สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก
ข่าวสารยานยนต์
อ่านข่าวสารล่าสุด

ค้นหาข้อมูล

ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม

       Toyota มีแผนที่เสนอให้องค์กรอื่นเข้าถึงสิทธิบัตรเทคโนโลยีไฮบริดได้ฟรีในปี ค.ศ. 2030 เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่มีการปลอดปล่อยมลพิษต่ำ และก้าวผ่านความท้ายทายของการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า โดยสิทธิบัติที่จะเปิดเผยนั้นมีจำนวนมากกว่า 24,000 สิทธิบัตร โดยเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานในรถยนต์ Toyota Prius

       มร. ชิเกกิ เทราชิ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท Toyota กล่าวว่า “Toyota ต้องการก้าวข้ามเพียงแค่การผลิตรถยนต์เท่านั้น แต่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้เกิดการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น ผ่านการสนับสนุนทางด้าน เทคโนโลยี และชิ้นส่วนที่ ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน สู่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น”

       Toyota will offer free access to its hybrid-vehicle patents through 2030 as it seeks to expand use of the lower-emission technology, the automaker said in a statement.The pledge by the company to share its closely guarded patents is aimed at driving industry uptake of hybrids and fending off the challenge of full-electric vehicles.Toyota said it would grant licenses on nearly 24,000 patents on technologies used in its Prius, and offer to supply competitors with components including motors, power converters and batteries used in its lower-emissions vehicles."We want to look beyond producing finished vehicles," Toyota Executive Vice President Shigeki Terashi told reporters."We want to contribute to an increase in take up (of electric cars) by offering not just our technology but our existing parts and systems to other vehicle makers."The Nikkei Asian Review first reported Toyota's plans to give royalty-free access to hybrid-vehicle patents.Terashi said that the access excluded patents on its lithium-ion battery technology.

Unlocking key technology

            Toyota's move to unlock its patents underlines its belief that hybrids are an effective alternative to all-battery EVs, given a fuel efficiency roughly double that of gasoline cars, lower cost and that they do not need charging infrastructure.Toyota vehicles account for more than 80 percent of the global hybrid vehicle market."Toyota has realized that they made a mistake by protecting their hybrid technology for years. This prevented diffusion" said Janet Lewis, head of Asia transportation research at Macquarie Securities."Toyota on its own can't get key technology accepted, but if other companies use it, that offers the best chance of expansion," she added.Since pioneering the Prius in 1997, Toyota has sold more than 13 million hybrids, which twin a conventional gasoline engine and electric motor, saving fuel by capturing energy during coasting and breaking and using it to power the motor.Hybrid vehicles account for around 3 percent of all vehicles sold globally, eclipsing the roughly 1.5 percent share of all-battery EVs, according to LMC Automotive.Global automakers have pledged to electrify their offerings as a growing number of countries slash vehicle emissions by as much as half by 2030, but many say that shifting to fully electric cars will take time given high cost of batteries.Lewis at Macquarie said automakers in China and Europe could be keen to access Toyota's hybrid-vehicle patents as they look for lower-emission cars to sell in lower-tier cities where costly battery EVs are out of reach for many drivers.Toyota is also betting on hydrogen fuel cell vehicles (FCVs) as the ultimate zero-emissions vehicle, and as a result, has lagged many of its rivals in marketing all-battery EVs.In 2015, the automaker said it would allow access to its FCV-related patents through 2020.

 

        BMW และ Microsoft มีความร่วมมือกันในการพัฒนาแพลตฟอร์มการผลิตที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมและเร่งให้เกิดการพัฒนาโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factories) ซึ่งก่อนหน้านี้ Volkswagen Group และ Amazon Web Services มีการประกาศความร่วมมือในการพัฒนาเพื่อเชื่อมโยงโรงงานทั้ง 122 แห่งของ Volkswagen Group ให้มีการพัฒนาระบบการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

          ความร่วมมือของ BMW และ Microsoft จะเป็นการพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อจัดการข้อมูลที่มากมายที่เชื่อมโยงกันของ Robot และ Sensor ต่างๆ เพื่อให้เป็น Internet of Thing (IoT) โดยโรงงานของ BMW จะเปลี่ยนเป็นการผลิตแบบดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะส่งผลรวมถึงการมีโอกาสการทำงานร่วมกันทั้งห่วงโซ่มูลค่า และรูปแบบนี้จะเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานที่จะสามารถนำไปใช้ประยุกต์ใช้งานกับสถานประกอบการอื่นได้อีกด้วย

ที่มา : AUTONEWS EUROPE

               Indoniesia Trade Minister Airlangga Hartarto said his ministry has set a target to increase car export to 450,000 this year.In the previous year,the coun try saw exports of 346,000 cars with US$4.78 billion (Bt 152 billion) in profit. According to the Association of Indonesian Automotive Manufacturers,the export of completely built in 2018 was 264,553 cars, a 14.4 per cent increase from the export number in 2017 while the export of completely knockeddown cars grew 6.6 per cent to 86.6 million Airlangga said Indonesia’s automotive products were able to compete in the international market due to the increasing use of local contect following the issuance of regulation on local content requirements. – The Jakarta Post.

ที่มา : หนังสือพิมพ์ The Nation  ฉบับวันที่ 5 เมษายน 2562

                บริษัท เดมเลอร์ เปิดโรงงานประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส – เบนซ์ในประเทศรัสเซียอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยมีประธานาธิบดีวลาดิมีร์ปูติน เข้าร่วมในพิธีซึ่งเป็นการลงทุนจากต่างประเทศที่หายากในอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศรัสเซีย โรงงานในเมือง Esipovo  อยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 40 กม. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผู้ผลิตรถยนต์ชาวต่างชาติในรัสเซียเปิดลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ครั้งใหญ่ ก่อนหน้านี้เคยมีการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและเศรษฐกิจก็ซบเซา นายปูตินกล่าวว่าโรงงานจะผลิตรถยนต์ได้ปีละ 25,000 คันและมีการลงทุนในโครงการรวมทั้งสิน 19 พันล้านรูเบิล หรือประมาณ 291 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า โรงงานที่สร้างขึ้นหลังจากเดมเลอร์ลงนามข้อตกลงกับทางการรัสเซียในต้นปี 2560 จะเกิดการจ้างงานกว่า 1,000 คัน ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกส่วนใหญ่เปิดโรงงานในรัสเซียในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2000 แต่หลังจากยอดขายรถยนต์ในปี 2555 พุ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ 1.42 ล้านในปี 2559 ตลาดฟื้นตัวอีกครั้งและมีรถยนต์ขาย 1.8 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว บริษัทกล่าวว่า Mercedes จะสร้างรถเก๋ง E-class ที่โรงงานเพื่อตลาดในประเทศ การผลิตเอสยูวีจะตามหลังจาก E-class สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ AEB กล่าวว่ายอดขายรถยนต์เมอร์เซเดสในรัสเซียเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ถึง 37,788 คันจากเมื่อปีที่ผ่านมา

           Daimler opens Mercedes plant in Russia

           Daimler officially opened a Mercedes-Benz assembly plant in Russia on Wednesday at a ceremony attended by President Vladimir Putin, marking a rare foreign investment into Russia's car industry.The plant in the town of Esipovo 40 km north west of Moscow is the first in years to be opened by a foreign carmaker in Russia where investment into the once burgeoning auto industry dried up amid western sanctions and a stagnant economy.Speaking at the inaugural ceremony, Putin said the plant would produce 25,000 cars a year and that investment in the project had totalled 19 billion rubles ($291 million).Putin said the factory, built after Daimler signed a deal with Russia's authorities in early 2017, would employ almost 1,000 people.Most global automakers opened plants in Russia in the first half of the 2000s, but after peaking in 2012 car sales slumped to a ten-year low of 1.42 million in 2016. The market is picking up again, and a total of 1.8 million cars were sold last yearMercedes will build E-class sedans at the plant for the local market. SUV production will follow after the E class, Daimler said.Sales of Mercedes cars in Russia rose 3 percent to 37,788 last year, according to the AEB automakers association.

ที่มา : Automotive News China ฉบับวันที่ 4 เมษายน 2562

              นางปวีณา นันทิกุลวาณิช ผู้ช่วยกก.ผจก.ใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการโตโยต้า ถนนสีขาว “ไม่เร็ว ไม่เสี่ยง เลี่ยงอุบัติเหตุ” ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กรมการขนส่งทางบก (ขส.) และแขวงทางหลวง เดินหน้ารณรงค์ขับขี่ปลอดภัย มุ่งเน้นให้ผู้ใช้รถใช้ถนนลดการใช้ความเร็ว และขับขี่ปลอดภัย มุ่งเน้นให้ผู้ใช้รถใช้ถนนลดการใช้ความเร็ว และขับขี่อย่างมีวินัย เพื่อให้ทุกคนเดินทางอย่างปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นอกจากนี้ โตโยต้าร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายกรมขนส่งทางบกบริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ 24 รายการ ฟรี ที่ศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนเดินทาง ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ ประกอบด้วย 1. ที่ปัดน้ำฝน/ล้างกระจก 2. ระดับน้ำมันเครื่อง/เหล็กวัด 3. ระดับน้ำในถังสำรอง/น้ำยาหล่อลื่น 4. ระดับน้ำมันเบรก/น้ำมันครัตซ์ 5.ระดับน้ำมันเพาเวอร์ 6. ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์ 7. สภาพแบตเตอรี่/ไฟชาร์จ/ระดับน้ำกลั่น 8.สภาพยางรถยนต์ 9. ตรวจเสียงเครื่องยนต์ขณะสตาร์ต 10. สายพานต่างๆ 11.ระบบไฟส่องสว่าง/แตร 12. เข็มขัดนิรภัย 13. ระดับน้ำมันเกียร์ 14. ระบบฟรีแป้นเหยียบ/ครัตซ์/เบรกมือ 15. ยางกันฝุ่นเพลาขับ 16. ช็คอัพหน้า-หลัง 17. ลูกหมากปีกนก 18. ลูกปืนล้อ 19. ระบบเครื่องปรับอากาศ 20. รอยรั่วและความผิดปกติของเครื่องยนต์ 21.รอยรั่วและความผิดปกติของเกียร์ 22.รอยรั่วและความผิดปกติของหม้อน้ำ 23.รอยรั่วและความผิดปกติของท่อทางน้ำ 24.รอยรั่วและความผิดปกติของพวงมาลัยเพาเวอร์

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ ข่าวสด ฉบับวันที่ 4 เมษายน 2562

ซูซูกิ ประกาศ ปิดรับจอง จิมนี่ รถนต์เอสยูวีขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ 2019 เนื่องจากมีกระแสความต้องการเกินกว่าโควต้าที่ได้รับเข้ามาทำกรตลาดในไทย จึงจำเป็นต้องยุติการปิดรับจองเป็นการชั่วคราว ซูซูกิ จิมนี่ ถูกพัฒนาและออกแบบภายใต้ Jimny DNA ที่มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นเฉพาะตัวต่อเนื่องยาวนานมาเกือบ 50 ปี จากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั้งมาถึง Generation ที่ 4 ที่เป็น Authentic 4WD ภายใต้คำนิยาม Nobody But Jimny ดีไซต์ภายนอกของซูซูกิ จิมนี่ มีความโดดเด่นสะดุดตา ด้วยกระจังหน้าเข้ากับฝากระโปรงหน้าทรงเหลี่ยมสไตล์ออฟโรด ไฟหน้า LED ทรงกลมทันสมัย ไฟท้ายแบบ LED ซุ้มล้อสีดำรอบคัน กระจกมองข้างดีไซต์พิเศษ ปรับพับอัตโนมัติ ภายในใช้วัสดุคุณภาพสูงและทนทาน ทันสมัยด้วยจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ Segment Display แสดงข้อมูลชัดเจน พร้อม Suzuki Smart Connect ที่เชื่อมต่อแบบไร้สายกับโลกดิจิทัล พร้อมระบบนำทางอัจฉริยะ รองรับ Apple CarPlay มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติแสดงฟังก์ชันการทำงานบนจอ LCD ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งปรับได้อเนกประสงค์ รองรับการใช้งานได้หลากหลาย ด้านขุมพลังขับเคลื่อน เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ALLGRIP PRO และ Low Transfer Gear มาพร้อมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control และยังขับขี่คล่องตัวด้วยรัศมีวงเลี้ยว 4.9 เมตร โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย เกียร์ธรรมดาเริ่มต้น 1,550,000 บาท และ 1,650,000 บาท ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งโควต้าที่นำเข้ามรทำตลาดในประเทศไทย ปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 80 คัน พิเศษล็อตแรก 30 คัน จะมีเพลตหมายเลขกำกับทุกคัน ตั้งแต่ 01-30 อย่างไรก็ตามล่าสุด ทางซูซูกิ ได้ประกาศยุติการรับจองเป็นการชั่วคราว เนื่องจากผู้จองรถหลังจากนี้เป็นต้นไปต้องรอคิวการส่งมอบนานกว่า 1 ปี ทั้งนี้ หลังเปิดรับจองเป็นเวลา 5 วัน (27-31 มีนาคม) มียอดเข้ามาทั้งสิ้น 90 คัน เกินกว่าโควต้าที่ได้รับเป็นจำนวนทั้งสิน 10 คันแล้ว

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 3 เมษายน 2562

กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนได้มีประกาศลดเงินอุดหนุนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะยกเลิกโครงการเงินสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าภายในปีพ.ศ.2563 ภายใต้กฎระเบียบที่มีผลบังคับใช้ในวันอังคารรถยนต์โดยสารไฟฟ้าต้องมี กระทรวงการคลังของจีนระบุว่าช่วงอย่างน้อย 250 กิโลเมตร (155 ไมล์) จะมีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มขึ้นจาก 150 กม. (93 ไมล์) รถยนต์โดยสารไฟฟ้าที่มีช่วง 250 กม. ถึงน้อยกว่า 400 กม. (249 ไมล์) มีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนจำนวน 18,000 หยวน ($ 2,679) ก่อนหน้ารถยนต์โดยสารไฟฟ้าที่มีระดับ 150 กม. ถึงน้อยกว่า 400 กม. มีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุน 15,000 ถึง 45,000 หยวนเงิน อุดหนุนสำหรับรถยนต์โดยสารไฟฟ้าที่มีช่วง 400 กม. และอื่น ๆ ลดลงเหลือ 25,000 หยวน สำหรับรถยนต์โดยสารไฮบริดแบบปลั๊กอินนั้นเงินอุดหนุนได้ถูกหักเป็น 10,000 หยวนจาก 22,000 หยวน ปักกิ่งได้ลดการอุดหนุนรถเมล์ไฟฟ้าและปลั๊กไฮบริดและรถบรรทุกลงประมาณ 50% ภายใต้กฎก่อนหน้านี้รัฐบาลของจังหวัดเทศบาลและเขตปกครองตนเองในประเทศจีนสามารถอุดหนุนการจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า และการจำหน่ายรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินในท้องถิ่นซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 50% ของเงินอุดหนุนจากรัฐบาลกลาง ตอนนี้รัฐบาลท้องถิ่นต้องหยุดให้เงินอุดหนุนสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินและใช้เงินสำหรับการสร้างสถานีชาร์จแบตเตอรี่สำหรับยานพาหนะเหล่านี้ตามกฎใหม่ต้องขอบคุณการอุดหนุนจากรัฐบาลที่ช่วยในการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า และปลั๊กอินไฮบริดในประเทศจีนนั้นแข็งแกร่งมาหลายปี ในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า และปลั๊กอินไฮบริดในประเทศจีนเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปีก่อนหน้าเป็น 148,000 ในปีพ. ศ. 2561 ยอดขายรถยนต์ดังกล่าวทั่วประเทศมีมูลค่า 1.26 ล้านคันเพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบเป็นรายปี

Beijing slashes subsidies for EVs and plug-in hybrids

Beijing has drastically reduced its subsidies for electric vehicles and plug-in hybrids and barred provincial governments from subsidizing the vehicles with the goal of winding up the subsidy program by the end of 2020.Under rules that took effect Tuesday, electric passenger vehicles must have a range of at least 250 kilometers (155 miles) to qualify for subsidies, up from 150 km (93 miles) before, according to the Chinese Ministry of Finance. Electric passenger vehicles with ranges of 250 km to less than 400 km (249 miles) are entitled to 18,000 yuan ($2,679) in subsidies. Before, electric passenger vehicles with ranges of 150 km to less than 400 km were eligible for subsidies of 15,000 to 45,000 yuan.The subsidies for electric passenger vehicles with ranges of 400 km and more have been halved to 25,000 yuan. For plug-in hybrid passenger vehicles, the subsidies have been slashed to 10,000 yuan from 22,000 yuan.Beijing has also cut its subsidies for electric and plug-in hybrid buses and trucks by roughly 50 percent. Under previous rules, governments of provinces, municipalities and autonomous regions in China could subsidize local sales of EVs and plug-in hybrids with amounts up to 50 percent of the central government subsidies. Now local governments must stop providing subsidies for EVs and plug-in hybrids and use the money for the construction of battery charging stations for these vehicles, according to the new rules.Thanks to generous government subsidies, sales of EVs and plug-in hybrids in China have been strong for years. In the first two months of this year, total sales of EVs and plug-in hybrids in China nearly doubled from a year earlier to 148,000.In 2018, sales of such vehicles across the country approached 1.26 million, a jump of 62 percent year on year.

ที่มา : Automotive News China ฉบับวันที่ 29 มีนาคม 2562

ซับพลายเออร์ของบริษัทเทสล่าในประเทศเกาหลีใต้ตกลงที่จะซื้อโรงงานของบริษัท เจนเนอรัลมอเตอร์ เพื่อเริ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และเป็นสัญญาของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ จีเอ็ม ประกาศปิดโรงงาน Gunsan เป็นโรงงานท้องถิ่นในประเทศเกาหลีใต้เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม และการปิดโรงงานครั้งนี้เป็นหนึ่งในแผนการปรับโครงสร้างหนี้ระดับโลก ซึ่งส่งผลให้ได้รับการสนับสนุนเงินจากรัฐบาลเกาหลีใต้ ทางบริษัท จีเอ็มยังไม่มีการเปิดเผยราคาขายของโรงงานแต่ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ Myongshin กล่าวว่าจะซื้อที่ดินและอาคารของโรงงานจีเอ็มจำนวน 113 พันล้านวอน (99.5 ล้านดอลลาร์) Myongshin ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของฮุนไดมอเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่จะใช้เงินจำนวน 200,000 ล้านวอนในโรงงานเพื่อผลิตรถยนตไฟฟ้า 50,000 จาก 2021 และ 150,000 EV ในปี 2568 ตามคำแถลงของรัฐบาล"เราตั้งเป้าหมายที่จะปิดข้อตกลงนี้โดยเร็วที่สุดเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง" จีเอ็มเกาหลีกล่าวในแถลงการณ์สมาคมกำลังเจรจากับผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่ไม่มีรายชื่อโรงงานสำหรับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่โรงงานแห่งนี้ซึ่งเป็นแหล่งที่มีความรู้โดยตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ยานยนตไฟฟ้าได้บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์กล่าวเสริมว่ามันไม่ใช่เทสลาโรงงานสามารถใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีของเกาหลีใต้กับสหรัฐอเมริกาและยุโรปรวมถึงห่วงโซ่อุปทานรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศเขากล่าว

Tesla supplier agrees to buy GM Korean plant for EV manufacturing

A South Korean supplier of Tesla has agreed to buy a shuttered factory from General Motors' local unit to start contract manufacturing of electric vehicles, possibly for the U.S. and Europe.The deal comes after GM closed its Gunsan factory, one of its four South Korean plants, in late May as part of a global restructuring drive which culminated in a major financial support package from the South Korean government.GM did not disclose the sales price of the Gunsan factory, but auto parts maker Myongshin said it would buy the land and buildings of the GM facility for 113 billion won ($99.5 million).Myongshin, also a Hyundai Motor supplier, is part of a consortium that would initially spend a total of 200 billion won on the factory to produce 50,000 EVs starting 2021 and 150,000 EVs in 2025, according to a statement by a provincial government."We aim to close this deal as soon as possible to ensure that there will be ongoing economic activity," GM Korea said in a statement.The consortium was in talks with an unidentified global automaker to manufacture electric vehicles at the facility, a source with direct knowledge of the matter earlier told Reuters, adding that it was not Tesla.The plant could take advantage of South Korea’s free trade deal with the United States and Europe, as well as the country's electric car supply chain, he said.

ที่มา : Automotive News Europe ฉบับวันที่ 29 มีนาคม 2562

          นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลล์ จำกัด เปิดเผยว่า ในงานมอเตอร์โชว์ 2019 ซึ่งกำลังจัดขึ้นอยู่ในขณะนี้จนถึงวันที่ 7 เมษายนนี้ ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมือทองธานี เนื่องจากงานบางกอกมอเตอร์โชว์ปีนี้นับเป็นการจัดครั้งที่ 40 และยังเป็ฯงานมอเตอร์โชว์ที่ยิ่งใหญ๋ที่สุดระดับภูมิภาคนี้ อีซูซุจึงได้ทุ่มสร้างบูธสุดอลังการ จัดกิจกรรมร่วมสนุกหลากหลายพร้อมนำยนตกรรม “อีซูซุบลูเพาเวอร์” หลากรุ่นทั้งเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ นำโดยรถรุ่นพิเศษที่มาพร้มอชุดแต่ง ซึ่งมีดีไซต์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้า ได้แก่อีซูซุมิว เอ็กซ์ รุ่นพิเศษ “ดิ ออนิคซ์” ยนตกรรมอเนกประสงค์สุดหรูที่แฝงความสปอร์ตด้วยชุดแต่ง “ออนิกดีไซน์เอดิชั่น” และใหม่อีซูซุดีแมกซ์ รุ่นพิเศษ สเทลธ์ ที่เพิ่มไลน์อัปให้ครอบคลุมทั้งรุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู พร้อมเครื่องยนต์ 1.9 และ3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ สำหรับผู้ชื่นชอบปิกอัพพันธุ์เท่ และใหม่ อีซูซุ วี-ครอส MAX 4x4 ปิกอัพสปอร์ตออฟโรด ทั้งภายนอกและภายในมีระบบกับชุดแต่ง MAX 4x4 ดีไซตืใหม่ พิเศษ รวมทั้งรถรุ่นมาตรฐาน ได้แก่ อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนด์เดอร์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่ปรับโฉมสู่ความสปอร์ตที่ล่ำสมัย นอกจากนี้ยังนำ “ใหม่ อีซูซุ เอ็ช์ ซีรีย์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ไลฟ์สไตล์ปิกอัพเพื่อคนสายพันธุ์เรชชิงสปอร์ตเหนือชั้นไปกับดีไซน์ภายในสีดำ-สีขาว

ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 2 เมษายน 2562

ศูนย์สารสนเทศยานยนต์

ติดต่อ ศูนย์สารสนเทศยานยนต์ สถาบันยานยนต์

อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา (สพข.) ซ.ตรีมิตร กล้วยน้ำไท ถ.พระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์: 0-2712-2414 ต่อ 6443
email : aiu@thaiauto.or.th