รายงานข่าวจากเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม ประเทศไทย แจ้งว่า จีเอ็มประกาศแต่งตั้งนายเฮกเตอร์ บีจาเรียล ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผลทันที นายเฮกเตอร์จะประจำอยู่ที่สำนักงานในกรุงเทพฯ ประเทศไทย เพื่อเข้ามาบริหารดูแลตลาดที่มีความสำคัญนี้ หลังจากนายเอียน นิโคลส์ ตัดสินใจเกษียณอายุหลังจากทำงานให้กับจีเอ็มมาเป็นเวลา 27 ปี ก่อนหน้าจะมารับตำแหน่งประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ นายเฮกเดอร์ ดำรงตำแหน่งกรรมการ จีเอ็ม เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ นายเฮกเดอร์ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม รัสเซีย ในบทบาทใหม่ที่เขาจะมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจและความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เซฟโรเลตในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งเน้นกลยุทธ์การทำการตลาดรถกระบะและรถอเนกประสงค์ของเซฟโรเลต อาทิ รถกระบะโคโลราโดและรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์ รวมถึงการเปิดตัวรถอเนกประสงค์ แคปติวา รุ่นใหม่ประเทศไทย “นายเฮกเตอร์จะนำความรู้และความเชี่ยวชาญทางการค้าและการพานิชย์มาบริหาร จีเอ็ม ตะวันออกเฉียงใต้ เขาได้สั่งสมประสบการณ์จากการบริหารธุรกิจ และหน่วยงานต่างๆ ภายในจีเอ็มในหลายตลาด ได้แก่ เม็กซิโก เกาหลี อุซเบกิสถาน และรัสเซีย เขามีความเข้าใจในธุรกิจของเราอย่างถ่องแท้ และประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งกับฝ่ายต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ผู้แทนจำหน่าย และผู้จัดจำหน่ายของเรา แอนดี้ ดันสแตน ประธานกรรมการและกรรมการเชิงกลยุทธ์ พันธมิตรและผู้แทนจำหน่าย กล่าว นายเฮกเตอร์ เริ่มต้นการทำงานกับจีเอ็มในตำแหน่งวิศวกรโครงการฝ่ายผลิตที่ศูนย์การผลิตรามอส อาริสเพในแม็กซิโกและสหรัฐอเมริกา รวมถึงการเป็นผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรมอุตนสาหการและผู้อำนวยการกลุ่มรถยนต์ และยังเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและจัดการโครงสร้างที่จีเอ็ม เม็กซิโก ในปี 2555 นายเฮกเตอร์ร่วมงานกับจีเอ็ม เกาหลี ในตำแหน่งรองประธานกรรมการ ฝ่ายวางแผนและจัดการโครงสร้างก่อนในปี 2558 เข้ารับตำแหน่งประธานกรรมากรและกรรมการผู้จัดการ จีเอ็มโอเปอร์เรชั่น อถซเบกิสถาน ต่อมาในปี 2560 นายเฮกเตอร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม รัสเซีย นายเฮกเตอร์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมเครื่องกลจากสถาบันเทคโนโลยีมอนเทอเรย์ (Instituto Tecnologico yde Estudios Superiores de Monterrey) และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท คณะวิศวกรรมอุตสาหการจากสถาบันเดียวกัน เขาสมรสแล้วและมีบุตรธิดา 3 คน
ทีมา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 24 กรกฎาคม 2562
บลูมเบิร์ก – บริษัท วอลโว่ คาร์ส กำลังเรียกรถยนต์คืนทั่วโลกกว่า 507,000 คัน เนื่องจากท่อเครื่องยนต์พลาสติกอาจละลายและเสียรูปได้ ซึ่งในกรณีรุนแรงที่สุดอาจส่งผลให้เกิดไฟลุกไหม้ได้ โฆษกของบริษัทไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับผลกระทบทางการเงินจากการเรียกรถคืน แต่จะแก้ไขรถยนต์ที่บกพร่องให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับรถยนต์ที่จะเรียกคืนได้แก่รถยนต์ที่ผลิตในระหว่างปี ค.ศ. 2014 – 2019 ที่มีเครื่องยนต์ดีเซล 2000 ซีซี สี่กระบอกสูบ ซึ่งได้แก่รุ่น S60, S80, S90, V40, V60, V70, V90, XC60, และ XC90 ในขณะนี้วอลโว่ยังไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บ แต่ลูกค้าจะได้รับหนังสือให้ไปติดต่อบริษัทวอลโว่ในท้องถิ่น
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 24 กรกฎาคม 2562
Beijing has rolled out the most generous subsidy program among domestic cities to encourage use of full-electric vehicles as taxis. Under the program, China’s capital will offer up to 73,800 yuan ($10,727) per vehicle if a taxi operator buys EVs to replace gasoline vehicles that have been scrapped since 2018 or will be scrapped by 2020, the Beijing city government said on its website. Eligible EVs must have a minimum range of 300 kilometers (186 miles) and their manufacturers must provide a warranty of eight years or mileage of 600,000 km for EV batteries.The subsidy program, which took effect July 16, will remain through 2020.Beijing, with nearly 22 million residents, is China’s second most populous city, after Shanghai. The city has roughly 67,000 taxis, according to the local government
รัฐบาลปักกิ่งเสนอเงินสนับสนุนเพื่อเปลี่ยนรถแท็กซี่ให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า
รัฐบาลปักกิ่งจะเสนอเงินสนับสนุนมูลค่า 73,800 หยวน (ประมาณ 330,000 บาท) สำหรับเจ้าของรถแท็กซี่ที่มีกำหนดต้องเปลี่ยนรถใหม่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 – 2020 โดยมีข้อแม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่จะได้รับการอุดหนุนจะต้องมีระยะทางวิ่งได้ 300 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง และมีการรับประกับแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 600,000 กิโลเมตร โดยการอุดหนุนดังกล่าวได้เริ่มในวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา