Painting
โดยทั่วไปแล้วส่วนประกอบของวัตถุดิบในการผสมสีมีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ Painting Material Color, Hardness, และ Thinner โดยผสมได้ 2 แบบ มีสัดส่วนดังนี้
Painting Material Color + Hardness + Thinner
80% + 20% + 15% = 115%
75% + 15% + 10% = 100%
ซึ่งความแตกต่างของ Hardness มีส่วนช่วยในการยึดตัวของสีที่แตกต่างกันตามลักษณะของชิ้นงานที่เราต้องการ เมื่อทำการอบที่อุณหภูมินั้นๆ
สีที่ยังไม่ได้ทำการผสมควรเก็บไว้ไม่เกิน 3-4 เดือน (มากสุดไม่เกิน 6 เดือน) ซึ่งถ้าเกิน 6 เดือนแล้วจะทำให้คุณภาพของสีลดลง เพราะฉะนั้นควรมีการจัดระบบการเก็บสีด้วย First In First Out
การ คำนวนการใช้สีในแต่ละวันนั้นสามารถคำนวนได้เช่น สมมติว่า ชิ้นงาน 1 ชิ้นใช้สี 100 กรัม ดังนั้นใน 1 วันทำการผลิต 800 ชิ้น จึงต้องใช้สีประมาณ 80 ก.ก. ต่อวัน เพราะฉะนั้นก่อนการผสมสีจะต้องมีการ คำนวนว่าจะต้องใช้สีประมาณเท่าไหร เพราะสีที่เหลือจะสามารถเก็บไว้ได้เพียงแค่ 4-8 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถ้าหากว่ามีการผสมสีเหลือเกินความต้องการก็จะเป็นการสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์
การผสมสีสามารถที่จะทำการผสมได้ 2 แบบ คือ ผสมโดยน้ำหนัก และ โดยปริมาตร
อุณหภูมิห้องอบสีพ่น สำหรับชิ้นงานที่เป็น
· เหล็กจะอยู่ที่ประมาณ 120-150 ? C ขึ้นอยู่กับความหนาของชิ้นงาน
· พลาสติกจะอยู่ที่ประมาณ 80-85 ? C ขึ้นอยู่กับความหนาของชิ้นงาน
· อุณหภูมิห้องอบสี EDP สำหรับชิ้นงาน (เหล็กเท่านั้น) จะอยู่ที่ประมาณ 150-180 ? C ขึ้นอยู่กับความหนาของชิ้นงาน
อุณหภูมิห้องต่างๆในแผนกสีควรจะใกล้เคียงกันมากที่สุด ±2? c (4 ? c) เช่น
ห้องเก็บสี (Std. 25 ?c) ~ ห้องผสมสี (25 ?c) ~ ห้องพ่นสี (25 ?c) ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากความหนืดของสี (viscosity) มีผลกระทบต่ออุณหภูมิ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วค่าความหนืดของสี (viscosity) ควรมีค่าประมาณ 13-15 วินาที (จับเวลาจากกการปล่อยให้สีปริมาณ 50 cc ปล่อยไหลหมดภายใน 13-15 วินาที) ดูภาพที่ 1
ใบพัดที่ใช้ในการผสมสีควรจะมีที่กันกระแทกระหว่างถังกับใบพัดเพื่อป้องกันการเกิดประกายไฟซึ่งทำให้เกิดไปไหม้ได้ ดูภาพที่ 2