BMW's X6 is getting redesigned for 2020 with beefier engines and, for the first time, an optional illuminated kidney grille.The 2020 X6 will start at $65,295, including shipping, and arrive at U.S. dealerships in November.The X6 was an early coupelike crossover and remains one of the most visible. It also underscores the continuing fragmentation of the crossover market.BMW foresaw the "growth-inspired fragmentation" of the crossover market when it introduced the X6 in 2008, AutoPacific analyst Ed Kim said."It seemed a very puzzling move during a time when the formula for a successful SUV was pretty clear: an upright two-box profile and an outdoorsy personality," Kim said.The X6 is a niche midsize crossover that competes in the same segment as the Lexus RX, Audi Q5 and Cadillac XT5."It is simply an X5 with a different top hat," Kim said. "There are enough customers to justify the modest investment, especially as SUV market share continues to grow with increasing room for a body style variety."X6 sales in the U.S. fell 67 percent from a year earlier to 170 vehicles in June and dropped 18 percent to 3,045 vehicles through June, BMW said in a statement on Tuesday. Bigger and beefierThe third-generation X6 is longer and wider than its predecessor, but with a lower height for better aerodynamics.The illuminated kidney grille, which debuts on the redesigned X6, is part of the daytime running light feature and can remain on while the vehicle is in motion. The feature can be activated by unlocking and locking the vehicle or turning it on and off manually.The crossover is available with two engines.The X6 sDrive40i and xDrive40i are powered by the latest versions of BMW's TwinPower 3.0-liter turbo inline six-cylinder engine. The engine produces 335 hp, an increase of 33 hp over the previous model. The rear-wheel-drive X6 sDrive40i accelerates from 0 to 60 mph in 5.2 seconds,while the all-wheel-drive X6 xDrive40i does the sprint in 5.3 seconds.The sportier X6 M50i is powered by a new 4.4-liter TwinPower turbocharged V-8 that delivers 523 hp, an increase of 78 hp from the prior model. The M50i accelerates from a standstill to 60 mph in 4.1 sec
เรื่อง : ในปีพ.ศ.2563 บริษัท BMW จะสร้างเครื่องยนต์ที่ทรงพลังมากขึ้นบน BMW X6
BMW X6 ได้รับการออกแบบใหม่ในปีพ. ศ. 2563ด้วยเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเป็นครั้งแรกที่กระจังหน้าที่ส่องสว่างเป็นตัวเลือก2020 X6 จะเริ่มต้นที่ $ 65,295 รวมถึงการจัดส่งและมาถึงตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายน X6 เป็นรถครอสโอเวอร์แบบโคเดอเรลลิคยุคต้นและยังคงเป็นหนึ่งในรถที่มองเห็นได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังตอกย้ำถึงการกระจายตัวของตลาดครอสโอเวอร์อย่างต่อเนื่อง BMW เล็งเห็นถึง "การกระจายตัวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเติบโต" ของตลาดครอสโอเวอร์เมื่อเปิดตัว X6 ในปี 2551 นักวิเคราะห์ของ AutoPacific กล่าวว่า“ ดูเหมือนว่ามันจะทำให้สับสนมากในช่วงเวลาที่เปิดตัวสำหรับ SUV ที่ประสบความสำเร็จนั้นค่อนข้างชัดเจน:” Kim กล่าว X6 เป็นครอสโอเวอร์ขนาดกลางแบบเฉพาะที่แข่งขันในส่วนเดียวกันกับ Lexus RX, Audi Q5 และ Cadillac XT5“ มันเป็นเพียง X5 ที่มีหมวกทรงสูงแตกต่างกัน” คิมกล่าว "มีลูกค้ามากพอที่จะแสดงให้เห็นถึงการลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อส่วนแบ่งตลาดเอสยูวียังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มพื้นที่สำหรับความหลากหลายของสไตล์รูปทรง" จำหน่าย X6 ในสหรัฐลดลงร้อยละ 67 จากปีก่อนหน้าถึง 170 คันในเดือนมิถุนายนและลดลงร้อยละ 18 บริษัท BMW กล่าวในการแถลงข่าวในวันอังคาร โดย X6 รุ่นที่สามนั้นยาวกว่าและกว้างกว่ารุ่นก่อน แต่มีความสูงต่ำกว่าสำหรับอากาศพลศาสตร์ที่ดีกว่า ไฟกระจังหน้าที่ส่องสว่างซึ่งเปิดตัวใน X6 ที่ออกแบบใหม่เป็นส่วนหนึ่งของคุณสมบัติแสงกลางวันที่ใช้งานได้และยังคงสามารถทำงานได้ในขณะที่ยานพาหนะกำลังเคลื่อนที่ คุณสมบัตินี้สามารถเปิดใช้งานได้โดยปลดล็อคและล็อคยานพาหนะหรือเปิดและปิดด้วยตนเองครอสโอเวอร์สามารถใช้ได้กับสองเครื่องยนต์X6 sDrive40i และ xDrive40i ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ TwinPower เทอร์โบ 3.0 ลิตรแบบอินไลน์หกสูบรุ่นล่าสุดของ BMW เครื่องยนต์ผลิต 335 แรงม้าเพิ่มขึ้น 33 แรงม้าจากรุ่นก่อนหน้า X6 sDrive40i ขับเคลื่อนล้อหลังเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 5.2 วินาทีในขณะที่ X6 -Drive40i ขับเคลื่อนล้อทุกล้อวิ่งได้ในเวลา 5.3 วินาทีSportier X6 M50i ขับเคลื่อนโดย TwinPower เทอร์โบชาร์จ V-8 ขนาด 4.4 ลิตรใหม่ที่ให้ 523 แรงม้าเพิ่มขึ้น 78 แรงม้าจากรุ่นก่อนหน้า M50i เร่งความเร็วจากหยุดนิ่งเป็น 60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 4.1 วินาที
ที่มา : Automotive News ฉบับวันที่ 9 กรกฎาคม 2562
มีคนบางกลุ่มต้องการจะรักษาโลกไว้ แม่ตัวเองจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว ในเมืองออสโล (Oslo) บริษัทบริการจัดงานศพได้นำเสนอทริปเที่ยวเดียวสู่โลกหลังความตายในรถยนต์ไฟฟ้าขนส่งศพ โดยรถยนต์ไฟฟ้าคันดังกล่าวจะขับไปตามท้งถนนในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย “ในนอร์เวย์มีผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก และยังมีบางกลุ่มที่มีความหวังว่าจะได้เห็นโลกกลับมาเป็นสีเขียวอีกครั้ง” อ๊อด บอร์การ์ โจลสตัด (Odd Borgar Jolstad) กล่าวพร้อมสาธิตรถยนต์เทสลาที่ผ่านการดัดแปลงให้เป็นรถยนต์สำหรับขนส่ง ในอนุสรณ์สถาน เกรฟเซ่น (Grefsen) อันเงียบสงบที่สามารถมองเห็นเมืองหลวงได้ “นี่คือความร่วมมือเพียงเล็กน้อยของเรา ที่มีต่อสิ่งแวดล้อม” ในนอร์เวย์ ไม่ว่าจะรวยหรือจน หนุ่มหรือแก่ อาศัยในเมืองหรือชนบท รวมทั้งมงกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องย้ายมาอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าคันดังกล่าว ตัวเลือกหนึ่งที่จะทำให้เมืองกลายเป็นสีเขียวคือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือขับเคลื่อนด้วยพลังงานน้ำ จากราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้อย่างนิสสัน ลีฟ (Nissan LEAF) หรือแบรนด์หรูอย่างเทสลา (Tesla) กว่าครึ่งของรถยนต์ใหม่ที่ขายในประเทศเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาล้วนแต่เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าซึ่งมียอดจำหน่ายมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน โดยนอร์เวย์มีแผนที่จะลดมลภาวะให้เหลือศูนย์ภายในปี 2025 เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย นอร์เวย์จะต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มจุดชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ทั้งระหว่างทางด่วน ในพื้นที่ชนบท รวมถึงที่จอดรถส่วนบุคคล
ที่มา : หนังสือพิมพ์ Bangkok Post ฉบับวันที่ 11 กรกฎาคม 2562
จากรายงานผลการวิจัยของ BloombergNEF (BNEF) คาดการณ์ว่ารถยนต์ไฟฟ้า หรือ EVs (Electric Vehicles) กำลังเดินหน้าสู่การเป็นเจ้าตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถบัสภายในปี 2583 และจะคืบคลานเข้ามามีบทบาทอย่างมากในตลาดรถตู้และรถบรรทุกสำหรับการใช้งานในระยะทางใกล้โดยจากการวิเคราะห์บนสถานการณ์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ประเภทต่างๆ รวมถึงปัจจัยของแต่ละตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลง ชี้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะครองตลาดถึง 57% ของยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลภายในปีพ.ศ.2583 และคาดว่ารถบัสไฟฟ้าจะได้ส่วนแบ่งตลาดถึง 81% ของรถบัสที่ใช้ในเมืองในระยะเวลาเดียวกัน ชี้ให้เห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆจะครองตลาด 56% ของยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดเล็กในยุโรป อเมริกาและจีนภายใน2ทศวรรษข้างหน้า แต่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ยากที่สุดคือรถบรรทุก โดยมีการคาดการณ์ว่าจะครองตลาดได้เพียง 19% ภายในปีพ.ศ.2583 ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ขับขี่ในระยะทางสั้น และรถกระบะขนาดใหญ่รุ่นทั่วไปที่ใช้กับงานระยะทางไกลจะเผชิญกับการแข่งขันในรูปแบบอื่นจากการใช้พลังงานทางเลือก เช่น แก๊สธรรมชาติและเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน นายโคลิน แม็คเคอราเซอร์ หัวหน้าแผนกยานยนต์ล้ำหน้าของ BNEF กล่าวว่า เราพบว่ายานยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยพลังงานฟอสซิลเกือบทั้งหมดจะหมดไปบนท้องถนน แม้การเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าในรถยนต์ยังคงต้องใช้เวลาเพราะการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์ในโลกยังเป็นไปอย่างช้าๆ แต่ถ้าหากดำเนินมาถึงช่วงปีพ.ศ.2563-2572แล้ว ความนิยมก็จะเริ่มขยายเข้าสู่ยานยนต์ในหลายๆหมวด เราคิดว่ามีความเป็นไปได้มากทีเดียวที่ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลรุ่นธรรมดาในตลาดโลกได้เลยจุดสูงสุดมาแล้วนายอาลี อิชาตี้ขนาจาฟายาดี้ หัวหน้าหลักในการวิเคราะห์การแบ่งปันยานพาหนะร่วมกัน (Shared mobility) กล่าวว่า ผู้ให้บริการแบ่งปันยานพาหนะร่วมกันจะเลือกเปลี่ยนมาให้บริการด้วยรถยนต์ไฟฟ้าเร็วกว่าผู้ใช้ทั่วไป ในปัจจุบันมีผู้ใช้บริการแบ่งปันยานพาหนะร่วมกันเช่นรถยนต์โดยสารถึง 1พันล้านคนทั่วโลก บริการนี้นับวันจะเติบโตขึ้นและจะค่อยๆลดความต้องการในการเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแต่อย่างไรก็ตาม ตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในช่วง 20ปีข้างหน้าคือราคาที่ลดลงอย่างมากของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นผลให้นับจากช่วงกลางหรือปลายปี 2563 เป็นต้นไปนั้น รถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาถูกกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ในแทบทุกตลาด ทั้งด้านค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานและค่าใช้จ่ายเฉพาะหน้า นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2554 เป็นต้นมา ต้นทุนเฉลี่ยของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงลดลงถึง 85% เนื่องจากการประหยัดต้นทุนการผลิตจากขนาด (Economy of scale) ผสมกับการพัฒนาเทคโนโลยีรายงานของ BNEF ยังคาดการณ์ด้วยว่าประเทศจีนยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะครองส่วนแบ่งตลาด 48% และ 26% ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดที่จำหน่ายในปีพ.ศ.2568 และ พ.ศ.2583 ตามลำดับ และครองอันดับที่สองในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในช่วงปีพ.ศ.2563 ถึง พ.ศ.2572
ที่มา : หนังสือพิมพ์ สยามธุรกิจ ฉบับวันที่ 10 กรกฎาคม 2562