"บลูมเบิร์ก" ประเมิน 20 ปี ตลาดโลก "อีวี" แซงเครื่องยนต์สันดาปภายใน ชี้รถบัสโตเร็วสุด รถบรรทุกยังมีข้อจำกัด ด้าน "จามา" ชี้สัดส่วนอีวียังต่ำ ระบุปี 61 ตลาดใหญ่สุด "จีน" ครองตลาดแค่ 5% เผยไทยผลักดันจริงจังส่งผลเอกชนลงทุน- เปิดตัวรถใหม่ "เอ็มจี" เผยยอดจองพุ่ง ด้าน "เบนซ์" จับมือ "สวทช." ศึกษาแบตเตอรี "วอลโว่" เตรียมเปิดตัว ปี 68 เหตุผลที่อีก 20 ปี ข้างหน้าตลาดจะขยายตัวอย่างชัดเจนเป็นเพราะราคาแบตเตอรีที่ต่ำลงมาก ซึ่งส่งผลให้นับตั้งแต่ช่วงกลางหรือปลายปี 2563 เป็นต้นไป รถยนต์ไฟฟ้า จะมีราคาถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ไอซีอี) ในแทบทุกตลาด
สำหรับอีวีในไทย อยู่ในช่วง เริ่มต้น โดยภาครัฐมีนโยบายส่งเสริม การผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีทั้งไฮบริด ปลั๊กอิน ไฮบริด และอีวี โดยบีโอไอระบุว่ามี ผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมทั้งรายเล็กรายใหญ่รวม 21 ราย โดยส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติ ซึ่งต้องใช้เวลา เนื่องจากเป็นของใหม่ทำให้ต้องพิจารณาอย่างรัดกุม และหากมีข้อสงสัยก็จะต้องเรียกผู้ยื่นเข้ามาชี้แจงเป็นกรณีไป ส่วนค่ายรถที่เปิดตัวแล้วขณะนี้ มีหลายยี่ห้อ เช่น เกีย โซล อีวี, ฮุนได ไอออนิค, ฮุนได โคน่า, จากัวร์ ไอ-ไทป์, อาวดี้ อี-ตรอน, ไมน์ สปา วัน, ฟอมม์ วัน, นิสสัน ลีฟ และ เอ็มจี แซดเอส อีวี
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 12 สิงหาคม 2562
ค่ายรถประเมิน 5 ปัจจัยฉุดตลาดโลก ทั้งเศรษฐกิจจีน-เบรกซิท- สิ่งแวดล้อม "มูดีส์"ลดคาดการณ์เติบโตปีนี้เหลือ 0.5% พร้อมลดแนวโน้มอุตสาหกรรมจากมีเสถียรภาพเป็น"ลบ" ด้านผู้ประกอบการ ไทยรับส่งผลกระทบส่งออก ครึ่งปีติดลบ 0.37% เบนเข็มเน้นตลาดอาเซียน ชี้มีศักยภาพหลายแห่ง "โตโยต้า"หวังฟื้นตลาดตะวันออกกลาง
ค่ายรถยนต์ทั่วโลกดิ้นรนรับความท้าทายรอบด้าน ขณะที่ผู้บริโภคเริ่มซื้อรถน้อยลง ทำให้ปีนี้เป็นช่วงขาลงของอุตสาหกรรม รถยนต์โลก โดยประเมินกันว่ามาจาก 5 เหตุผลหลักคือ1.ความต้องการรถยนต์ ที่ถดถอย 2.ปมโกงค่ามลพิษ 3.ความท้าทายของรถไฟฟ้า 4.การมาของรถยนต์อัตโนมัติ โดยนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ให้ความเห็นว่า หากรถขับเคลื่อนอัตโนมัติกลายเป็นรถกระแสหลักใน 15 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคจำนวนมากอาจเลือกใช้บริการแชร์รถหรือ เช่ารถมากกว่าจะซื้อรถเป็นของตัวเอง และ 5.ประเด็นเบร็กซิท ซึ่งบรรดาค่ายรถชั้นนำ ของโลก ออกมาเตือนหลายครั้งว่าจะเกิด ความเสียหายขั้นรุนแรงหากสหราชอาณาจักรออกจากอียูโดยไม่มีข้อตกลง นับตั้งแต่ ลงประชามติออกจากอียูตั้งแต่ปี 2559
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 12 สิงหาคม 2562
อินโดนีเซียเตรียมออกมาตรการกระตุ้น ชุดใหญ่เพื่อส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้า รวมทั้งการสร้างฐานผลิตและส่งออกอีวีแข่งกับสิงคโปร์และไทย สู่เป้าหมายผู้นำอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดีเดย์เริ่มการผลิตใน ปี 2022 ขณะที่มาตรการจูงใจที่เตรียมไว้มีทั้ง ลดภาษีสำหรับผู้ซื้อและผู้ผลิต ที่จอดรถพิเศษและอีกมากมาย
สำหรับอินโดนีเซียนั้น นอกจากการแย่งชิง ความเป็นหนึ่งในตลาดอีวีอาเซียนแล้ว แผนการ ส่งเสริมรถไฟฟ้ายังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายาม ในการเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่ไปกับการลดการพึ่งพิงน้ำมันนำเข้าและการปล่อย ไอเสียจากเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยนอกจากการ ส่งเสริมอีวีแล้ว รัฐบาลอินโดนีเซียยังเล็งยกเลิก การขายรถใช้น้ำมันภายในปี 2040
กฎใหม่ของอินโดนีเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงระบบภาษียานยนต์โดยอิงกับปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้และการปล่อยก๊าซคาร์บอนแทนประเภทตัวถังและขนาดเครื่องยนต์ เท่ากับว่า รถไฟฟ้าจะเสียภาษีน้อยกว่ารถใช้น้ำมันนอกจากนั้นผู้ผลิตอีวียังต้องเพิ่มจำนวน ชิ้นส่วนที่ผลิตในท้องถิ่นจนถึง 80% ภายในปี 2030 และปี 2026 สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 12 สิงหาคม 2562