สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก

ภายในปีค.ศ. 2030 จีนตั้งเป้ายุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไว้ว่า จะพัฒนาอุตสาหกรรมของตัวเองให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นประเทศผู้นำนวัตกรรมโลก นั่นหมายถึงการมุ่งเน้นผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง ขยับสถานะตัวเองจากประเทศผู้ตาม ไปสู่การเป็นประเทศผู้นำด้านนวัตกรรม และเพิ่มสัดส่วนงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) จาก 2.5% ของจีดีพีในปี 2020 เป็น 2.8% ในปี 2030 และหนึ่งในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลจีนมุ่งมั่นส่งเสริมให้แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ในระดับโลกก็คือ "อุตสาหกรรมยานยนต์" ที่นับตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปีที่ผ่านมา (2017) ได้มีการขยับขยายนำเงินออกไปลงทุนในต่างแดนเป็นมูลค่ารวมกว่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1.08 ล้านล้านบาทแล้ว
ที่มา : หนังสือพิม ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 5  มีนาคม 2561
 

 

Hong Kong wants to make buying  electric vehicles cheaper, unveiling a tax benefit that’s set to boost demand for Teslas and other green vehicles from carmakers such as BMW. EV buyers who trade in an eligible gas guzzler will get a waiver of as much as HK$250,000 ($32,000) on the first registration tax, the government said Wednesday when delivering its annual budget. An existing waiver of up to HK$97,500 for new EV purchases will also remain in place. Hong Kong is trying to curb traffic congestion while taking into account rising demand for greener cars, saying in a statement that it “hopes to encourage car owners to go for electric vehicles.”

แหล่งที่มา : www.autonews.comวันที่ 2 มีนาคม 2561

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2561 มีแนวโน้มที่ค่อนข้างสดใส เมื่อมองดูปัจจัยทั้งภายในและภายนอก จากทิศทางดังกล่าวทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมออกมาประเมินว่ายอดผลิตรถยนต์ในปี 2561 จะไปถึงฝันที่ 2 ล้านคัน (หลังจากปีก่อนหน้านั้นพลาดเป้า) ขณะที่ยอดผลิตรถจักรยานยนต์จะมีทั้งสิ้น 2,120,000 คัน เพิ่มขึ้น 3.15%    "ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 16.2 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยคือเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัว, ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น,นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าในไทยมากขึ้น, ค่ายรถเปิดตัวรถรุ่นใหม่ทั้งเก๋งทั้งปิกอัพ รวมไปถึงการถือครองรถคันแรกครบ 5 ปีที่จะส่งผลให้มีการเปลี่ยนรถใหม่ นอกจากนั้นแล้วการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของภาครัฐ ก็มีผลทำให้มีเม็ดเงินในการจับจ่ายใช้สอย" นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าว

ที่มา: หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ  วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561