สิ้นสุดลงไปแล้วสำหรับทริปทดสอบความประหยัดน้ำมันของบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ในกิจกรรม “อีซูซุ แมคซ์ แซลเลนจ์ กับ บอย ปกรณ์ เส้นทางจากเซี่ยงไฮ้-ฉางชา สาธารณรัฐประชาชนจีน เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแรกของพระเอกหนุ่มบอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ กับการขับจริงเพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่น “รถอีซูซุใครๆ ขับก็ประหยัด” ในฐานะซูเปอร์พรีเซ็นเตอร์ของอีซูซุ เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2562 โดยเริ่มการเดินทางที่เซียงไฮ้ (Shanghai) – ฉางชา (Changsha) เป็นระยะทาง 495 กม. .ในวันที่ 1 มิถุนายน 2562 จากฉางชา (Changsha) – อี้ซุน (Yichun) ระยะทาง 505 กม. และในวันที่ 2 มิถุนายน 2562 จากอี้ซุน (Yichun) - ฉางชา (Changsha) ระยะทาง 212 กม. รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,212 กม. ในครั้งนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” ได้มีโอกาสได้ไปร่วมเป็นสักขีพยานเปิดประสบการณ์การเดินทางเพื่อพิสูจน์อัตราการประหยัดน้ำมันของรถอีซูซุและได้ร่วมกิจกรรมทายผลระยะทางที่ใช้น้ำมันต่อลิตรร่วมกับประชาชนทั่วไป โดยรถอีซูซุที่บอย-ปกรณ์ขับคือ รถปิกอัพ “อีซูซุ ดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” เกียร์ธรรมดา ซึ่งเป็นมาตรฐานของโรงงาน มีภัทร์ ฉัตรบริรักษ์ น้องชายเป็นเนวิเกเตอร์นำทาง ขับด้วยความเร็วเฉลี่ย 70-90 กม./ชม. เปิดแอร์ตลอดเส้นทางโดยใช้น้ำมันเพียงถังเดียว และมีคณาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ร่วมเดินทางเพื่อเป็นกรรมการสักขีพยานอย่างใกล้ชิดตลอดเส้นทาง โดย บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ เล่าว่ากิจกรรมในครั้งนี้เป็นการขับขี่รถที่ใช้เวลาและมีระยะทางยาวที่สุดตั้งแต่เคยขับมาความยากอย่างแรกคือ รถที่ใช้ขับในประเทศจีนขับฝั่งซ้ายแตกต่างจากรถในประเทศไทยที่ขับฝั่งขวา ต้องใช้สติและศึกษาเรียนรู้พฤติกรรมการขับของผู้คนในประเทศจีนด้วย และรถที่ใช้ขับค่อนข้างดึงดูดสายตาผู้คนเพราะมีความโดดเด่นแปลกตาต้องคอยระวังรถคันอื่นด้วย เพราะบางครั้งมีรถเบียดเข้ามาใกล้มาก ด้านโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ อีซูซุ ได้เชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมทายผลอัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยที่บอย-ปกรณ์ สามารถทำได้ เพื่อชิงทองคำมูลค่า 1 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมทายผลเข้ามาเป็นจำนวนมากผ่านเว็บไซต์ และตัวเลขก็ออกมาอยู่ที่ 24.99 กม./ลิตร
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 13 มิถุนายน 2562
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดหรืออีคิว เพาเวอร์ (EQ Power) เจเนอเรชั่นที่ 3 ภายใต้แบรนด์ EQ อย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี 300 อี (Mercedes-Benz C 300 e) ยนตกรรมชาลูนสุดหรูอัจฉริยะรุ่นประกอบในประเทศสร้างมาตรฐานครั้งใหม่ให้กับรถยนต์ในเซ็กเมนต์นี้ ผสมผสานขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย โดยนำเสนอในสองรุ่นย่อยได้แก่ The C 300 e เอเอ็มจี ไดนามิก (AMG Dynamic) ราคา 3,215,000 บาท และ The C 300 e อวังการ์ด (Avantgarde) ราคา 2,699,000 บาท มร.โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์นำเสนอเทคโนโลยีภายใต้แบรนด์ EQ ทั้งหมด 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. EQ เทคโนโลยีในรถยนต์ แบตเตอรี่ อิเล็กทริก วิฮิเคิลส์ ( Battery Electronic Vehicles) หรือบีอีวี (BEV) 2. อีคิว เพาเวอร์ (EQ Power) แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มย่อย คือ เทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ (EQ Power) และเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต กลุ่มเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และรถยนต์สมถรรณะสูง (EQ Power+) และ 3. อีคิว บูสท์ (EQ Boost) เทคโนโลยี 48 โวลต์ ช่วยเพิ่มกำลังขับเคลื่อนให้กับรถยนต์ภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานฝ่ายขายและการตลาดบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า C 300 e รุ่นประกอบในประเทศ เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดผสานกับพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ควบคู่กับประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นของแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ชนิดใหม่ สามารถประจุไฟฟ้าได้มากกว่าเดิม ส่งผลให้ระยะทางสูงสุดสำหรับการขับขี่โดยใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวเพิ่มขึ้นเจเนอร์เรชั่นก่อนหน้าถึง 30% และช่วยให้อัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในโหมดไฮบริดเพิ่มขึ้น ดีไซต์หรูหรา ผสานด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเทียบเท่ารถยนต์ตระกูล เอส-คลาส มาพร้อมกับบริการ เมอร์เซเดส มี คอนเนคต์ (Mercedes me connect)
ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 12 มิถุนายน 2562
โตโยต้ารุกตลาดรถตู้ ส่งคอมมิวเตอร์ใหม่ เจาะลูกค้าองค์กร ขนส่งสาธารณะ ผนึกโตโยต้าลีสซิ่ง จัดแคมเปญกระตุ้น ดาวน์ 0% ผ่อนนาน 84 เดือน นายมิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่าโตโยต้าเปิดตัว รถตู้ คอมมิวเตอร์ใหม่ เจาะตลาดรถขนส่งสาธารณะ เน้นจุดขายห้องโดยสารกว้างขวาง และยังปรับช่วงง่าวใหม่ให้นุ่มนวลมากขึ้น ทั้งนี้โตโยต้าเปิดตัว คอมมิวเตอร์หนึ่งในรถตระกูลไฮเอชในตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกปี 2548 ในรูปแบบของรถยนต์นำเข้าสำเร็จรูปหรือซีบียู จากญี่ปุ่น พบว่าได้รับการตอบรับอย่างมากเพื่อนำไปใช้ในกิจการต่างๆ เช่น รถรับส่งพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมรถรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างจังหวัดรถรับ-ส่ง สนามบิน และรถให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังได้รับความสนใจจากลูกค้าทั่วไปที่นำรถไปใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย สำหรับคอมมิวเตอร์ใหม่เป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี ใช้เครื่องยนต์ดีเซล จีดี 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตรที่ 1,600-2,200 รอบ/นาที รองรับน้ำมันบี 20 มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบบซีเควนเซียล ชิฟท์ และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด รองรับผู้โยสารร่วม 15 ที่นั่ง “คอมมิวเตอร์ถือเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งในไทยและในระดับโลก ในอดีตเรามักใช้รถกระบะดัดแปลงเพื่อการโดยสาร แต่ปัจจุบันรถตู้คอมมิวเตอร์นั้นกลายเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางด้วยความสะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสังคมในหลากหลายรูปแบบ เช่น รถขนส่งสาธารณะ รถโรงงเรียน รถพยาบาล และรถเพื่อผู้สูงอายุหรือผู้พิการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 12 มิถุนายน 2562