สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก

ให้เรตสมาชิก: 2 / 5

ดาวใช้งานดาวใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งานดาวไม่ได้ใช้งาน
 

       1. หัวข้อการปรับปรุง
       การปรับปรุงระบบการผลิต ตามแนวทางของ Lean Production System (Implementing the Lean Production System)

 

       2. แรงจูงใจและสาเหตุที่ต้องทำการปรับปรุง
       ในอดีตโรงงงานแห่งนี้ดำเนินธุรกิจ ผลิตชิ้นส่วนสำหรับตลาด REM เป็น หลัก ซึ่งความเข้มงวดของลูกค้าในเรื่องของ คุณภาพ ต้นทุน และเวลาในการส่งมอบมีไม่มาก โรงงานจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับการผลิตอย่างเป็นระบบมากนัก จะเน้นที่การผลิตทีละมาก ๆ เพื่อเก็บเป็นสต็อก ซึ่งส่งปัญหาตามมาก็คือ เรื่องของความสูญเปล่า (MUDA) ในโรงงาน จนถึงปัจจุบันโรงงานเริ่มดำเนินธุรกิจกับลูกค้า OEM มากขึ้น ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าตลาด OEM มีความเข้มงวดมากในเรื่องของ คุณภาพ ต้นทุน และเวลาในการส่งมอบ และที่สำคัญนโยบาย “Global sourcing” ของ ผู้ประกอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในปัจจุบันซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มีคุณภาพ และต้นทุนในการผลิตต่ำจากทั่วโลกเข้าร่วมเป็น Supplier ของผู้ประกอบเหล่านั้น ทำให้ผู้บริหารของโรงงานแห่งนี้ได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของระบบการผลิต

 

       ซึ่งทางผู้บริหารได้ให้ความสนใจกับระบบการผลิตแบบ Lean เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นระบบที่มุ่งเน้นในเรื่องของการลดความสูญเปล่าในโรงงาน ซึ่งส่งผลถึงต้นทุนที่ลดลง นอกจากนั้น Lean Production System (LPS) ยังเป็นระบบที่มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว หรือในอีกความหมายหนึ่งก็คือการทำให้ Lead time สั้น ลงนั่นเอง อีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นแรงจูงใจในการปรับปรุงครั้งนี้ คือความต้องการระบบการผลิตที่สามารถดำเนินไปได้ด้วยตัวของพนักงานปฏิบัติการ โดยไม่ต้องพึ่งพา หรือขึ้นอยู่กับหัวหน้างานหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งมากจนเกินไป ซึ่งแนวคิดนี้สอดคล้องกับระบบ Visual control ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของ Lean Production System

 

       3. ข้อมูลพื้นฐานของโรงงาน
       กระบวนการผลิตหลักของโรงงานแห่งนี้ คือ กระบวนการ Die Casting ซึ่งแบ่งเป็น Aluminium Die Casting หรือกระบวนการฉีดขึ้นรูปชิ้นงานอลูมิเนียม และ Zinc Die Casting หรือกระบวนการฉีดขึ้นรูปชิ้นงานสังกะสี การปรับปรุงในครั้งนี้จะใช้การผลิตชิ้นงานสังกะสีเป็น line ต้นแบบในการปรับปรุงระบบการผลิต เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นงานของลูกค้า OEM หากพิจารณาผังกระบวนการผลิตจะเป็นดังภาพ

 

image_651-1

 

       เริ่มต้นจากการฉีดขึ้นรูปชิ้นงาน จากนั้นนำไปขัด (Polishing) ครีบที่ตัวชิ้นงานออก บางชิ้นงานต้องทำการเจาะ ต๊าป (Machining) ก็จะนำไปเข้าเครื่อง จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการของการตะไบแต่งชิ้นงาน (Filing) แล้วจึงนำไปเข้าเครื่องเขย่าล้าง (Tumbling) และทำการอบให้แห้ง (Drying) จากนั้นทำการตรวจขั้นสุดท้าย (Final Inspection) แล้วบรรจุกล่องเตรียมจัดส่งให้กับลูกค้าต่อไป

 

       จากการสำรวจพบว่าการจัดวาง Layout รวม ถึงพื้นที่ของโรงงาน เป็นอุปสรรคในการทำให้การผลิตไหลลื่น กล่าวคือการจัดวางกระบวนการต่าง ๆ ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนั้นยังมีปัญหาของ WIP จำนวนมากกองอยู่รอบ ๆ บริเวณเครื่องจักรทำให้พื้นที่ใช้สอยของโรงงานยิ่งน้อยลง

 

       การผลิตชิ้นงาน Die Casting มี lot size ที่ใหญ่มาก ผลิตติดต่อกันหลายกะ ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของ WIP ในกระบวนการถัด ๆ ไป

 

       กระบวนการ Machining ของ โรงงานแห่งนี้ยังไม่มีการเชื่อมต่อกระบวนการ ทั้ง ๆ ที่กระบวนการผลิตมีความต่อเนื่องกัน เป็นการผลิตแบบเครื่องต่อเครื่อง โดยระหว่างเครื่องจะมี WIP อยู่จำนวนมาก

 

       4. แนวคิดที่นำมาใช้ในการปรับปรุง
       เพื่อที่จะสร้างระบบการผลิตให้เป็นการผลิตแบบ Just In Time จำเป็นที่จะต้องวางรากฐานให้กับโรงงานก่อน ซึ่งแนวคิดที่นำมาใช้ในการปรับปรุงระบบการผลิต มีดังนี้

 

          4.1 การสร้างให้กระบวนการผลิตเกิดความไหลลื่นและต่อเนื่อง

          การวาง Layout โดยคำนึงถึงการไหลของกระบวนการคือพื้นฐานสำคัญที่จะต้องพิจารณา แต่ในกรณีของโรงงานแห่งนี้มีข้อจำกัดเรื่องของการวาง Layout ใหม่ ผู้ เชี่ยวชาญจึงเสนอแนวคิดในการสร้างกระบวนการผลิตที่ไหลลื่นต่อเนื่อง โดยการกำหนดการขนส่งชิ้นงานในโรงงานอย่างเป็นรอบเวลา เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่ออย่างสอดคล้องของกระบวนการแต่ละกระบวนการ แนวคิดนี้ยังรวมไปถึงการลดปริมาณ WIP ในแต่ละกระบวนการให้ต่ำที่สุด โดยยินยอมให้เก็บ Stock ของชิ้นงานไว้ได้เพียงสองแห่งเท่านั้น คือ หลังจากฉีดขึ้นรูป และ สโตร์สินค้าสำเร็จ

 

image_651-2

 

       เนื่องจากการเปลี่ยนรุ่น (Set up) ของกระบวนการ Die Casting จะเกิดการสูญเสียพลังงานมาก การเปลี่ยนรุ่นบ่อยเกินไปจะกระทบต่อต้นทุนทางด้านพลังงาน ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องผลิตด้วย Lot size จำนวนหนึ่ง ทำให้ต้องมีการผลิตแล้วเก็บไว้ใน สโตร์ แต่หลังจากกระบวนการนี้จนถึงกระบวนการสุดท้ายไม่มีความจำเป็นต้องผลิต lot ใหญ่แล้วเก็บเป็น WIP ไว้ระหว่างกระบวนการ ควรผลิตให้เสร็จจนกลายเป็นสินค้าสำเร็จ (F/G) แล้ว เก็บไว้ในสโตร์เพื่อรอส่งมอบให้กับลูกค้านอกจากนั้นกระบวนการผลิตที่ไหลลื่นยังรวมถึง การเชื่อมต่อเครื่องจักรซึ่งมีลำดับกระบวนการผลิตที่ต่อเนื่องกัน (เจาะ à ต๊าป) เข้าด้วยกัน

 

          4.2 การปรับเรียบการผลิต (level production)

          การปรับเรียบการผลิต คือ การกระจายการผลิตชิ้นงานรุ่นต่าง ๆ ลงไปอย่างสม่ำเสมอในช่วงเวลาการผลิต ซึ่งจะทำให้การผลิตในแต่ละวันเกิดความสม่ำเสมอ ปัจจัยสำคัญของการปรับเรียบการผลิตก็คือ lot size ในการผลิต ยิ่ง lot size ในการผลิตมีขนาดเล็กก็ยิ่งทำให้การปรับเรียบการผลิตดีขึ้น กล่าวคือในช่วงการผลิตหนึ่งอาจผลิตชิ้นงานได้หลากหลายรุ่น และหากมีคำสั่งซื้อเร่งด่วนจากลูกค้าเข้ามาแทรกระหว่างวัน ก็สามารถแทรกลำดับในการผลิตได้อย่างรวดเร็วและไม่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการผลิตมากนัก

 

image_651-3

          4.3 การลดเวลาในการ Set up

          หากสามารถลดเวลาในการ Set up ลงได้ก็จะสามารถเปลี่ยนรุ่นการผลิตได้บ่อยยิ่งขึ้น ส่งผลให้สามารถทำการผลิตด้วย lot size ที่เล็กลงได้ แนวคิดของการลดเวลาในการ Set up คือ การแบ่งงานภายในกับงานภายนอกให้ชัดเจน การเตรียมงานภายนอกสามารถทำได้ขณะที่เครื่องยังทำงานอยู่ การเตรียมงานภายในต้องทำการปรับปรุงด้วยแนวคิดที่ว่า ทำให้การปรับตั้งเป็นศูนย์

 

          4.4 การทำ 5ส ควบคู่ไปกับ Visual control

          5ส เป็นพื้นฐานสำคัญของการปรับปรุงทั้งปวง เป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเว้นได้ ประกอบกับการนำระบบ Visual control มา ใช้ เช่น การติดป้าย เครื่องหมายแสดงสถานะ ก็จะทำให้สามารถทราบถึงสถานะปัจจุบันของสิ่งต่าง ๆ ได้ว่าปกติหรือไม่ปกติ ซึ่งพนักงานปฏิบัติการก็สามารถเข้าใจเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์เหล่านี้ได้

 

       5. รายละเอียดวิธีการปรับปรุง
       การปรับปรุงในโรงงานแห่งนี้สามารถแบ่งเป็นหัวข้อในการปรับปรุงหลัก ๆ ได้ 4 หัวข้อ ซึ่งทั้ง 4 หัวข้อนี้มุ่งเน้นการปรับปรุงทั้งทางด้าน Software และ Hardware กล่าวคือทางด้าน Software หมายถึงการปรับปรุงวิธีการจัดการผลิต เช่น การวางแผนการผลิต การควบคุมพื้นที่ Store การกำหนดวิธีการทำงานต่าง ๆ ส่วนทางด้าน Hardware คือการปรับปรุงกระบวนการผลิต เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต ซึ่งการปรับปรุงระบบการผลิตของโรงงานแห่งนี้มีรายละเอียดดังนี้

 

          5.1 การปรับปรุงกระบวนการ Machining ให้มีลักษณะที่ไหลลื่น

          ลักษณะการปรับปรุงจะเน้นที่ Hardware เป็นหลักซึ่งจากสภาพปัจจุบันกระบวนการ Machining ยัง ไม่มีการเชื่อมต่อกันของเครื่องจักร อีกทั้งพนักงานยังทำงานในท่านั่ง ซึ่งเป็นท่าที่ไม่เหมาะสมในการทำงาน นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องเวลาในการเปลี่ยนรุ่นที่นานถึง 15-30 นาทีต่อการเปลี่ยน Jig เพียงหนึ่งตัว ดังนั้นการปรับปรุงในหัวข้อนี้จะประกอบด้วย
            - เปลี่ยนลักษณะการทำงานจากท่านั่งเป็นท่ายืนทำงาน โดยการทำฐานเครื่องให้สูงขึ้นในระดับที่พอเหมาะ โดยระดับความสูงของแท่นเจาะของเครื่องแต่ละเครื่องควรมีความสูงระดับเดียวกัน
            - เชื่อมต่อเครื่องจักรแต่ละเครื่อง ด้วยกล่องที่วางบนโต๊ะที่ซึ่งมีความสูงพอเหมาะ เพื่อการผลิตที่มุ่งไปสู่การผลิตแบบ One piece flow

 

image_651-4

 

           - การปรับปรุงเวลาในการเปลี่ยนรุ่นการผลิต ในหัวข้อนี้ได้รับความช่วยเหลือจาก Mr. Kasai ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขา Machining ในการให้คำแนะนำ แนวคิดในการใช้งาน Commom plate, Standardize Jig รวมถึง Tool setting gage

image_651-5

image_651-6

image_651-7

          5.1 การสร้างพื้นที่ สโตร์ในแบบ Visual control สำหรับวางชิ้นงานหลังจากกระบวนการ Die casting

          การทำกิจกรรม 5ส โดยการย้ายสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากพื้นที่การทำงาน ทำให้มีพื้นที่ในการทำงานมากขึ้น โดย เฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่บริเวณรอบ ๆ เครื่องซึ่งจะใช้เป็นพื้นที่ในการจัดทำ สโตร์ ความแตกต่างระหว่าง สโตร์กับสต็อกก็คือสโตร์จะมีการกำหนด พื้นที่อย่างชัดเจน ว่าพื้นที่แห่งนี้ใช้วางชิ้นงานอะไร มีการกำหนดกฎการใช้งานสโตร์และวิธีการดึงชิ้นงานไปใช้อย่างชัดเจนโดยใช้หลัก First In First Out ซึ่งในการทำพื้นที่สโตร์ในแบบ Visual control จะมีแผ่นป้ายบ่งชี้ และมีการตีเส้นแบ่งพื้นที่อย่างชัดเจน

       กฎข้อที่ 1 วางกล่องซ้อนกันได้ไม่เกิน 8 กล่อง


image_651-8

image_651-9

image_651-10

 

          5.2 การใช้งาน Signal Kanban

          จะพิจารณาตั้งแต่การกำหนด lot size ในการผลิต จากนั้นจะพิจารณาเลือกรุ่นชิ้นงานที่จะนำ Signal Kanban มาใช้ หลังจากนั้นทำการหาจุด Reorder point หรือตำแหน่งที่จะติดตั้ง Signal Kanban จากนั้นทำการทดลองคำนวณความเคลื่อนไหวของปริมาณชิ้นงานในสโตร์เพื่อดูว่า ตำแหน่ง Reorder point มีปัญหาหรือไม่ และดูว่าปริมาณที่มากที่สุดของเดือนเกินกว่าพื้นที่จัดเก็บหรือไม่ ถัดไปคือการกำหนดกฎในการใช้ Signal Kanban สุดท้ายคือการทดลองใช้งานจริง

 

          เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องของเวลาในการ Set up ของกระบวนการDie casting ทำให้การเปลี่ยนรุ่นสามารถกระทำได้ในช่วงเปลี่ยนกะเท่านั้น จึงหมายความว่า Standard production lot size = จำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้ใน 1 กะ จากการพิจารณาเลือกรุ่นชิ้นงานพบว่ามีชิ้นงานเพียงรุ่นเดียวที่เหมาะสมกับการใช้งาน Signal Kanban คือมียอดการสั่งซื้อต่อเดือนสูง ต้องใช้เวลาหลายกะในการผลิต ชิ้นงานนั้นคือ ชิ้นงาน B1 lot size ในการผลิตของชิ้นงาน B1 ที่เหมาะสมกับสภาพปัจจุบันคือ 2 กะติดต่อกัน หรือเท่ากับ 8,000 ชิ้น การพิจารณา Reorder point จะพิจารณาจาก Lead time ที่ใช้ในการผลิตกับปริมาณที่ชิ้นงานถูกดึงไปใช้ในแต่ละวัน ซึ่งในกรณีนี้จะกำหนด Reorder point ไว้ที่ 3,000 ชิ้น นั่นหมายความว่าเมื่อปริมาณชิ้นงาน B1 ในสโตร์อยู่ต่ำกว่า 3,000 ชิ้น Signal Kanban จะต้องกลับไปยังเครื่องฉีดเพื่อทำการสั่งผลิตอีกครั้ง

 

image_651-11

       สำหรับชิ้นงานรุ่นอื่น ๆ ที่ผลิตโดยเครื่อง Die casting เครื่องเดียวกับชิ้นงาน B1 ให้ทำการวางแผนแบบ level production โดยใช้ lot size ในการผลิตเท่ากับ 1 กะ

image_651-12

       5.3 การขนส่งชิ้นงานภายในโรงงาน

       ในการปรับปรุงครั้งนี้จะเน้นไปที่การขนส่งชิ้นงาน เพื่อป้อนให้กับเครื่องอบอย่างต่อเนื่อง เป็น การแนะนำแนวคิดในการเชื่อมต่อกระบวนการอย่างไหลลื่น ด้วยการขนส่งชิ้นงานภายในโรงงาน ซึ่งจากเดิมการขนส่งนี้ไม่ได้กำหนดเส้นทาง รอบเวลา จำนวนที่แน่นอนในการขนส่ง ทำให้ไม่สามารถใช้งานเครื่องอบซึ่งเป็นกระบวนการที่เป็นจุดคอขวดได้อย่างเต็มที่ โดยในการขนส่งจะใช้พนักงานเพียง 1 คนขนส่งชิ้นงานระหว่างกระบวนการจาก Machining ไป ยังตะไบตกแต่งไปยังเขย่าล้าง จนถึงการอบ พนักงานที่กำหนดให้ทำหน้าที่ขนส่งชิ้นงานจะเป็นพนักงานที่คุมเครื่องเขย่า และเครื่องอบ ซึ่งจากการพิจารณา เงื่อนไขและข้อจำกัดต่าง ๆ จึงสรุปออกมาเป็นแผนภาพลำดับการทำงาน เส้นทาง และจำนวนกล่องในการขนส่งชิ้นงาน

image_651-13

image_651-14

 

       6. ผลจากการปรับปรุง

          6.1 การปรับปรุงกระบวนการ Machining ให้มีลักษณะที่ไหลลื่น

            - โรงงานมี Machining line ที่สามารถผลิตงานได้เร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการปรับปรุงลักษณะจากนั่งทำงานซึ่งเป็นท่าที่มี Productivity ต่ำ ไปเป็นการยืนทำงานซึ่งเป็นท่าที่มี Productivity สูงกว่า ประกอบกับมีโต๊ะสำหรับวางกล่องใส่ชิ้นงานที่มีความสูงพอเหมาะ ทำให้การทำงานมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นตัวเชื่อมเครื่องเจาะต่าง ๆ เข้าด้วยกันทำให้เกิด Machining line ที่มีความไหลลื่น หลังจากเชื่อมเครื่องจักรเข้าด้วยกันยังเกิด WIP ซึ่งสาเหตุที่เกิดเนื่องจากมีความแตกต่างของเวลาการผลิตของแต่ละเครื่อง ดังนั้นการปรับปรุงในลำดับต่อไปคือการทำ Line balancing

 

            - จากการปรับปรุงวิธีการ Set up จะทำให้โรงงานสามารถลดเวลาในการ Set up ลงได้ แต่เนื่องจากการปรับปรุงทางด้านเครื่องมือ (Hardware) ยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่อาจวัดผลที่แท้จริงได้ จากการประมาณการของผู้เชี่ยวชาญหากใช้ Standardize Jig, Common base และ Tool setting gage ที่ได้ทำการปรับปรุงแล้วจะสามารถลดเวลาในการ Set up จาก 30 นาทีให้เหลือไม่เกิน 3 นาทีได้

 

image_651-15

          6.2 การสร้างพื้นที่ สโตร์ในแบบ Visual control สำหรับวางชิ้นงานหลังจากกระบวนการ Die casting

            -  จากการที่ได้ทำกิจกรรม 5ส อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการกำหนดพื้นที่และกฎในการใช้สโตร์ และทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน ทำให้พนักงานสามารถควบคุม ตรวจสอบพื้นที่สโตร์ได้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังได้พื้นที่ในการทำงานเพิ่มมากขึ้นหลังจากทำการเคลื่อนย้ายสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากพื้นที่

 

          6.3 การใช้งาน Signal Kanban

            - การใช้งาน Signal Kanban จะใช้กับงานรหัส B1 เท่านั้น เนื่องจากปริมาณที่ต้องผลิตต่อเดือน และ lot size ในการผลิตมีความเหมาะสม การนำ Signal Kanban มาใช้จะทำให้ภาระในการวางแผนและควบคุมการผลิตลดลง เนื่องจากพนักงานระดับปฏิบัติการสามารถเข้าใจและปฏิบัติตาม คำสั่ง (Kanban) ได้อย่างถูกต้อง

            - ฝ่ายวางแผนเข้าใจถึงแนวคิดการวางแผนการผลิตแบบ Level production ซึ่งจะทำให้สภาพการผลิตมีความคงที่มากขึ้น

 

          6.4 การขนส่งชิ้นงานภายในโรงงาน

            - จาก การกำหนดเส้นทางและรอบเวลาในการขนส่งที่แน่นอน ทำให้สามารถใช้งานเครื่องอบได้อย่างต่อเนื่องมากที่สุด นอกจากนั้นทีมงานยังได้เข้าใจและเห็นถึงความสำคัญของการขนส่งชิ้นงานภายใน โรงงานว่าเป็น “ตัวกำหนดจังหวะ การทำงานของโรงงาน” และ เนื่องจากโรงงานแห่งนี้มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่และการวางผังโรงงาน ดังนั้นการกำหนดการขนส่งชิ้นงานภายในโรงงานที่ดีจะสามารถเชื่อมต่อกระบวนการ ต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างสอดคล้อง ซึ่งทีมงานสามารถนำแนวคิดนี้ไปขยายผลต่อโดยการกำหนดเส้นทางและรอบเวลาในการ ขนส่งชิ้นงานสำหรับทั้งโรงงานได้ต่อไป

 

       7. คำแนะนำเพิ่มเติม
       การวางระบบการผลิตแบบ Lean จำ เป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการผลักดันจากผู้บริหารระดับสูงซึ่งมีความเข้า ใจถึงแนวคิดของระบบนี้ และควรที่จะลงมาดูแลกิจกรรมนี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นยังต้องมีทีมงานที่เข้มแข็งในการทำกิจกรรมเพื่อที่จะเปลี่ยน ทัศนคติของคนทั้งองค์กร ให้เข้าใจและปฏิบัติตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกสิ่งหนึ่งก็คือ กิจกรรม Kaizen ซึ่งจะต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อการผลิตที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้จึงจะทำให้การวางระบบประสบผลสำเร็จได้

 

       8. คำศัพท์

          Common base แท่นติด Guide pinซึ่งถูกยึดติดกับเครื่อง Machining ซึ่งใช้ร่วมกับStandardize Jig เพื่อลดเวลาในการ Set up สำหรับกระบวนการ Machining
Lead time เวลานำการผลิต
Level production การปรับเรียบการผลิต
Lot size ปริมาณ ขนาดในการผลิต / ขนส่ง
Global sourcing นโยบายของบริษัทผู้ประกอบในการเสาะหา Supplier ที่มีคุณภาพและต้นทุนต่ำจากทั่วโลก
Guide pin ส่วนประกอบใน Common base ใช้สำหรับกำหนดตำแหน่งในการเปลี่ยน Jig
Just In Time การผลิตที่มีประสิทธืภาพตามคำนิยามที่ว่า “ผลิตสิ่งที่จำเป็น ในจำนวนที่จำเป็น และในเวลาที่จำเป็น”
OEM Original Equipment Manufacturer
Productivity ผลิตภาพ
REM Replacement Equipment Manufacturer
Set up time เวลาการเปลี่ยนรุ่นการผลิต
Signal Kanban คัมบังชนิดหนึ่ง ที่ใช้สั่งผลิตชิ้นงานแบบเป็น lot
Standardize jig Jig ซึ่งมีขนาดฐานที่เป็นมาตรฐาน เมื่อใช้ร่วมกับ Common base จะช่วยลดเวลาในการเปลี่ยนรุ่นการผลิตลง
Tool setting gage เกจที่ใช้สำหรับตั้งความยาวเครื่องมือตัด ซึ่งจะทำให้การปรับตั้งทำได้เร็วขึ้น
Visual control การควบคุมด้วยสายตา เป็นแนวทางการปรับปรุงที่มุ่งเน้นให้ สามารถมองเห็นสถานะของการผลิตว่าเป็นปกติ หรือไม่ปกติได้ ใช้เพียงแค่ประสาทสัมผัสของร่างกาย
                                 

 

ศูนย์สารสนเทศยานยนต์

ติดต่อ ศูนย์สารสนเทศยานยนต์ สถาบันยานยนต์

อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา (สพข.) ซ.ตรีมิตร กล้วยน้ำไท ถ.พระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์: 0-2712-2414 ต่อ 6443
email : aiu@thaiauto.or.th