Sales of electric vehicles and plug-in hybrids in China continue to gather steam, rising 79 percent to roughly 78,000 vehicles in September. EV deliveries soared 83 percent to 64,000 last month over September 2016 while plug-in hybrid demand jumped 62 percent to 14,000, the China Association of Automobile Manufacturers said. Through September, sales of EVs and plug-in hybrids totaled 398,000, up 38 percent. That sales figure includes 325,000 EVs and 73,000 plug-in hybrids. In China, only domestically produced EVs, plug-in hybrids and fuel-cell powered vehicles qualify for government subsidies. To date, no automaker has launched sales of fuel-cell vehicles. The Chinese government plans to end subsidies for EVs and plug-in hybrids by 2020. Despite that, EV sales are expected to remain robust as automakers attempt to comply with a California-style carbon credit trading program that takes effect in 2019.
ที่มา : www.autonews.com วันที่ 17 ตุลาคม 2560
FTA อาเซียน-จีน ป่วน กระทบแผนปั้นไทยขึ้นเป็นฮับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภูมิภาค เหตุซุกภาษี 0% รถอีวี มีผล 1 ม.ค.61 กรมศุลกากรปวดขมับภาษี 2 มาตรฐาน กระทบหนักทั้งนำเข้า-ผลิตในประเทศ "นิสสัน" ยื่นรัฐทบทวนด่วน! กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าขึ้นมาทันทีจากข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) นี้ หลังจากกระทรวงการคลังออกประกาศมาตั้งแต่ปี 2547 สินค้าภายใต้ข้อผูกพัน ACFTA จำนวน 703 รายการ มีอัตราอากรลดลงจากปีนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่เคยเสียภาษีนำเข้าในอัตรา 20% 15% 12% และ 10% เหลือเสีย 5% และกลุ่มที่ 2 อัตราภาษีนำเข้าทั่วไปต่ำกว่า 5% จะมีตั้งแต่ 5% 3% และ 0% จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 โดย 1 ในสินค้าที่กระทบอย่างหนักคือรถยนต์นั่งไฟฟ้าที่จะจัดเก็บ 0% นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า สินค้าเกษตร รถยนต์นั่งไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) อุปกรณ์ส่วนควบคุมและอุปกรณ์เสริมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ เครื่องอัดประจุไฟฟ้า จะมีอัตราภาษีเหลือ 0% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 ไม่นับรถเมล์ไฟฟ้า ที่ยังคงเสียภาษีนำเข้าในอัตรา 30% ซึ่งหากมีการนำเข้าจากจีนจำนวนมากก็จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศ โดยเฉพาะการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลกำลังส่งเสริมและดึงให้ผู้ประกอบการผลิตรถยนต์ต่างชาติเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 16 ตุลาคม 2560
นายณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการก่อสร้างศูนย์ทดสอบ ยานยนต์และยางล้อรถยนต์แห่งชาติ ที่อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานใน เฟสแรก สร้างสนามทดสอบยางล้อมาตรฐาน R117 และศูนย์การเรียนรู้รถยนต์ไฟฟ้า และศูนย์การเรียนรู้และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจะแล้วเสร็จและ ให้บริการได้ในปลายไตรมาส 1 ถึง ต้นไตรมาส 2 ปี 2561 ส่วนเฟส 2 จะเริ่มก่อสร้าง ในปี 2561 จะสร้างสนามทดสอบยานยนต์ อีก 5 สนาม ใช้งบประมาณ 800 ล้านบาท และห้องทดสอบความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้าใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท รวมทั้งจะสร้างห้องทดสอบแบตเตอร์รี่ รถยนต์ไฟฟ้า 270 ล้านบาท รวมแล้วจะใช้งบประมาณ 1,570 ล้านบาท จะแล้วเสร็จในต้นปี 2562
ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 12 ตุลาคม 2560
เมื่อเทรนด์รถพลังงานไฟฟ้า (EV) รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Drive) และ คาร์แชริ่ง (Car sharing) ขยับมาเร็วกว่าที่คิด โดยเป็นทิศทางใหม่ของโลกที่สอดคล้องกันตั้งแต่ระบบขับเคลื่อนและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ทั้งขนาดกลาง ขนาดเล็ก ได้เข้ามาแข่งขันในตลาด ระหว่างที่ค่ายใหญ่ยังขยับตัวช้า เพราะติดกับดักในเทคโนโลยีดั้งเดิมที่ตนเองลงทุนไปมหาศาล อย่างไรก็ตาม หลายค่ายรถยนต์รายใหญ่เริ่มปรับตัวให้ทันกับกระแสใหม่นี้ จากเดิมที่พยายามลดต้นทุนการพัฒนาด้วยการแลกเปลี่ยนโปรดักต์ในการทำตลาด หรือเป็นรถโมเดลเดียวแต่แปะป้ายขายคนละยี่ห้อ รวมถึงการลงทุนร่วมกันเพื่อให้ได้โปรเจ็กต์ใดโปรเจ็กต์หนึ่งแล้วแยกการทำตลาด ซึ่งมีทั้งเซ็นสัญญาความร่วมมือเป็นกรณีไป หรือเข้าไปถือหุ้นระหว่างกัน เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารและตัดสินใจ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 11 ตุลาคม 2560
The German government wants carmakers to offer mechanical modifications to engine and exhaust systems for some models, Der Spiegel reported on Saturday. The new government position was agreed to by experts and civil servants of the German transport ministry in an effort to prevent bans on diesel cars in some cities. The move would be a break with a less costly software-only overhaul agreed to just months ago. In August, German politicians and car bosses agreed to overhaul engine software on 5.3 million diesel cars to cut pollution and try to repair the industry's battered reputation. Politicians stopped short of demanding more expensive hardware adaptations. Environmentalists have said that agreement two years after Volkswagen Group admitted to cheating diesel emissions tests was too little, too late, and have vowed to press ahead with legal action aimed at banning polluting vehicles. The German transport ministry was not immediately available for comment.
ที่มา : www.autonews.com วันที่ 10 ตุลาคม 2560
"ค่ายรถ"เดินหน้าปูทางรับรถยนต์ไฟฟ้า "นิสสัน"หวังเปิดตัว"บีอีวี"ค่ายแรก ขณะ"บีเอ็มฯ-วอลโว่ร่วมพันธมิตรต่างธุรกิจ ผุดจุดชาร์จ "เบนซ์"ชี้กระแสปลั๊ก-อิน ไฮบริด มาแรง ขณะสนพ.ชี้ต่างชาติ 4 ค่ายหลัก ผนึก ผู้ประกอบการไทย ลงทุนสถานีชาร์จไฟฟ้า พร้อมเร่งวิจัยพัฒนาแบตเตอรี่ ด้านสมาคมยานยนต์ไฟฟ้า แจงเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดใน 5-10 ปี รัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ที่ขับเคลี่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรืออีวี ครอบคลุมรถพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว(BEV) รถ ไฮบริด และปลั๊ก-อิน ไฮบริด ทั้งมาตรการส่งเสริม การลงทุนโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการ ลงทุนหรือบีโอไอ และมาตรการด้านภาษีจาก กรมสรรพสามิตที่ลดภาษีกึ่งหนึ่งสำหรับไฮบริดและ ปลั๊ก-อินไฮบริด และภาษี 2% สำหรับบีอีวี ให้สอดคล้อง กับทิศทางโลกที่มุ่งมาทางยานยนต์ไฟฟ้า โดยเริ่มมี บางประเทศประกาศเลิกจดทะเบียนรถที่ใช้เครื่องยนต์น้ำมันภายในปี 2573
ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 9 ตุลาคม 2560
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ ขอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 2-4 ต.ค. 2560 ประสบผลสำเร็จด้วยดี โดยเฉพาะการหารือด้านการค้าและการลงทุน และพร้อมที่จะร่วมมือเพื่อสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน โดยได้ก้าวข้ามปัญหาการขาดดุลการค้า เน้นการจับมือเป็นพันธมิตรเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกัน ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองได้เห็นพ้องกันว่า นโยบายอเมริกันมาก่อน (America First) และนโยบายไทยแลนด์ 4.0 สามารถเกื้อกูลกันได้ โดยสินค้าที่ไทยส่งออกไปสหรัฐส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่สหรัฐนำเข้าเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าสำเร็จรูปในอุตสาหกรรมต่างๆ ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีคุณภาพสูงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางการค้า ซึ่งจะนำไปสู่การขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้ขอให้สหรัฐอำนวยความสะดวกการลงทุนของไทยในสหรัฐ เพราะในปีนี้นักธุรกิจไทยมีแผนจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐอีก 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างงานเพิ่มอีกกว่า 1 หมื่นตำแหน่ง จากในปี 2559 ไทยลงทุนในสหรัฐเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์ ในสาขาต่างๆ เช่น อาหาร พลังงาน ยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นต้น มีมูลค่าลงทุน 5,600 ล้านดอลลาร์
ที่มา : หนังสือพิมพ์ โพสต์ ทูเดย์ วันที่ 6 ตุลาคม 2560
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนาเปิดโครงการสนับสนุนการเปลี่ยนรถตุ๊กตุ๊กให้เป็นรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า ที่โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์กรุงเทพฯ ว่ากระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างหารือกับผู้ผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าและเครื่องยนต์ปกติคือน้ำมัน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี)ทั่วประเทศ จำนวน 7 ราย ถึงความเป็นไปได้ ในการกำหนดให้รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าเป็นโปรดักส์แชมเปี้ยนในการส่งออกไปขายทั่วโลก เนื่องจากปัจจุบันรถตุ๊กตุ๊กไทยเป็นที่นิยมของผู้ใช้รถและมีการจำหน่ายแล้วใน 3 ประเทศทวีปยุโรป คือ ฝรั่งเศส สวีเดน เดนมาร์ก ขณะที่การผลิตในประเทศเพื่อใช้ส่วนบุคคลก็มีแพร่หลาย ผู้ผลิตไทยมีความสามารถ แต่ติดปัญหาแบตเตอรี่ราคาแพงประมาณ 100,000 บาทต่อลูกและต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลักซึ่งในแผนการสนับสนุนโปรดักส์แชมเปี้ยนจะรวมถึงการสนับสนุนให้มีการลงทุนตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในไทย ซึ่งจะต้องประสานกับความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์แนวหน้า วันที่ 5 ตุลาคม 2560