ข้อมูลต่อไปนี้ เป็นการรวบรวม และจัดทำของแผนกพัฒนาอุตสาหกรรม ร่วมกับ ฝ่ายพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วน ศูนย์ทดสอบ วิจัย พัฒนา สถาบันยานยนต์ ภายใต้โครงการสารสนเทศยานยนต์ของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เผยแพร่ข้อมูลด้านกระบวนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณชนอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
สถาบันยานยนต์ จึงขอขอบคุณเว็บไซต์ และเจ้าของข้อมูลทุกๆ ข้อมูล ที่ได้นำมาจัดทำเป็นข้อมูลเพื่อการเผยแพร่ ณ ที่นี้ ด้วย
(2) กระบวนการผลิตกระจกรถยนต์
กระจกหน้าแบ่งออกเป็น 2 ประเภท 3 ชนิด โดยมีคุณภาพและคุณสมบัติแตกต่างกันดังนี้
กระจก Tempered โดยทั่วไปที่ใช้ทำกระจกบังลมหน้าจะมีความหนาประมาณ 5 มิลลิเมตร หรือรถบางรุ่นที่มีเจตนาลดเสียงลมปะทะและเสียงก้องของกระจกหน้า ก็อาจมีการใช้กระจกหนาขึ้นกว่านี้อีกเล็กน้อย กระจกแบบ Tempered จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. Zone-Tempered คุณสมบัติของกระจกประเภทนี้ คือ เวลาเกิดเรื่องทำให้กระจกหน้าแตกขึ้นมาตรงไหนก็แล้วแต่ มันจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยลามไปทั้งบาน โดยมีลักษณะการแตกแบ่งเป็นบริเวณต่างกัน แถวตอนล่าง แถวตอนกลางกระจกจะแตกเป็นผลึกหรือเม็ดโตหน่อยพอจะอาศัยมองเส้นทางได้บ้างแม้จะไม่ชัดเจนนัก ส่วนบริเวณแถวขอบกระจกจะแตกออกเป็นเม็ดเล็ก ๆ ขนาดย่อม มักนิยมใช้กระจกประเภทนี้ทำเป็นกระจกบังลมหน้า
2. Full-Tempered มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน คือ เวลาแตกมันจะลามไปทั้งบาน โดยมีความแตกต่างกันตรงเวลาแตกแล้วจะเป็นเม็ดเล็ก ๆ ทั่วทั้งแผ่น ซึ่งจะออกแบบมาไม่ให้เม็ดกระจกเหล่านี้มีความแหลมคม เพื่อไม่สร้างอันตรายต่อผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม ไม่ควรประมาท เพราะถึงมันจะไม่แหลมก็จริง แต่ในเรื่องความคมยังพอจะบาดได้เหมือนกันในบางเหลี่ยมมุม
กระจกแบบ Laminate โดยทั่วไปแล้วจะมีความหนาประมาณ 6 มิลลิเมตร (กระจกกันกระสุดนั้นไม่เกี่ยว) หนากว่าพวกกระจกแบบ Tempered นิดหน่อย กระจกแบบ Laminated ได้รับการพัฒนามาจากกระจกแบบ Tempered มีกระบวนการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อนกว่า โดยการรีดกระจกออกมาเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วจับเอามาประกบกัน ซึ่งมีแผ่นฟิล์มใสทำจาก "ไวนิล" นอกจากนี้ยามที่เกิดอุบัติเหตุ กระจกจะแตกร้าวเป็นเส้นเฉพาะบริเวณที่เกิดเรื่องเท่านั้น ไม่ร้าวฉานไปทั้งแผ่นแบบกระจก Tempered รวมทั้งจุดที่กระจกแตกยังสามารถป้องกันลมและฝนไม่ให้ซึมเข้ามาภายในได้ จึงยังสามารถใช้งานและขับขี่ต่อไปได้อย่างสบาย โดยทั่วไปกระจกแบบ Laminated จะมีอายุการใช้งานได้ทนทานและยาวนาน อย่างไรก็ตามมันก็มีการเสื่อมหรือเริ่มหมดอายุเหมือนกัน ซึ่งจะมีลักษณะเป็นฝ้าตามขอบและมุมกระจก
กระบวนการผลิต Tempered Glass
ขั้นตอนที่ | คำอธิบายกระบวนการผลิต | ขั้นตอนที่ | คำอธิบายกระบวนการผลิต |
A |
Loading of raw glass นำกระจกแผ่นแก้วเข้า |
H |
Inspection ตรวจสอบ |
B |
Marking up and cutting ทำการตัด |
I |
Packing บรรจุหีบห่อ |
C |
Beveling ทำการเจียรให้เข้ารูป |
J |
Shipment ขนส่ง |
D |
Hold Punching เจาะรู |
|
|
E |
Washing ล้างทำความสะอาด |
|
|
F |
Printing การพิมพ์ LOGO |
||
G |
Molding / tempering อบแทมเปอร์ หรือ อบที่อุณหภูมิ 650 ถึง 700 องศาเซลเซียล เพื่อความ แข็งแรง |
|
กระบวนการผลิต Laminated Glass
ขั้นตอนที่ | คำอธิบายกระบวนการผลิต | ขั้นตอนที่ | คำอธิบายกระบวนการผลิต |
A |
Loading of raw glass นำกระจกแผ่นแก้วเข้า |
G |
Washing ล้างทำความสะอาด |
B |
Marking up and cutting ทำการตัด |
H |
Lay Up ประกบกระจก 2 แผ่นเข้ากับฟิล์ม ดูดอากาศออก |
C |
Beveling ทำการเจียรให้เข้ารูป |
I |
Autoclave อบด้วยความร้อน |
D |
Washing ล้างทำความสะอาด |
J |
Inspection ตรวจสอบ |
E |
Forming (bending furnace) ขึ้นรูป ดัดโค้งโดยผ่านเตาความร้อน |
K |
Packing บรรจุหีบห่อ |
F |
Printing การพิมพ์ (Logo) |
L |
Shipment ขนส่ง |
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.agc-automotive.com/