วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป จีนจะสามารถส่งรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาขายในเมืองไทยโดยไม่ต้องเสียภาษีแม้แต่บาทเดียว ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงการค้าอาเซียน-จีน หรือ "เอฟทีเอ" เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า พยายามจูงใจให้ค่ายรถต่างๆ มาตั้งโรงงานผลิตหวังให้ไทยเป็นศูนย์กลาง หรือฮับ การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค แต่เมื่อมีเงื่อนไขในข้อตกลงการค้าอาเซียนจีน กรณีรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ ส.อ.ท. เรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งทบทวนข้อตกลงดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าอัตราภาษี 0% อาจส่งผลกระทบต่อแผนส่งเสริมต่างชาติใช้ไทยเป็นฐานการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค เนื่องจากราคารถยนต์อีวีที่นำเข้าจากประเทศจีนตามข้อตกลงจะถูกกว่าการลงทุนผลิตในประเทศมาก นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ออกโรงแนะแนวทางว่า อยากให้ถอดรถยนต์ไฟฟ้าออกมาจากกรอบเอฟทีเอ แลกกับสินค้าประเภทอื่นแทน หรือไม่เช่นนั้นต้องหาแนวทางอื่นๆ เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เช่น การออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ชั้นสูง เป็นต้น ความห่วงใยของเอกชนในเรื่องนี้ไม่เพียงแค่ ส.อ.ท. เท่านั้น หากแต่บรรดาค่ายรถยนต์เองก็กังวลในระดับหนึ่ง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 27 ตุลาคม 2560
"รถเมล์ไฟฟ้า" ที่ไม่ปล่อยไอเสียในระหว่างสัญจร ออกมาวิ่งทั่วเมืองมากยิ่งขึ้นเพื่อลดมลพิษในอากาศ ในขณะนี้กรุงปักกิ่งของจีนนับว่ามีความก้าวหน้ามากที่สุดในการใช้รถเมล์ไฟฟ้า โดยล่าสุดทางรัฐบาลท้องถิ่นได้เปิดตัวรถเมล์ไฟฟ้าพร้อมเครื่องฟอกอากาศอีก 10 คัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อใช้ลดปริมาณอากาศเสียบริเวณใจกลางเมืองโดยเฉพาะ โดยเครื่องฟอกอากาศบนรถจะช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศได้ นอกจากนี้ ทางการยังเตรียมใช้งานรถเมล์ไฟฟ้าให้ได้อย่างน้อย 4,500 คัน ภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1,300 คัน ทั้งนี้ กรุงปักกิ่งเป็นเมืองที่มีปัญหามลพิษทางอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ซึ่งสามารถเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือดและอวัยวะต่างๆ ในร่างกายได้ อยู่ที่ 73 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรแล้วเมื่อปี 2016 สูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิ้ลยูทีโอ) ที่ไม่เกิน 10 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ที่มา : หนังสือพิมพ์ โพสต์ ทูเดย์วันที่ 26 ตุลาคม 2560
In September 2017, commercial vehicle registrations across the EU remained stable (+0.6%) compared to one year ago. Performances were diverse across the CV segments, with registrations of vans showing a modest increase (+2.1%) but demand for new trucks and buses falling (-6.5% and -9.9% respectively). Spain and Germany were the only markets among the big five to post growth (up 7.8% and 5.5%), while the United Kingdom (-6.0%) and Italy (-1.0%) performed less well than in September last year. Over nine months in 2017, demand for new commercial vehicles remained positive in the EU, with almost 1.8 million new vehicles registered – up 3.3%. Spain continued to drive growth (+14.4%), followed by France (+6.5%), Germany (+2.2%) and Italy (+1.6%). By contrast, CV registrations declined in the United Kingdom (-3.3%) so far in 2017.
ที่มา : acea.be วันที่ 25 ตุลาคม 2560