เรื่องรถความร้อนขึ้นกรณีที่เครื่องยนต์ร้อนจัดจนเครื่องดับกลางทาง หลังจากปิดแอร์เปิดไฟสัญญาณฉุกเฉินและเข็นรถเข้าข้างทาง เพื่อมิให้กีดขวางการจราจรแล้ว ให้เปิดฝากระโปรงห้องเครื่องค้างไว้ เพื่อช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์และรอให้เครื่องยนต์เย็นตัวลง ซึ่งคงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง
วิธีที่จะทำให้ทราบว่าเครื่องยนต์เย็นตัวลงหรือยังนั้นคุณสามารถทดสอบได้โดยลองเปิดสวิตช์กุญแจให้หน้าปัดแสดงอุณหภูมิแสดงระดับความร้อน โดยคุณจะต้องรอให้ระดับความร้อนลดลงมาอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งของเกจ์วัด เมื่อเครื่องยนต์เย็นลงถึงระดับดังกล่าวจึงจะสามารถเติมน้ำในหม้อได้ ทั้งนี้อย่ารีบเติมน้ำในขณะที่เครื่องยนต์ยังร้อนอยู่ เพราะจะส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหาย เช่น ฝาสูบโก่งงอหรือปะเก็นฝาสูบขาด
อาการเครื่องยนต์เสียหายดังกล่าวสามารถสังเกตได้ เมื่อเติมน้ำพร้อมติดเครื่องยนต์แล้วจะพบว่า มีน้ำออกมาทางท่อไอเสียหรือเมื่อดึงเหล็กวัดน้ำมันเครื่องออกมาดู จะพบร่องรอยของน้ำปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง หรือบางทีคุณอาจจะพบว่า เมื่อติดเครื่องยนต์แล้วมีแรงดันในหม้อน้ำ ทำให้น้ำล้นพุ่งออกมาจากหม้อน้ำ หากรถคู่ใจของคุณมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด อย่าพยายามขับรถต่อไป เพราะจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายยิ่งขึ้น
เมื่อนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการแล้ว คุณควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ด้วยเลย เพราะน้ำมันเครื่องอาจเสื่อมสภาพ โดยมีสาเหตุมาจากการที่เครื่องยนต์ร้อนจัด จนกระทั่งเครื่องดับกลางทาง หากคงใช้น้ำมันเครื่องที่หมดสภาพนั้นต่อไปจะเป็นการทำร้ายเครื่องยนต์รถคู่ใจของคุณ
คราวนี้คุณคงจะสามารถรับมือกับรถที่มีอาการความร้อนขึ้นได้แล้ว แต่คิดว่า "กันไว้ดีกว่าแก้" น่าจะดีกว่า ดังนั้นคุณควรตรวจเช็กระดับน้ำในหม้อน้ำและหม้อพักน้ำเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี หากพบว่าระดับน้ำลดลงให้นำน้ำสะอาดมาเติมจนถึงระดับ MAX และถ้าคุณพบว่าระดับน้ำลดลงจนดูผิดสังเกต ก็น่าจะเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กหาความผิดปกติและแก้ไขปัญหานั้นเสียแต่เนิ่น ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์