สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก

 

     British car production fell 4.6 percent in November due to a nearly 30 percent drop in domestic demand, which an industry body blamed on uncertainty over Brexit and diesel taxation. A total of 161,490 vehicles rolled off British production lines last month, with demand at home falling 28.1 percent compared with a 1.3 percent rise in exports. Year-to-date volumes are 1,577,042 units, down 2 percent on the first 11 months of last year, according to data released by the Society of Motor Manufacturers and Traders on Thursday.
ที่มา : www.autonews.com วันที่ 22 ธันวาคม 2560
 

 

              ส.อ.ท.ตั้งเป้าปี 2561 ยอดผลิตรถยนต์ 1.97 ล้านคันขายในประเทศ 8.7 แสนคัน โต2% ส่งออกเท่าปีนี้ 1.1 ล้านคัน มั่นใจปีนี้ถึงเป้า 1.95 ล้านคัน ขณะดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรรมพ.ย.เพิ่มในระดับ87 อานิสงส์ ช้อปช่วยชาติ-บัตรคนจน นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี2561ที่ดีขึ้น มีอัตราการเติบโตในระดับ3.8-4%ส.อ.ท.จึงประเมินภาพรวมตลาดรถยนต์ปีหน้าว่าน่าจะเติบโตได้2%เป็นทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจโดย ส.อ.ท.ประมาณการยอดผลิตรถยนต์ปี2561อยู่ที่1.97ล้านคันสูงกว่าปีนี้ที่คาดจะผลิตได้1.95ล้านคันจากยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศคาดอยู่ที่8.7แสนคันสูงกว่าปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ที่8.5แสนคันหรือเพิ่มขึ้น2% ส่วนยอดผลิตเพื่อส่งออกรถยนต์ปีหน้าคาดเป้าหมายคงเท่ากับปีนี้ที่1.1ล้านคัน เพราะยังมีปัจจัยเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าจากต่างประเทศที่ต้องติดตามว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดส่งออกรถยนต์ของไทยหรือไม่รวมทั้งจะต้องจับตานโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐว่าจะออกมาตรการกีดกันการค้าตามที่หาเสียงไว้หรือไม่ซึ่งจะส่งผลต่อการค้าโลก

ที่มา : หนังสือพิมพ์  กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 21 ธันวาคม 2560
 

 

           กระทรวงการคลังของจีนเตรียมออกมาตรการห้ามรัฐบาลท้องถิ่นให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) และรถพลังงานทดแทนอื่นๆ เพื่อลดรายจ่ายภาครัฐและแก้ปัญหาที่ต่างชาติกล่าวหาว่าจีนปกป้องทางการค้า โดยอาจเริ่มบังคับใช้ในปีหน้า การเปิดเผยดังกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลขึ้นท่ามกลางผู้ผลิตรถอีวี ที่เกรงว่าธุรกิจจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากสินค้าจะมีราคาแพงขึ้น หากรัฐบาลไม่มีมาตรการอื่นช่วยเหลือเพื่อทดแทนเงินสนับสนุน ด้าน ซุยตงซู เลขาธิการสมาคมผู้ค้ารถยนต์จีน (ซีพีซีเอ) เปิดเผยว่า รัฐบาลจีนสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกกว่า 5.9 หมื่นล้านหยวน (ราว 2.9 แสนล้านบาท) ในปี 2015 ขณะที่มูลค่าอาจเพิ่มถึง 8.3 หมื่นล้านหยวน (ราว 4 แสนล้านบาท) ระหว่างปี 2016-2017  บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เปิดเผยว่า เตรียมเปิดตัวรถอีวีอย่างน้อย 10 รุ่น เพื่อจำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป โดยจะเริ่มต้นขายในจีนเป็นแห่งแรก พร้อมระบุว่าจะลงทุนมูลค่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.2 แสนล้านบาท) จนถึงปี 2030 เพื่อพัฒนาแบตเตอรี่รถอีวี  นอกจากนี้ โตโยต้ายังตั้งเป้าจะเปิดจำหน่ายรถทุกรุ่นของบริษัทในเวอร์ชั่นอีวีภายในปี 2025 พร้อมมุ่งขายรถไฮบริด 4.5 ล้านคัน และรถอีวีอีก 1 ล้านคันภายในปี 2025
ที่มา : หนังสือพิมพ์ โพสต์ ทูเดย์ วันที่ 20 ธันวาคม  2560