตัวรถในตระกูล ‘Mercedes-AMG’ ซึ่งเป็นรถสปอร์ตของค่ายชนิดคู่แข่งมองค้อนถึง 5 รุ่นรวด มีทั้งแบบนำเข้าทั้งคันและประกอบในประเทศทั้ง 5 รุ่นประกอบไปด้วย
1. Mercedes-AMG GT 53 4MATIC+ 4-Door Coupe]
2. Mercedes-AMG GT 63 S 4MATIC+ 4-Door Coupe
3. Mercedes-AMG G 63
4. Mercedes-AMG C 43 4MATIC และ
5. Mercedes-AMG E 53 4MATIC+
โดย 2 รุ่นหลังเป็นรุ่นประกอบในประเทศและด้วยต้องการลงข้อมูลต่างๆ ของรถแต่ละรุ่นให้ละเอียดมากที่สุด จึงขอแบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนแรกเน้นไปที่ตัวแรงราคาแบบจัดหนักกันสักหน่อย เริ่มที่ตัวลุยกันก่อน “Mercedes-AMG G 63” สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของรถยนต์ ‘G-Class’ ในตระกูล Mercedes-AMG ดีไซน์ภายนอก Mercedes-AMG G 63 ออกแบบให้สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์เอเอ็มจีและมีรูปลักษณ์ไม่เหมือนใคร ด้วยโครงสร้างตัวถังทรงสี่เหลี่ยมที่ใช้เหล็กกล้าหลากหลายระดับ มีความทนทานและแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าโครงสร้างเดิมถึง 55% ช่วยดูดซับเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้ดียิ่งขึ้นด้านหน้าของตัวรถเป็นกระจังและกันชนหน้าของเอเอ็มจีที่มีท่อรับอากาศด้านข้างและเก็บขอบเป็นสีน้ำเงินอิริเดียม ไฟหน้าทรงกลมที่ใช้ระบบ MULTIBEAM LED เทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืนปลอดภัยสูงสุดไฟเลี้ยวแบบเชื่อมเข้ากับตัวถัง และตราสัญลักษณ์เอเอ็มจีสีเงิน ที่แขวนยางอะไหล่ด้านหลังพร้อมฝาปิดที่ทำจากสแตนเลสที่มีตราสัญญาลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์แบบ 3 มิติ ในขณะที่สปอยเลอร์ ฝากระโปรงหน้า และประตูใช้อะลูมิเนียมเป็นวัสดุหลัก หลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าล้ออัลลอย AMG ขนาด 21 นิ้ว 5 ก้านคู่ ดีไซน์ภายในตกแต่งใหม่ เพื่อให้ห้องโดยสารมีความทันสมัยและใหญ่ขึ้นในทุกมิติยาวกว่าเดิม 101 ม.ม. กว้างกว่าเดิม 121 ม.ม. และสูงกว่าเดิม 40 ม.ม.
ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
Nissan's Spanish unit has reached an agreement with unions to cut 600 jobs at its plant in Barcelona, or almost 20 percent of the plant's workforce.The layoffs are a mixture of buyouts and early retirements over the next year. They were a condition for a planned investment of 70 million euros ($79 million) in a new painting facility, Nissan said in a statement on Thursday.Nissan reached the agreement after more than a month of negotiations with unions. As part of the deal, any further changes to the workforce are to be negotiated separately with unions.The factory builds the Nissan Navara, Renault Alaskan and Mercedes-Benz X class pickups, and the NV200 light commercial van, according to Automotive News Europe's Guide to European Assembly Plants. It also built the Pulsar until the slow-selling compact hatchback was discontinued in Europe last year.
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประกาศจะลดงาน 600 ตำแหน่งจากโรงงานในเมืองบาร์เซโลนา (Barcelona)
หน่วยงานในประเทศสเปนของบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ได้ประกาศถึงข้อตกลงกับสหภาพเพื่อลดงาน 600ตำแหน่งที่โรงงานในบาร์เซโลนาหรือเกือบ 20% ของกำลังแรงงานของโรงงาน การปลดพนักงานเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อกิจการและการเกษียณอายุก่อนกำหนดในปีหน้า ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำหรับการลงทุนตามแผน 70 ล้านยูโร (79ล้านดอลลาร์) ในโรงงานผลิตสีใหม่ ทางบริษัท นิสสันกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บริษัท นิสสัน ได้ ผ่านข้อตกลงหลังจากการเจรจากับสหภาพแรงงานนานกว่าหนึ่งเดือน ในส่วนของข้อตกลงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับพนักงานจะต้องมีการเจรจาแยกต่างหากกับสหภาพ ซึ่งทางโรงงานสร้างนิสสันนาวารา, เรโนลต์อลาสก้าและ Mercedes-Benz X รถปิคอัพระดับและแสง NV200 รถตู้เพื่อการพาณิชย์ตามข่าวยานยนต์ของยุโรป คู่มือพืชสภายุโรป นอกจากนี้ยังสร้าง Pulsar จนกระทั่งรถแฮทช์แบคขนาดกะทัดรัดที่ขายช้าถูกหยุดผลิตในยุโรปเมื่อปีที่แล้ว
ที่มา : Automotive News Europe ฉบับวันที่ 10 พฤษภาคม 2562
Honda sales surge, Nissan deliveries dip in April
Honda Motor Co.'s China sales jumped 24 percent year on year to 125,407 in April while Nissan Motor Co.'s local deliveries dropped 2.9 percent to 121,554.Honda’s robust sales came as a result of sustained strong demand for the Accord, Civic, Crider and Fit cars and CR-V and XR-V crossovers. The six nameplates each generated sales of more than 10,000 last month, Honda’s China office said.Dragging down Nissan deliveries in April was its car joint venture with Dongfeng Motor Group., which builds sedans and crossovers for the Nissan brand and its proprietary Venucia marque. Last month, sales of Dongfeng Nissan Passenger Vehicle Co. decreased 5.9 percent to 97,056, according to Honda’s China office. Through April, Honda’s China sales rose 4.6 percent to 460,541 while Nissan’s local deliveries edged up 0.9 percent to 465,302. Last month, Honda opened an assembly plant in the central China city of Wuhan to ease a production bottleneck as the automaker has steadily gained market share in China this year. The 3 billion yuan ($443 million) factory is Honda’s seventh in China.The move has put Honda on track to beat Nissan in China sales for this year. Toyota Motor Corp., the second-largest Japanese carmaker in China last year, does not disclose monthly sales. In 2018, Nissan’s China deliveries increased 2.9 percent from a year earlier to 1.56 million while Toyota sales advanced 14 percent to 1.47 million. Honda delivered 1.43 million vehicles, unchanged from 2017.
เดือนเมษายนในประเทศจีนที่ผ่านมาบริษัท ฮอนด้า ยอดขายเพิ่มขึ้น ส่วนนิสสันยอดการส่งออกลดลง
ยอดขายรถยนต์ของบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ ในจีนพุ่งสูงขึ้น 24% เมื่อเทียบเป็นรายปีอยู่ที่ระดับ 125,407 คันในเดือนเมษายน ขณะที่ยอดส่งออกในประเทศของบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ลดลง 2.9% อยู่ที่ 121,554 คัน ยอดขายที่ส่วนใหญ่ของฮอนด้าเป็นผลมาจากความต้องการอย่างต่อเนื่องของตลาดที่เป็นรถยนต์รุ่น Accord, Civic, Crider และ Fit และ CR-V และ XR-V crossovers โดยทั้ง 6 รุ่นสร้างยอดขายมากกว่า 10,000 รายการเมื่อเดือนที่แล้วสำนักงานในประเทศจีนของฮอนด้ากล่าว การลากการส่งมอบของนิสสันในเดือนเมษายนคือการร่วมทุนทางรถยนต์กับ Dongfeng Motor Group ซึ่งผลิตรถซีดานและครอสโอเวอร์สำหรับแบรนด์นิสสันและแบรนด์ Venucia ที่เป็นกรรมสิทธิ์รวมกัน เมื่อเดือนที่แล้วยอดขายรถยนต์ Dongfeng Nissan Passenger Vehicle Co. ลดลง 5.9% เป็น 97,056 ยอดขายรถยนต์ในประเทศจีนของฮอนด้าเพิ่มขึ้น 4.6% เป็น 460,541 คันขณะที่ยอดส่งออกในประเทศของนิสสันขยับขึ้น 0.9% สู่ระดับ 465,302 ราย เมื่อเดือนที่แล้วฮอนด้าได้เปิดโรงงานประกอบในเมืองหวู่ฮั่นตอนกลางของประเทศจีนเพื่อลดปัญหาคอขวดในการผลิตเนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ได้รับส่วนแบ่งการตลาดในประเทศจีนอย่างต่อเนื่องในปีนี้ 3 พันล้านหยวน (443 ล้านดอลลาร์) เป็นโรงงานที่เจ็ดของฮอนด้าในประเทศจีน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ฮอนด้าเดินหน้าเอาชนะนิสสันในประเทศจีนในปีนี้ Toyota Motor Corp. ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองของจีนในประเทศจีนเมื่อปีที่แล้วไม่เปิดเผยยอดขายรายเดือน 14% สู่ระดับ 1.47 ล้าน ฮอนด้าส่งออกรถยนต์ได้ 1.43 ล้านคันไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2560
ที่มา : Automotive News China ฉบับวันที่ 10 พฤษภาคม 2562
โมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย ว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศยอดจำหน่ายไตรมาสแรกปี 2562 เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยยอดจำหน่ายรวม 23,991 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน ขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์รวมทั้งอุตสาหกรรมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคม ปี 2562 อยู่ที่ 263,549 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 ส่วนแบ่งการตลาดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 9.1 จากเดิมร้อยละ 8.7 ไตรมาสแรกนี้ มิตซูบิชิ ไทรทัน มีส่วนแบ่งยอดจำหน่ายมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 42 ในขณะที่มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มียอดจำหน่ายร้อยละ 18 มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มียอดจำหน่ายร้อยละ 16 ขณะที่รถซิตี้คาร์ทั้ง มิตซูบิชิ แอททราจ และ มิตซูบิชิ มิราจ มียอดจำหน่ายรวมกันร้อยละ 24 ปีนี้มิตซูบิชิมีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีก 7 รุ่น เพื่อช่วยขับเคลื่อนความความสำเร็จและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้มากกว่าร้อยละ 9 ในปีปฏิทิน 2562 นี้
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 9 พฤษภาคม 2562
German high-end carmaker BMW reported a plunge in profits in the first quarter as it booked a 1.4-billion-euro ($1.6 billion) charge related to an EU cartel probe. Net profits at the group nosedived 74.2 percent year-on-year, to 588 million euros, the group said in a statement. Brussels' allegation that BMW colluded with Daimler and Volkswagen to avoid competing on emission control technology means "it is probable that the EU Commission will issue a significant fine," the Munich-based manufacturer said. BMW already warned investors when details of the probe were published last month that it would have to set aside at least a billion euros. But the firm said competition authorities are trying "to equate the permissible coordination of industry positions regarding the regulatory framework with unlawful cartel agreements". "If necessary (BMW) will contest the EU Commission's allegations with all the legal means at its disposal," it added.
ที่มา : www.france24.com ฉบับวันที่ 8 พฤษภาคม 2562
Mercedes-Benz marched past a major milestone on its way to electrification.The automaker on Monday announced the start of production of the first of its EQ family of full-electric vehicles -- the EQC compact crossover.The EQC has a starting price in Germany of 71,281 euros ($79,786). It is the first of a fleet of 10 full-electric vehicles Mercedes expects to launch by 2025."With the start of production of the Mercedes-Benz EQC, we are turning the switch today -- for the electric mobility of the future," Markus Schäfer, Mercedes-Benz production and supply chain chief, said in a statement.Mercedes can't flip the electrification switch soon enough.Tesla dominates the luxury EV market with a trio of high-performance, buzzworthy models. Beyond Tesla, Mercedes faces a wave of coming EV competition from nearly every major automaker.The EQC is powered by an 80-kilowatt-hour battery. It has a range of 445 km (276 miles) to 471 km (293 miles) on a full charge, based on New European Driving Cycle estimates, Mercedes said.Two electric motors generate a combined 408 hp, enabling a 0-to-60 mph (97 kph) sprint in 5.1 seconds. To reduce power consumption, the front electric motor is optimized for efficiency in the low to medium load range, while the rear motor adds sportiness.Initially, the EQC will be produced in Bremen, Germany, on the same line as the C-class sedan and wagon, as well as the GLC and GLC Coupe.Production for China is to start this year at the Beijing Benz Automotive joint venture plant in China.The EQC is not expected to be built in the U.S. -- but two future EVs will be. Mercedes' Vance, Alabama, factory is expected to begin producing an EQE crossover in the second quarter of 2020. U.S. production of an EQS could follow in 2022.The Alabama factory, which makes the GLS, GLE and GLE Coupe, is undergoing a $1 billion expansion to prepare for the new electric line.Mercedes parent Daimler has said it expects between 15 and 25 percent of its global sales to be EVs in 2025.In addition to Mercedes, German automakers BMW, Porsche and Audi are embracing EVs as they look for ways to meet tightening emission standards globally.The Germans' combined share of the global EV market will top Tesla's to reach 11.8 percent next year, before climbing to about 19 percent three years later, LMC Automotive predicts.This year, Porsche will launch its 600-hp Taycan electric sedan. BMW expects production of its Vision iNEXT semi-autonomous electric crossover to begin in 2021. Audi will begin delivering the e-tron Quattro crossover this year and will launch two more EVs next year.
เมอร์เซเดสเปิดตัว EQC รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Crossover
เมอร์เซเดส เริ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (full-electric vehicles) ในตระกูล EQ รุ่น EQC ซึ่งเป็น compact crossover รถยนต์รุ่นดังกล่าวเป็น 1 ใน 10 รุ่นของรถยนต์ไฟฟ้าที่เมอร์เซเดสจะทำการผลิตให้ได้ในปี 2025EQC ขายในเยอรมันในราคา 71,281 ยูโร มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งสามารถวิ่งได้ประมาณ 455-471 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานยุโรป) และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวรวมกัน 408 แรงม้า ซึ่งสามารถทำความเร็วตั้งแต่ 0-97 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 5.1 วินาทีEQC ทำการผลิตที่เบรเมน(เยอรมัน), จีน(บริษัทร่วมทุน) แต่ไม่ผลิตในอเมริกา โดยในอเมริกาจะผลิตรุ่น EQE ในปี 2022จากความเข้มงวดเรื่องการปล่อยมลพิษทำให้เมอร์เซเดสหันมาทำการผลิต EV เช่นเดียวกับค่ายรถยนต์อื่นๆ ดังนั้นการแข่งขันใน EV จึงสูงมาก โดยคาดว่าปี 2025 จะมียอดขาย EV ประมาณ 15-25% ซึ่งในปีนี้จะมมีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่เช่น Porsche (ซีดาน 600 แรงม้า), Audi(e-tron Quattro crossover) และ BMWดำเนินรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นรถยนต์ขับขี่กึ่งอัตโนมัติซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2021
ที่มา : AUTONEWS EUROPE : https://europe.autonews.com/automakers/mercedes-launches-eqc-electric-crossover-output
กฟผ.เตรียมต่อยอดนวัตกรรมดัดแปลงรถยนต์ใช้แล้วสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) สู่เชิงพาณิชย์ จ่อดึงอู่รถยนต์ร่วมดัดแปลงตามพิมพ์เขียวที่กำหนดต้นปี 2563 คาดคันละ 2 แสนบาทไม่รวมแบตเตอรี่ หวังให้คนไทยเข้าถึงลดพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ พร้อมสนใจยื่น ERC Sandbox น.ส.จิราพร ศิริคำ ผู้ช่วยผู้ว่าการวิจัย นวัตกรรม และพัฒนาธุรกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวในงาน EGAT INNOVATION SHOWCASE 2019 ว่า ต้นปี 2563 กฟผ.เตรียมที่จะต่อยอดโครงการวิจัยพัฒนาชุดประกอบรถไฟฟ้าดัดแปลงและคู่มือรถไฟฟ้าดัดแปลงไปสู่เชิงพาณิชย์ โดยการนำเทคโนโลยีที่วิจัยพร้อมพิมพ์เขียวมาเปิดให้อู่ซ่อมรถยนต์ที่สนใจยื่นเสนอการติดตั้งโดยจะนำร่อง 3 พื้นที่ พร้อมกันนี้เตรียมพิจารณามาตรการส่งเสริมการติดตั้งเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ ฉบับวันที่ 7 พฤษภาคม 2562
Volvo expects its margins on electric cars to match those of vehicles with combustion engines by 2025, CEO Hakan Samuelsson said.Automakers are planning a $300 billion surge in spending on electric vehicle technology over the next five to 10 years but have admitted that higher component costs and limited take-up in initial years will hit margins.Volvo is investing about 5 percent of its annual revenue, equating to $1 billion a year, in building driverless and electric cars and has promised to bring five full-electric cars to market in the next few years.It showcased the first, the Polestar 2, less than a month ago, made by its luxury performance subbrand to rival to Tesla's Model 3. It also plans to launch a Volvo-branded electric compact SUV this year in the company's push to derive 50 percent of its sales from full-electric cars by 2025."It's very difficult to say if we're going to have the same margins in 2025 as we had in 2015 ... because electric cars are very expensive," Samuelsson told Reuters on the sidelines of a safety showcase by the company in Gothenburg."But I would be absolutely sure we will have the same margins with electric cars as we will with conventional combustion cars in 2025."Samuelsson said the convergence would be helped by reducing costs for components such as batteries and declining margins on conventional cars
ค่ายรถยนต์วอลโว่คาดว่าอัตรากำไรช่วงต้นปีของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้ตรงกับยอดของรถยนต์ประเภทอื่นภายในปีพ.ศ. 2568