สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก

          ในกีฬาโอลิมปิกปี 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น บริษัทโตโยต้าเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลัก โดยมีการจัดเตรียมยานยนต์และพาหนะที่ใช้เคลื่อนย้ายกว่า 3,700 คัน ซึ่งเกือบทั้งหมดใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นยานยนต์ไร้คนขับ ยานยนต์ไร้คนขับเป็นชัทเตอร์บัสรุ่น e-Palette ซึ่งเป็นยานยนต์อัตโนมัติระดับที่ 4 (ยังมีเจ้าหน้าที่ประจำเพื่อช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ) สามารถบรรทุกคนได้ 20 คน จำนวนประมาณ 12 คัน ใช้ในพื้นที่หมู่บ้านนักกีฬา รถยนต์ (เก๋ง) ใช้ไฮโดรเจนในการผลิตไฟฟ้า รุ่น Mirai จำนวน 500 คัน ใช้ในการเคลื่อนย้ายระหว่างสนามกีฬา รถสามล้อแบบยืน รถสกู๊ตเตอร์แบบนั่ง และรถพ่วงข้าง ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่สามารถวิ่งได้ระยะประมาณ 6 ไมล์ จำนวน 300 คัน ใช้สำหรับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์

ที่มา: Automotive News Europe ฉบับวันที่ 26 สิงหาคม 2562

          กว่า 14 ปีที่ผ่านมานั้นผู้ผลิตรถยนต์ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการผลิตกล้องมองหลัง แต่ Swamy Kotakiri ประธานฝ่ายเทคโนโลยีของ Magna International ได้มองเห็นความสำคัญของการผลิตกล้องภายใต้สัญญา 350,000 หน่วยในปี 2007 ทุกวันนี้มีการรวมตัวกันในตลาดของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ซึ่งมองว่ากล้องติดรถยนต์นั้นในอนาคตจะมีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ในวันพุธนั้น Magna Electronic ได้เปิดโรงงานกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐใกล้ฟลินท์ รัฐมิชิแกนซึ่งมีพื้นที่ในการผลิตกว่า 230,000 ตารางฟุต ผลิตกล้อง 12 ล้านชิ้นต่อปีสำหรับลูกค้า ซึ่งบริษัท Magna ผลิตชิ้นส่วนมากกว่า 46 ล้านชิ้นสำหรับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง Kotakiri มองว่าเป็นการสร้างระบบเทคโนโลยียานพาหนะไร้คนขับต่อไป เป็นต้น

ที่มา: Automotive News Europe ฉบับวันที่ 26 สิงหาคม 2562

          นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ยอดผลิตรถยนต์ ในเดือนก.ค.2562 ผลิตได้ 170,847 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.7% สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 81,044 คัน ลดลง 1.1% เนื่องจาก การอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ของสถาบันการเงิน ที่มีความเข้มงวดมากขึ้น ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 82,151 คัน ลดลง 8.87% โดยการส่งออก ลดลงเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดตะวันออกกลาง และตลาดยุโรป คิดเป็นมูลค่า ส่งออกรถยนต์ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ รวม 60,389.30 ล้านบาท ลดลงถึง 21.47%

          ทั้งนี้ ภาคเอกชนหวังว่าสหรัฐจะ ไม่เพิ่มมาตรการกีดกันการค้าเพิ่มเติม จนทำให้สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐส่งผลกระทบขยายเป็นวงกว้างออกไปมากกว่านี้ ก็เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ในระยะข้างหน้า ส.อ.ท.จึงยังไม่มีการปรับประมาณการยอดผลิตรถยนต์ปีนี้ทั้งปี โดยคงเป้าหมายไว้ที่ 2.15 ล้านคันเหมือนเดิม เป็นเป้าผลิตเพื่อการส่งออก 1.1 ล้านคัน และเป้าผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 1.05 ล้านคัน

ที่มา: ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 23 สิงหาคม 2562