แนะผู้ขับขี่เรียนรู้แก้เหตุฉุกเฉิน ช่วยชีวิตรอดปลอดภัย
แม้ผู้ขับขี่ได้เตรียมความพร้อมในการขับขี่เป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ก็มีเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เฉพาะหน้า กรณีเหตุฉุกเฉินอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ประสบเหตุเอาชีวิตรอดได้อย่างปลอดภัยเพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะวิธีแก้ไขเหตุฉุกเฉินในระหว่างเดินทาง ดังนี้
ยางระเบิด จับพวงมาลัยให้มั่นโดยประคองพวงมาลัยให้อยู่ในทิศทางตรงกันข้ามกับยางที่ระเบิด ค่อยๆถอนคันเร่ง เหยียบย้ำเบรกเบาๆ แบบถี่ๆ ห้ามเหยียบเบรก หักพวงมาลัยหรือดึงเบรกมือกะทันหัน เพราะจะทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ห้ามเหยียบคลัทซ์จะทำให้รถบังคับยากขึ้น
เบรกแตก เหยียบย้ำเบรกแรงๆแบบถี่ๆ และลึกกว่าปกติ จะช่วยให้เบรกมีกำลังดีขึ้น ลดความเร็วโดยใช้เบรกมือช่วย และดึงเบรกมือขึ้นลงเป็นระยะจะช่วยป้องกันล้อล็อกทำให้รถเสียการทรงตัว
หม้อน้ำแห้งหรือรั่ว เปิดฝากระโปรงหน้ารถ เพื่อระบายความร้อนออกจากห้องเครื่อง เมื่อเครื่องยนต์เย็นตัวลงจึงค่อยเปิดฝาหม้อน้ำโดยใช้ผ้าหนาๆ หรือสวมถุงมือแล้วจึงค่อยๆ เติมน้ำลงหม้อน้ำทีละน้อย ที่สำคัญไม่ควรยื่นหน้าเข้าใกล้หม้อน้ำ เพราะไอน้ำอาจพุ่งใส่หน้า กรณีหม้อน้ำรั่วให้ใช้สบู่อุดรอยรั่วแล้วเติมน้ำจนเต็มหม้อน้ำจากนั้นจึงขับรถไปให้ช่างผู้ชำนาญการตรวจสอบทันที แต่ต้องหยุดพักรถเป็นระยะเมื่อความร้อนขึ้นสูง
สิ่งของกีดขวางเส้นทาง ชะลอความเร็ว พยายามหักหลบสิ่งของที่กีดขวางเส้นทาง แต่ต้องระวังรถที่วิ่งสวนทางหรือตามมาในระยะกระชั้นชิด หากหักหลบไม่ทันให้ขับคร่อมสิ่งของ ห้ามให้ล้อทับสิ่งของโดยตรง เพราะยางอาจจะระเบิดได้เมื่อขับผ่านไปแล้ว ให้นำรถจอดในบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อตรวจสอบความเสียหายของใต้ท้องรถ
สัตว์วิ่งตัดหน้ารถ ห้ามบีบแตรเพราะจะทำให้สัตว์ตกใจวิ่งตัดหน้ารถในทันที จับพวงมาลัยให้มั่นและเบี่ยงรถออกห่างจากสัตว์เล็กน้อยแต่ต้องระวังถูกคันอื่นเฉี่ยวชนหรือชนท้าย ห้ามหักพวงมาลัยไปทางซ้ายจะทำให้รถเสียหลักไปทางซ้ายจะทำให้รถเสียหลักพุ่งลงข้างทาง หรือชนกับต้นไม้เสาไฟฟ้าริมข้างทางได้
หลังจากผู้ขับขี่แก้ไขเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าได้แล้ว ให้รีบจอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย ไม่จอดรถกีดขวางเส้นทางจราจร เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงหรืออุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้
“...การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากรณีเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงอันตรายและทำให้ผู้ประสบเหตุสามารถเอาชีวิตรอดจากเหตุฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย…”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : คมชัดลึก