เนื่องจากวิธีการผลิตโดยทั่วๆ ไปจะใช้วิธีการผลิตแบบ Lot ซึ่งจะทำให้เกิดเวลารอคอยในการผลิตจนกว่าจะได้ชิ้นงานสำเร็จรูปตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการ และเมื่อมาพิจารณาถึงองค์ประกอบของ Production Lead Time จะเป็นไปตามรูปข้างล่างนี้
ซึ่งถ้าเราทำการผลิตแบบ Lot นั้นจะทำให้เราเสียเวลาไปกับ Queue time before processing, wait time after processing และ move timeจากเครื่องจักรหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง ดังตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการผลิตสินค้า A จำนวน 450 ชิ้น ซึ่งมีขั้นตอนในการผลิตจำนวน 4 ขั้นตอน และภายในแต่ละขั้นตอนใช้เวลาในการผลิต 1 นาที (โดยสมมติว่าไม่คิดเวลารอคอยต่าง ๆ ในการที่จะทำการผลิตในขั้นตอนต่อไป) และเมื่อเราทำการผลิตแบบ Lot Production เวลารวมในการผลิตหรือ Production Lead Time จะเป็นไปตามรูปข้างล่างนี้
แต่ถ้าเราทำการผลิตแบบ One By One หรือ การผลิตโดยใช้วิธีการส่งต่ออย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนสิ้นสุดกระบวนการผลิต นั้น จะทำให้เราไม่ต้องสูญเสียเวลาในการเคลื่อนย้ายกล่องงานและเวลารอคอยอื่น ๆ และเมื่อนำการผลิตแบบนี้มาพิจารณาตามตัวอย่างข้างบนจะเป็นไปตามรูปข้างล่างนี้
จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่า เวลารวมในการผลิตจะลดลงจากเดิม จาก 1800 นาที เหลือแค่ 453 นาที นั่นคือ เราจะสามารถลดเวลาที่ต้องใช้จากเดิมประมาณ 4 วันทำงานเหลือแค่ 1 วันทำงาน (ลดลง74.83%) แต่ในการผลิตแบบนี้ก็มีอุปสรรคในการทำด้วยเหมือนกัน คือ
1. ตำแหน่งการวางเครื่องจักรของโรงงาน
2. แผนการผลิตของโรงงาน
3. จำนวนพนักงานมีเพียงพอหรือเปล่า
4. จำนวนเครื่องจักรมีเพียงพอไหม
5. การปรับตั้งเครื่อง ว่าสามารถทำงานได้พร้อมกันหรือเปล่า