สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก

 

       กรมศุลฯเรียกผู้นำเข้ารถยนต์ทั้ง "เกรย์มาร์เก็ต-ดีลเลอร์-ผู้ประกอบการ ยานยนต์" ทำความเข้าใจคำสั่ง 317 ฉบับปรับปรุงใหม่ 11 ต.ค.นี้ ยัน "ปิดลับ" ไม่เปิดรายละเอียดเกณฑ์หวั่นเป็นช่องเอกชนสำแดงต่ำ พร้อมเดินหน้าถก 3 ฝ่าย "ศุลกากร-พาณิชย์-อุตสาหกรรม" รับมือผลกระทบ FTA ไทย-จีนกรณีรถยนต์ไฟฟ้าได้รับยกเว้นภาษี  นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า วันที่ 11 ต.ค.นี้ กรมศุลกากรได้เชิญผู้ประกอบการนำเข้า รถยนต์ ทั้งผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ (เกรย์มาร์เก็ต) ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (authorized dealer) และผู้ประกอบ การยานยนต์ มาประชุมชี้แจงความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เกณฑ์การประเมินความเสี่ยงในการตรวจสอบการนำเข้ารถยนต์หรูของกรมศุลกากร หรือคำสั่ง 317 ที่จะบังคับใช้ในระยะต่อไป  "เราเชิญทั้งเกรย์มาร์เก็ต ดีลเลอร์ และผู้ประกอบการยานยนต์มาคุย" นายกุลิศกล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ประชาชาติธุรกิจวันที่ 13 ตุลาคม 2560
 

 

        นายณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการก่อสร้างศูนย์ทดสอบ ยานยนต์และยางล้อรถยนต์แห่งชาติ ที่อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานใน เฟสแรก สร้างสนามทดสอบยางล้อมาตรฐาน R117 และศูนย์การเรียนรู้รถยนต์ไฟฟ้า และศูนย์การเรียนรู้และนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจะแล้วเสร็จและ ให้บริการได้ในปลายไตรมาส 1 ถึง ต้นไตรมาส 2 ปี 2561  ส่วนเฟส 2 จะเริ่มก่อสร้าง ในปี 2561 จะสร้างสนามทดสอบยานยนต์ อีก 5 สนาม ใช้งบประมาณ 800 ล้านบาท และห้องทดสอบความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้าใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท รวมทั้งจะสร้างห้องทดสอบแบตเตอร์รี่ รถยนต์ไฟฟ้า 270 ล้านบาท รวมแล้วจะใช้งบประมาณ 1,570 ล้านบาท จะแล้วเสร็จในต้นปี 2562 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 12 ตุลาคม 2560

 
 

 

   เมื่อเทรนด์รถพลังงานไฟฟ้า (EV) รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Drive) และ คาร์แชริ่ง (Car sharing) ขยับมาเร็วกว่าที่คิด โดยเป็นทิศทางใหม่ของโลกที่สอดคล้องกันตั้งแต่ระบบขับเคลื่อนและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ทั้งขนาดกลาง ขนาดเล็ก ได้เข้ามาแข่งขันในตลาด ระหว่างที่ค่ายใหญ่ยังขยับตัวช้า เพราะติดกับดักในเทคโนโลยีดั้งเดิมที่ตนเองลงทุนไปมหาศาล    อย่างไรก็ตาม หลายค่ายรถยนต์รายใหญ่เริ่มปรับตัวให้ทันกับกระแสใหม่นี้ จากเดิมที่พยายามลดต้นทุนการพัฒนาด้วยการแลกเปลี่ยนโปรดักต์ในการทำตลาด หรือเป็นรถโมเดลเดียวแต่แปะป้ายขายคนละยี่ห้อ รวมถึงการลงทุนร่วมกันเพื่อให้ได้โปรเจ็กต์ใดโปรเจ็กต์หนึ่งแล้วแยกการทำตลาด ซึ่งมีทั้งเซ็นสัญญาความร่วมมือเป็นกรณีไป หรือเข้าไปถือหุ้นระหว่างกัน เพื่อประสิทธิภาพในการบริหารและตัดสินใจ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 11 ตุลาคม 2560