เมื่อเทรนด์รถพลังงานไฟฟ้า (EV) รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Drive) และ คาร์แชริ่ง (Car sharing) ขยับมาเร็วกว่าที่คิด โดยเป็นทิศทางใหม่ของโลกที่สอดคล้องกันตั้งแต่ระบบขับเคลื่อนและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ทั้งขนาดกลาง ขนาดเล็ก ได้เข้ามาแข่งขันในตลาด ระหว่างที่ค่ายใหญ่ยังขยับตัวช้า เพราะติดกับดักในเทคโนโลยีดั้งเดิมที่ตนเองลงทุนไปมหาศาล อย่างไรก็ตาม หลายค่ายรถยนต์รายใหญ่เริ่มปรับตัวให้ทันกับกระแสใหม่นี้ จากเดิมที่พยายามลดต้นทุนการพัฒนาด้วยการแลกเปลี่ยนโปรดักต์ในการทำตลาด หรือเป็นรถโมเดลเดียวแต่แปะป้ายขายคนละยี่ห้อ รวมถึงการลงทุนร่วมกันเพื่อให้ได้โปรเจ็กต์ใดโปรเจ็กต์หนึ่งแล้วแยกการทำตลาด ซึ่งมีทั้งเซ็นสัญญาความร่วมมือเป็นกรณีไป หรือเข้าไปถือหุ้นระหว่างกัน เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารและตัดสินใจ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 11 ตุลาคม 2560
The German government wants carmakers to offer mechanical modifications to engine and exhaust systems for some models, Der Spiegel reported on Saturday. The new government position was agreed to by experts and civil servants of the German transport ministry in an effort to prevent bans on diesel cars in some cities. The move would be a break with a less costly software-only overhaul agreed to just months ago. In August, German politicians and car bosses agreed to overhaul engine software on 5.3 million diesel cars to cut pollution and try to repair the industry's battered reputation. Politicians stopped short of demanding more expensive hardware adaptations. Environmentalists have said that agreement two years after Volkswagen Group admitted to cheating diesel emissions tests was too little, too late, and have vowed to press ahead with legal action aimed at banning polluting vehicles. The German transport ministry was not immediately available for comment.
ที่มา : www.autonews.com วันที่ 10 ตุลาคม 2560
"ค่ายรถ"เดินหน้าปูทางรับรถยนต์ไฟฟ้า "นิสสัน"หวังเปิดตัว"บีอีวี"ค่ายแรก ขณะ"บีเอ็มฯ-วอลโว่ร่วมพันธมิตรต่างธุรกิจ ผุดจุดชาร์จ "เบนซ์"ชี้กระแสปลั๊ก-อิน ไฮบริด มาแรง ขณะสนพ.ชี้ต่างชาติ 4 ค่ายหลัก ผนึก ผู้ประกอบการไทย ลงทุนสถานีชาร์จไฟฟ้า พร้อมเร่งวิจัยพัฒนาแบตเตอรี่ ด้านสมาคมยานยนต์ไฟฟ้า แจงเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดใน 5-10 ปี รัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ที่ขับเคลี่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรืออีวี ครอบคลุมรถพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว(BEV) รถ ไฮบริด และปลั๊ก-อิน ไฮบริด ทั้งมาตรการส่งเสริม การลงทุนโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการ ลงทุนหรือบีโอไอ และมาตรการด้านภาษีจาก กรมสรรพสามิตที่ลดภาษีกึ่งหนึ่งสำหรับไฮบริดและ ปลั๊ก-อินไฮบริด และภาษี 2% สำหรับบีอีวี ให้สอดคล้อง กับทิศทางโลกที่มุ่งมาทางยานยนต์ไฟฟ้า โดยเริ่มมี บางประเทศประกาศเลิกจดทะเบียนรถที่ใช้เครื่องยนต์น้ำมันภายในปี 2573
ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 9 ตุลาคม 2560