มาซูโกะ กล่าวว่า ไทยเป็นตลาด และฐานการผลิตที่สำคัญของมิตซูบิชิ ซึ่งปัจจุบัน 80% ของการผลิต เป็นการส่งออกและบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มความสำคัญมากขึ้นในอนาคต โดยเตรียมลงทุนเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงโรงงานหลังดำเนินงานมา 20 ปี เริ่มจากก้อนแรก 1.2 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 3,600 ล้านบาท) ที่จะลงทุนทันทีหลังจากนี้เพื่อสร้างโรงงานสีใหม่ รองรับการขยายการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต จากนั้นเตรียมงบประมาณอีก 1.3 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 3,900 ล้านบาท) สำหรับปรับปรุงสายการผลิต รวมถึงการเพิ่มการใช้หุ่นยนต์หรือโรบอตเพิ่มมากขึ้น เพื่อทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและช่วยลดต้นทุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกที่เข้มข้นมากขึ้นทุกขณะ ส่วนการที่ปัจจุบันตลาดรถยนต์หลายแห่งทั่วโลก อยู่ในภาวะชะลอตัว จากปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงผลกระทบจากสงครามการค้าทั่วโลก โดยเฉพาะระหว่าง จีน กับสหรัฐ ซึ่งฉุดเศณษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศอย่างชัดเจน แต่มิตซูบิชิมองว่าเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจโลกจะไม่ดีนัก แต่มิตซูบิชิ ก็มีแนวทางที่ชัดเจนโดยเฉพาะบทบาทในตลาดเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังไปได้ดี ตลาดหลายๆแห่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่ว่าจะเป็นไทย อินโนนีเซีย ฟิลิปปินส์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนามที่มีภาวะเศรษฐกิจดีมาก
ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 2 สิงหาคม 2562
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมอุตสาหกรรมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ JAMA ได้ส่งข่าวไปทั่วโลกเพื่อแจ้งถึงความพร้อมในการจัดงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ปี 2019 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในงานแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ว่าจะจัดงานระหว่างวันที่ 24 ต.ค.- 4 พ.ย. นี้ เป็นระยะเวลา 12 วัน ภายใต้ธีม “OPEN FUTURE เปิดประตูสู่อนาคต” เพื่อสื่อถึงขอบข่ายและความเป็นไปได้อันไม่สิ้นสุดซึ่งเทคโนโลยียานยนต์ในอนาคตจะสร้างสรรค์ขึ้นนอกเหนือจากความเพลิดเพลินกัยมหกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์ใหม่ล่าสุดที่มาอวดโฉมในงานสะท้อนให้เห็นว่าศักยภาพแห่งอนาคตยังคงขยายตัวอย่างไม่หยุดยั้งเสมอในโตเกียวมอเตอร์โชว์ โดยมีบริษัทและองค์กรต่างๆ 186 แห่ง จากหลากหลายประเทศทั่วโลกเข้าร่วมในงานจัดแสดงยานยนต์และอีเวนต์เอนเตอร์เทนเมนต์สุดตื่นเต้นเร้าใจครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ผู้ชมงานได้สัมผัสกับโฉมหน้าใหม่ของนวัตกรรมยานยนต์ซึ่งจะสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับประสบการณ์การใช้ชีวิตของผู้คนในอนาคตอันใกล้ โดยผู้ชมงานจะได้พบกับผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดและโลกแห่งอนาคตจากการสร้างสรรค์ของบริษัทและองค์กร 186 แห่ง ที่เข้าร่วมงาน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 1 สิงหาคม 2562
ฤดูฝนของประเทศไทยได้เริ่มเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม และจะถึงช่วงที่มีปริมาณฝนตกสูงสุดในเดือนกันยายน มีปริมาณน้ำฝนสูงสุดประมาณ 350 มม. ฝนที่ตกหนัก และจำนวนของตึกระฟ้าที่เพิ่มขึ้นมีโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมในเขตเมือง และทำให้มีการทรุดตัวของพื้นดินประมาณ 1-2 ซม. เป็นประจำทุกปี สิ่งเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัยในเมือง โดยในปี 2560 เหตุการณ์น้ำท่วมในเขตเมืองส่งผลกระทบต่อรถยนต์กว่า 3,000 คัน โดยมีการเคลมประกันเป็นจำนวนเงินมากกว่า 45.8 ล้านบาท เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่ และรถยนต์จะไม่เป็นอุปสรรคเมื่อเกิดเหตุอุทกภัย นิสสันเผย 5 เคล็ดลับ สำหรับการขับขี่ในสภาวะน้ำท่วม
1. ทราบถึงระดับสูงสุดในการลุยน้ำของรถยนต์
2. ใช้ความเร็วไม่เกิน 3 กม./ชม. ในการลุยน้ำ เพื่อลดโอกาสที่น้ำจะเข้าสู่เครื่องยนต์ผ่านทางไส้กรองอากาศและสร้างความเสียหายให้กับชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
3. รักษาความเร็วให้คงที่และไม่ปล่อยคันเร่ง
4. เดินรถที่ละคันผ่านพื้นที่น้ำท่วม เพื่อที่จะไม่ถูกบังคับให้หยุดอยู่กลางถนนที่ถูกน้ำท่วมขัง
5. ตรวจสอบความผิดปกติของรถ หรือเศษดินโคลนที่อาจติดมากับรถหลังจากข้ามพื้นที่น้ำท่วมได้อย่างปลอดภัย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ สยามรัฐ ฉบับวันที่ 31 กรกฎาคม 2562