สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก

       ในการผลิตกระจกนิรภัยสำหรับรถยนต์ชนิดหลายชั้น (laminated) ทางผู้ผลิตได้ใส่วัสดุใสคั่นกลาง (Interlayer) เพื่อทำให้กระจก 2 แผ่นหรือมากกว่าประกบติดกันสนิท เมื่อกระจกแตกจะไม่หลุดออกจากวัสดุใสคั่นกลาง และโดยทั่วไปจะไม่แตกเป็นชิ้นใหญ่ๆ ซึ่งในการทดสอบการทนรังสีนี้เอง จะเป็นการทดสอบพวกวัสดุใสคั่นกลางว่า คุณภาพก่อนและหลังการจำลองสภาวะการฉายรังสี UV ความโปร่งแสงก่อนและหลังการฉายรังสี มีความแตกต่างกันเท่าไร อยู่ในค่าที่ยอมรับได้หรือไม่ เนื่องจากคุณภาพของ วัสดุใสคั่นกลาง จะมีผลต่อทัศนวิสัยในการขับขี่ และอาจก่อให้เกิดอันตรายแค่ผู้ขับขี่ได้

 

       ตาม มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก.195-2536 ได้กล่าวถึงวิธีการทดสอบกระจกนิรภัยสำหรับรถยนต์ ซึ่งเป็นมาตรฐานบังคับว่า จำเป็นจะต้องผ่านการทดสอบตามรายการดังต่อไปนี้

 

             การทดสอบ  เครื่องมือที่ใช้
    1
ความหนา
วัดความหนาของชิ้นทดสอบที่กึ่งกลางของด้านทั้งสี่

260-1

    2
ลักษณะทั่วไป
ตรวจสอบข้อบกพร่องที่อาจมีและรบกวนหรือเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน
 

260-2

    3
การส่งผ่านแสง
วัดปริมาณแสงส่งผ่านชิ้นทดสอบและปริมาณแสงตกกระทบ
 

260-3

    4
การแยกภาพทุติยภูมิ
ระยะเหลื่อมสูงสุดของภาพปฐมภูมิและภาพทุติยภูมิเมื่อมองผ่านบริเวณมองผ่านปฐมภูมิ ต้องไม่เกิน 15 ลิปดาของอาร์กการแยกภาพทุติยภูมิ ระยะเหลื่อมสูงสุดของภาพปฐมภูมิและภาพทุติยภูมิเมื่อมองผ่านบริเวณมองผ่านปฐมภูมิ ต้องไม่เกิน 15 ลิปดาของอาร์ก
 

260-4

    5
การเห็นภาพเพี้ยน
ค่าเบี่ยงเบนเชิงมุมที่เปลี่ยนแปลงไปต้องไม่เกิน 15 ลิปดาของอาร์กเมื่อมองผ่านบริเวณมองผ่านปฐมภูมิ
 

260-5

    6
การชี้บ่งสี
ตรวจพินิจสีของกระดานสีโดยมองผ่านชิ้นทดสอบว่าสามารถชี้บ่งสีต่าง ๆ ตามสีของกระดานได้หรือไม่
 

260-6

    7
ความทนการขัดถู
ค่าความฝ้าเนื่องจากการขัดถูต้องไม่เกิน 2%ค่าความฝ้าเนื่องจากการขัดถูต้องไม่เกิน 2%
 

260-7

    8
ความทนอุณหภูมิสูง
จุ่มชิ้นทดสอบลงถังน้ำเดือดและยกขึ้น แล้วตรวจพินิจฟองอากาศและข้อบกพร่องอื่น
 

260-8

    9 ความทนรังสี
หลังจากผ่านรังสี UV แล้วนำมาตรวจพินิจการส่งผ่านแสง
 

260-9

    10
ความทนความชื้น
หลังผ่านความชื้นตรวจพินิจสี ฟองอากาศและความขุ่นมัว
 

260-10

    11
การกระแทกโดยศีรษะทดสอบ
ตรวจพินิจสภาพของกระจกนิรภัยทันทีที่ศีรษะทดสอบตกกระแทก
 

260-11

    12
ความทนการทะลุ
ตรวจพินิจว่าลูกเหล็กกลมทะลุผ่านชิ้นทดสอบหรือไม่
 

260-12

    13
ความทนการกระแทก
ตรวจพินิจว่าลูกเหล็กกลมทะลุผ่านชิ้นทดสอบหรือไม่
 

260-13

    14
ลักษณะการแตก
นับจำนวนเศษกระจกแตกให้แล้วเสร็จภายในเวลา 3 นาที
 

260-14


       โดยในครั้งนี้จะกล่าวถึงวิธีการทดสอบความทนต่อรังสี ในส่วนของวิธีทดสอบนี้จำเป็นต้องใช้เครื่อง Ultraviolet Radiation Device (UV) มาช่วยในการทดสอบ (ดังรูปที่1)

 

260-15

 

       เครื่องมือตามที่มาตรฐานกำหนด ได้กำหนดไว้ว่าจะต้องเป็นเครื่องฉายรังสีอัลตราไวโอเลต ที่มีแหล่งกำเนิดรังสี เป็นหลอดไอปรอทแก้วควอตซ์ (Quartz glass mercury lamp) ขนาด 750 ±50 วัตต์ หรือแหล่งกำเนิดรังสีอื่นที่เทียบเท่ากันซึ่งสามารถปรับและควบคุม อุณหภูมิได้ด้วย

 

       การเตรียมชิ้นทดสอบ : ให้ใช้ชิ้นทดสอบเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดประมาณ 30 เซนติเมตรที่ตัดมาจากผลิตภัณฑ์ตัวอย่างจำนวน 3 ชิ้น

 

       วิธีทดสอบ: จะอ้างอิงมาตรฐานที่ใช้ทดสอบ ECE R43 และก่อนทำการทดสอบจะต้องหาอัตราส่วนการส่งผ่านแสงในที่นี้ให้ค่าสมมติเป็น a โดยใช้เครื่อง Light Transmission วัดการส่งผ่านแสงดังรูปที่ 2หลังจากนั้นนำชิ้นทดสอบใส่ลงเครื่อง UV โดยควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ 45 ± 5 องศาเซลเซียส ต้องให้ผิวชิ้นทดสอบด้านที่จะอยู่นอกรถยนต์หันเข้าหาแหล่งกำเนิดรังสีนาน 100 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำชิ้นทดสอบหาอัตราส่วนการส่งผ่านแสงในที่นี้ให้ค่าเป็น b โดยวัดด้วย เครื่อง Light Transmission อีกครั้ง

 

       หาค่าอัตราส่วนของ (b/a) x 100 เทียบกับค่าที่กำหนด และตรวจพินิจชิ้นทดสอบบนพื้นสีขาว เพื่อหาความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดของสี ฟองอากาศ และความขุ่นมัวภายหลังการฉายรังสี สำหรับเกณฑ์การผ่านค่าอัตราส่วนของ (b/a) x 100 จะต้องไม่น้อยกว่า 95%, และค่าอัตราการส่งผ่านแสงภายหลังการฉายรังสี (b) ไม่น้อยกว่า 70 % และไม่มีความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดของสี ฟองอากาศ และความขุ่นมัว

 

260-16

260-17

ศูนย์สารสนเทศยานยนต์

ติดต่อ ศูนย์สารสนเทศยานยนต์ สถาบันยานยนต์

อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา (สพข.) ซ.ตรีมิตร กล้วยน้ำไท ถ.พระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์: 0-2712-2414 ต่อ 6443
email : aiu@thaiauto.or.th