นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกของไทยปีนี้น่าจะเติบโตได้ 9-10% แต่สิ่งที่ ส.อ.ท.กังวลและต้องติดตามใกล้ชิดคือ มาตรการตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐระลอก 2 ที่มีมูลค่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกชนิดที่จีนส่งไปขายสหรัฐ หากยืดเยื้อและไม่สามารถเจรจาได้ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตการ ส่งออกของไทยในปี 2562 อย่างชัดเจน และ ส่งออกอาจขยายตัวได้เพียง 4-5% โดยส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 70% ของจีดีพี น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ผลกระทบสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐต่อการค้าโลก ในแง่ผลกระทบโดยรวม ยังคงกระทบต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจการค้าโลกในวงกว้าง เกิดการระมัดระวังเพิ่มผลผลิตและการลงทุน ทำให้กดดันบรรยากาศการค้าและการลงทุน รูปแบบและโครงสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศเปลี่ยนแปลงไป เกิดการเคลื่อนย้ายการลงทุน มีผลต่อพันธมิตรและการลงทุนใหม่ๆ ส่วนผลกระทบทางตรงที่ไทย ส่งออกไปยังสหรัฐ คือ เครื่องซักผ้า โซลาร์เซลล์ เหล็ก อะลูมิเนียม ซึ่งโดนมาตรการทางการค้า ส่วนยานยนต์และชิ้นส่วนอยู่ระหว่างการไต่สวน
อธิบดีกรมสรรพสามิตสั่งตั้งทีมศึกษาภาษีรถเอวีใหม่ ดึงผู้ประกอบการเอวี-อีโคคาร์ บีโอไอ กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมด้วย เผยไม่ได้ต้องการแค่รถยนต์ แต่ต้องลงทุนแล้วถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังอุตสาหกรรมอื่น เช่น รถไฟฟ้า โดรน นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วมประชุมการปฏิรูปโครงสร้างภาษีรถยนต์เพื่อรองรับยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในอนาคต โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตและผู้ประกอบการเกี่ยวข้องกับรถอีวีเข้าร่วมประชุม ซึ่งขอให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อศึกษาถึงแนวทางการส่งเรื่องรถอีวี มีตัวแทนจากผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องทั้งรถอีวี และอีโคคาร์เข้าร่วม เนื่องจากนโยบายอีโคคาร์จะหมดอายุในปี 2570 นี้ รวมถึงมีตัวแทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เข้าร่วมด้วย เพื่อนำแผนการส่งเสริมที่กระทรวงอุตสาหกรรมและบีโอไอดำเนินการอยู่มาพิจารณาประกอบไปด้วย