นายกฯ ยกระดับแก้ฝุ่นเป็นวาระแห่งชาติ จี้ทุกส่วนร่วมแก้ปัญหา กำชับงดเผาในที่โล่ง “บิ๊กป้อม” สั่งเฝ้าระวังต่อเนื่องจนกว่าจะปกติ สศอ. หารือ 9 ค่ายรถยนต์ ขานรับ เร่งยกระดับมาตรฐานยูโร 5 ตั้งเป้าผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ทุกคันภายในปี 2564 ลดการปล่อยฝุ่นพิษ 80% การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (12 ก.พ.) ได้ยกระดับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน โดยกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ หลังจากการประขุม ครม. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เห็นแผนการแก้ปัญหาในระยะสั่น – ยาว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐบาล กล่าวหลังการประชุม ครม. ว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ ดีขึ้น แต่การแก้ไขปัญหาต้องทำต่อไปซึ่งมติ ครม. ให้การกำจัดฝุ่นละออง PM2.5 และ PM10 เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งมีหลายหน่วยงาน เกี่ยวข้องเพื่อให้จัดการปัญหา ฝุ่นละอองย่างยั่งยืน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562
ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นไปอีกระดับ หลังค่ายรถรายใหญ่เกือบทุกรายที่มีการผลิตรถยนต์ในประเทศได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนประกอบรถยนต์ไฟฟ้าจาก คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเป็นที่เรียบร้อยก่อนครบกำหนดไปปเมื่อสิ้นปี 2561 และในปีนี้เราจะได้เห็นถึงทิศทางการลงทุนที่สำคัญและจะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน คือ กิจกรรมการผลิตแบตเตอรี่ โดยเฉพาะ เพื่อรองรับติ่ความต้องการใช้ของรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย โดยศูนย์ข้อมูลจากกสิกรไทยพบว่า อุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นตามการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้ระยะเริ่มต้น ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น จากแนวโน้มการขอรับการส่งเสริมการลงทุนของค่ายรถยนต์จะเห็นได้ว่า ทิศทางการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในยุคไทยมุ่งเน้นไปยัง 2 กลุ่ม ได้แก่ รถยนต์ไฮบริด (Hybrid electric vehicle : HEV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in hybrid electric vehicle : RHEV ) โดยบางส่วนได้เริ่มมีการลงทุนประกอบรถยนต์ไปบ้างแล้วตั้งแต่ปี 2561 ขณะที่การลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery electric vehicle :BEV ) ในไทยค่ายรถต่างมองว่าอาจต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะ เมื่อโครงข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้ามีความพร้อมมากขึ้น แต่ก็น่าจะไม่นานเกินไปกว่าปี 2564 ตามเงื่อนไขบีโอไอที่กำหนดให้ต้องมีการผลิตรถยนต์ขึ้นจริงในประเทศภายใน 3 ปี หลังจากได้รับอนุมัติส่งเสริม
ที่มา : หนังสือพิมพ์ สยามธุรกิจ ฉบับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562
นายสเตฟาน ดอร์สกี กรรมการผู้จัดการบริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด แดเผยว่า สแกนเนียพร้อมสนับสนุนให้ไทย ดำเนินการเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงทางเลือก เพื่อช่วยลดการปล่อยมลพิษโดยที่ผ่านมาสแกนเนียได้ลงทุนพัฒนาโซลูชั่นรองรับการใช้พลังงานเลือกและเชื่อเพลิงทดแทน เน ไบโอดีเซลและก๊าซชีวภาพ ขณะที่รถบรรทุกสแกนเนียสามารถปรับใช้ไบโอดีเซลได้ 100% และเป็นที่หน้ายินดีว่าความต้องการใช้น้ำมันดีเซล B20 ในไทยเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มั่นใจว่าสแกนกเนียสามารถช่วยลดการปล่อยมลพิษได้ สำหรับในปี 2561 สแกนเนียมียอดขายรถบรรทุกและรถหัวลาก 506 คัน ส่วนปี 2562 ตั้งเป้ายอดขาย 700 คันขึ้นไป โดยวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 จะเปิดตัวรถบรรทุกทุกรุ่นใหม่ที่สุดดิโอปาร์ค จังหวัด สมุทรปราการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ แนวหน้า ฉบับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562