รอยเตอร์ (Reuters) รายงานเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คาร์ลอส ทาวาเรซ (Carlos Tavares) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัท สเตลแลนทิส (Stellantis) หนึ่งในบริษัทรถยนต์รายใหญ่ของโลก
Mark Stewart COO ของ Stellantis อเมริกาเหนือ ผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้อต่าง ๆ อาทิเช่น Jeep Dodge และ Chrysler ได้แสดงความต้องการขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของบริษัทอีก 2 แห่ง
ศึกรถยนต์ไฟฟ้ายังสู้กันหนักหน่วง ล่าสุด Stellantis ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ที่เกิดจากการร่วมตัวของ Groupe PSA และ FCA Group
ผู้ผลิตรถยนต์ Stellantis เชื่อว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) จะมีการใช้งานจนถึงปี 2050 ทำให้ต้องควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จนกว่าจะมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ
Stellantis บริษัทแม่ของ Fiat Maserati และอื่น ๆ อีกมากมาย ได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิเช่น ABB Electron และ FIAMM Energy
Stellantis ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Citroen Fiat Peugeot และ Chrysler ได้ข้อสรุปว่า ไม่สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (Electric vehicle: EV) ราคาประหยัดได้ในยุโรป และกำลังมองหา
ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส (CNRS) Stellantis และ Saft ได้เปิดเผยถึงแบตเตอรี่ต้นแบบ "ปฏิวัติ" ที่มีการออกแบบใหม่ มีการรวมฟังก์ชันเครื่องชาร์จและอินเวอร์เตอร์ไว้ในแบตเตอรี่
ในงานมหกรรมยานยนต์ คาร์ล สไมลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ อินเดียและเอเชียแปซิฟิกของ Stellantis ระบุว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในตลาดสำคัญ
โดยบริษัท Stellantis ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ค่ายหนึ่งได้มีการวางแผนในการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดใหญ่สำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ร่วมกับบริษัทสัญชาติจีนอย่างบริษัท CATL ในยุโรป โดยในวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา