นายทรงวิทย์ ฐิติปุญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ เอแช็ป (ASAP) ผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะยาวแบบครบวงจรสำหรับลูกค้านิติบุคคล รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นและรถยนต์ให้เช่าพร้มอคนขับภายใต้แบรนด์ asap (เอแช็ป) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้ คาดว่าจะเติบโตโดดเด่น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีปัจจัยบวกสนับสนุนจากเทศบาลวันหยุดยาว ทำให้นักท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อความต้องการใช้รถยนต์ให้เช่าระยะสั้นของ asap ตามหัวเมืองใหญ่ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวได้รับความนิยม เช่นเดียวกับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนและนักท่องเที่ยวจากฝั่งยุโรปและอเมริกาเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศในลักษณะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวด้วยตัวเองสูงขึ้น นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจองรถยนต์ให้เช่าเพื่อรองรับประมาณ 600-700 คัน นายทรงวิทย์กล่าวว่า จากภาพรวมดังกล่าว ส่วผลให้อัตราจำนวนวันใช้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นในช่วงครึ่งปีแรกปีนี้เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 50% หลังจากเห็นสัญญาณการเติบโตช่วงไตรมาสแรกมีอัตราการใช้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้นเพิ่มสูงชัดดเจน จึงช่วยสนับสนุนภาพรวมการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวเติบโตได้ตามแผน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 26 เมษายน 2562
แม้ว่าเมื่อเร็วๆนี้ จะมีรายงานว่ายอดขายรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งคันในนอร์เวย์จะแซงหน้ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ก็ตาม แต่ถ้าพิจารณาจากสภาพความเป็นจริง ประเทศที่น่าจะเป็นอนาคตของยานยนต์ไฟฟ้ามากที่สุดน่าจะเป็นประเทศจีน ในฐานะที่จีนเป็นประเทศที่มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลกจากประมาณ 500,000 คันเป็น 1.2 ล้านคัน ส่วนปี 2561 ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกอยู่ที่ 2.1 ล้านคัน ครอบคลุมรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ และรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ถึง 64% ไม่ใช่เรื่องหน้าแปลกใจที่มีข้อมูลลักษณะนี้ เพราะรัฐบาลจีนทุ่มเทให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากเล็งเห็นแล้วว่านี่คืออนาคต นอกจากนั้นจีนยังลดภาษีให้รถยนต์ประเภทนี้ด้วย ไม่นับการอัดฉีดเงินให้กับบริษัทที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมทั้งเร่งสร้างและกระจายโครงสร้างพื้นฐานอย่างจุดชาร์จไฟฟ้าให้มีจำนวนมากที่สุด จีนทุ่มเทและผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง แม้กระทั่งบริษัทที่มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างสหรัฐยังเป็นรอง แม้สหรัฐจะติดกลุ่มประเทศที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสัดส่วนที่สูงเช่นกันก็ตาม
ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 25 เมษายน 2562
ประเทศญี่ปุ่นต้องการให้รถยนต์ไฟฟ้าลด Carbon footprint
ประเทศญี่ปุ่นตั้งเป้าหมายที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านการใช้มาตรฐานอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยรายแบรนด์ ซึ่งมีการตั้งเป้าที่จะลดอัตราการสิ้นเหลือน้ำมันเชื้อเพลิงร้อยละ 30 ในปีค.ศ. 2030 โดยเริ่มต้นในปีค.ศ. 2020 ที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 20 กิโลเมตรต่อลิตร นอกจากนั้นรถยนต์ไฟฟ้าที่ในขณะปัจจุบันถูกมองว่าเป็นรถยนต์ที่ไม่มีการปล่อยมลพิษ (Zero Emission) ขณะใช้งาน แต่มีการปล่อยมลพิษ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นจะนำปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แปลงค่ามาเป็นอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเทียบเท่าเพื่อนำมาใช้กับมาตรการนี้ด้วย โดยจะประกาศใช้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ที่จะถึงนี้
ที่มา: Nikkei Asian Review ประจำวันที่ 24 เมษายน 2562 review will be conducted to evaluate whether the new standards are appropriate.