ในการเลือกซื้อยางรถยนต์ปัจจุบันนี้มีการเดินทางรถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน และรถยนต์ส่วนบุคคล เนื่องด้วยความสบายเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรใส่ใจและหมั่นตรวจเช็ครถยนต์ของท่านว่าอยู่ในสถาพที่ใช้งานได้หรือไม่ มีอะไหล่ที่ชำรุดหรือไม่ เช่นเดียวกับยางรถยนต์ที่ต้องเปลี่ยนไปตามสภาพ ที่ต้องคอยตรวจสอบสภาพยางอยู่เสมอว่ามีการสึกหรอหรือรั่วหรือไม่ เพราะยางรถยนต์เปรียบเสมือนเกราะกันระหว่างรถยนต์กับพื้นถนน เพื่อให้สมรรถภาพการขับขี่ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ขอแนะนำหลักการซื้อยางรถยนต์ให้ได้มาตรฐานและมีสภาพดี โดยแบ่งลักษณะของยางได้ดังนี้
๑. ยางใหม่ คือ ยางรถยนต์ที่ยังไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน และมีการรักษาที่ดี จะมีอายุการใช้งานประมาณ ๓ – ๕ ปี นับแต่วันผลิต หรือ ๕๐,๐๐๐ กิโลเมตร
๒. ยางหล่อดอก คือ นำโครงยางรถยนต์เก่าที่สึกหรอแล้วมาหล่อยางเข้าไปใหม่โดยนำแผ่นยางมาหลอมเชื่อมด้วยความร้อนบนโครงสร้างเก่า
๓. ยางเปอร์เซนต์หรือยางมือสอง คือ ยางที่ผ่านการใช้งานมาแล้วแต่ยังอยู่ในสภาพที่สามารถนำมาใช้ได้อีก ทั้งนี้ยางเปอร์เซนต์จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความลึกของดอกยาง ถ้ายางเส้นนั้นมีการสึกหรอมาก ถือว่ายางเส้นนั้นหมดสภาพไม่ควรใช้งานต่อไป
สำหรับวิธีการตรวจสภาพยางว่าควรเปลี่ยนเมื่อไร ให้สังเกตสภาพยางว่ามีการสึกของดอกยางระดับเสมอกับเครื่องหมายรูปสามเหลี่ยมบนสุดของแก้มยางนั้นประมาณ ๑ – ๒ มิลลิเมตร ก็ควรเปลี่ยนยางใหม่ทันที ส่วนต่อมาคือดูจากดอกยางรถยนต์ โดยสังเกตที่แก้มยางว่าจะมีตัวเลขเป็นปีที่ผลิต เช่น ๔๑๐๒ ก็คือผลิตสัปดาห์ที่ ๔๑ ปีที่ ๒๐๐๒ นอกจาการตรวจลักษณะและสภาพของยางแล้ว ยังต้องดูร้านจำหน่ายยางรถยนต์ที่ได้มาตรฐานด้วยเช่นกัน
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง สคบ. ใคร่ขอแนะนำทุกท่านใส่ใจดูแลสภาพรถยนต์ของท่านเพื่อความปลอดภัยของท่านและครอบครัว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ : 14 กรกฎาคม 2551 หน้าที่ 8