อีก 2 ปีข้างหน้าหรือปี 2564 รถยนต์ทุกรุ่นจาก 12 ค่ายรถที่ผลิตขายในประเทศ จะต้องปรับระบบเครื่องยนต์เพื่อรองรับน้ำมันมาตรฐานที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบมาตรการแก้ไขวิกฤตมลพิษทางอากาศที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ที่เกินค่ามาตรฐานในปี 2562 แต่ทว่าการพัฒนาไปสู่ระบบดังกล่าวยังต้องอาศัยระยะเวลาปรับตัว 12 ค่ายรถพร้อมปี 64 การลดฝุ่นละอองได้กลายเป็นวาระแห่งชาติในทันที ไม่เพียงการควบคุมปริมาณการเผาป่าการปล่อยควันจากยานพาหนะให้เป็นจำเลยที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด “นายสมชาย หาญหิรัญ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) จัดทำมาตรฐานการระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์เทียบเท่า EURO 5 (มอก. EURO 5 ) ให้มีผลบังคับใช้ในปี 2564 ที่จะกำหนดค่ากำมะถันไม่เกิน 10 ppm รวมถึงกำหนดค่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์และไนโตรเจนออกไซต์ เป็นต้น โดยล่าสุดมีค่ายรถยนต์ 12 แบรนด์ ประกอบด้วย Audi, BMW, Isuzu, Mazda, Mercedes-Benz, Mitsubishi, Mini, MG, Nissan, Suzuki, Toyota และ Volvo พร้อมที่จะปรับมาตรฐานเครื่องยนต์และผลิตภัณฑ์รถยนต์ทุกรุ่นเพื่อขายในประเทศให้เป็นไปตาม มอก. EURO 5 ในปี 2564 จากนั้นมาตรฐาน EURO 6 จะออกมาบังคับในปี 2565 ต่อไป สอดคล้องกับกระทรวงพลังงานที่มีเป้าหมายว่า ในอีก 2 ปี หรือปี 2564 กำลังการผลิตน้ำมันดีเซลมาตรฐาน EURO 5 ของโรงกลั่นทั้งหมด 6 แห่งทั้งโรงกลั่นไทยออยส์ IRPC เอสโซ่บางจาก SPRC และเซลล์ จะต้องผลิตน้ำมันและขายน้ำมันยูโร 5 ในสถานีจ่ายน้ำมันได้ครบทั้งหมด 100% ซึ่งล่าสุดทางคณะกรรมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้พิจารณาออกมาตรการเร่งรัดการลงทุนเพื่อให้โรงกลั่นน้ำมันจะได้รับสิทธิประโยชน์ ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรในการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน ทั้งนี้ จะต้องยื่นขอรับสิทธิและประโยชน์ตามาตรการนี้ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2562
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 18 มีนาคม 2562
นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เร่งดำเนินการปรับมาตรฐานการระบายสารมลพิษจากเครื่องยนต์จากปัจจุบันที่ใช้มาตรฐานยูโร 4 ให้เทียบเท่ายูโร 5 ในปี 2564 และยูโร 6 ในปี 2565 เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวว่า สมอ. อยู่ระหว่างจัดทำมาตรฐานยูโร 5 โดยกำหนดรายละเอียดการระบายสารมลพิษและฝุ่นละอองที่เข้มกว่ายูโร 4 คาดว่าจะสามารถลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ภายในปีนี้ และบังคับใช้ในปี 2563 แต่ละบังคับใช้จริงปี 2564 เพื่อให้เวลาปรับตัว 1 ปี คาดว่าต้นทุนการผลิตจะเพิ่มขึ้นราว 3-4 % จะส่งผลกระทบกับรถยนต์อีโคคาร์และรถยนต์หรูต่างกันตามต้นทุน นายครรชิต ไชยสุโพธิ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นเพราะต้องมีการปรับเปลี่ยนเครื่อยนต์โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซลที่อาจจะต้องชดเชยเพราะหากต้นทุนเพิ่มขึ้น ผู้ผลิตก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะขายในราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิม
ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 15 มีนาคม 2562
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีนเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2561 ประมาณ 1.48 ล้านคัน หรือลดลง 13.8% โดยลดลงเป็นเดอยที่ 8 ติดต่อกัน ดีมานด์รถยนต์ในประเทศจีนเพิ่มขึ้นในรอบหลายปีเนื่องจากจีนได้พัฒนาเศรษฐกิจจนทำให้มีชนชั้นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น แตยอดขายรายปีลดลงเป็นครั้งแรกประมาณ 2 ทศวรรษในปีที่ผ่านมาเนื่องจากเศรษฐกิจโตลดลงและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ดอยช์แบงก์คาดการณ์ว่าทางการจีนจะมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มการใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์หากไม่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาสงครามการค้า ในขณะที่ชิตี้แบงก์ กล่าวว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการลดภาษีเพื่อเพิ่มการใช้จ่ายหรือไม่ ดังนั้นน่าจะทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อรถยนต์จนกว่าจะมีมาตรการทางภาษี ยอดขายรถยนต์เป็นตัววัดการใช้จ่ายของผู้บริโภคจีนและเศรษฐกิจจีนโดยรวมและยังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับบริษัทรถยนต์ต่างชาติที่หวังว่าดีมานด์ของจีนจะสามารถช่วยหนุนภาครถยนต์ทั่วโลกได้ ทางด้านบริษัทโฟร์กสวาเกนเปิดเผยเมื่อเช้าวันพุธว่าจะลดกำลังแรงงานถึง 7,000 คนเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและจะประหยัดเงินในส่วนของแบรนด์โฟร์กสวาเกนหลักๆ ให้ได้ปีละ 5,900 ล้านยูโรภายในปี 2566 เพื่อเพิ่มกำไรในการดำเนินงานเป็น 6% นอกจากนี้ บริษัทยังไม่ปฎิเสธที่จะลดพนังงานไปจนกว่าจะถึงปี 2568 แต่การเกษียณอายุก่อนกำหนดจจะช่วยให้บริษัทลดกำลังแรงงานได้ระหว่าง 5,000 – 7,000 คน มาตรการเพิ่มกำไรจะสามารถช่วยให้แบรนด์ของบริษัทมีระดับผลตอบแทนที่สามารถแข่งขันได้ 6% ในปี 2565
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 14 มีนาคม 2562