สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก

       ภาวะการเติบโตชะลอตัวเป็นปีที่ 2 ในตลาดยานยนต์สหรัฐ บีบให้บรรดาผู้ผลิตรถของญี่ปุ่นต้องมองปัจจัยอื่นนอกเหนือจากส่วนลด เพื่อสร้างการเติบโตให้กับส่วนแบ่งตลาด และให้ความสำคัญกับการกระตุ้นความสามารถทำกำไรในตลาดขนาดใหญ่ที่สุดของตน    บรรดาผู้ผลิตรถทั่วโลกกำลังต่อสู้แย่งชิงเพื่อเป็นเจ้าตลาด ขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก ในขณะที่ยอดขายรายปียังคงลดลง ต่อเนื่องจากที่เคยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 17.55 ล้านคันในปี 2559 ผู้ผลิต หลายรายให้ไปพึ่งการลดราคา เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในเซ็กเมนท์ ที่มีการเติบโตอย่างรถเอสยูวีและรถกระบะ พร้อมกับพยายามรักษายอดขายในเซ็กเมนท์รถซีดานที่กำลังดิ้นรนอย่างหนัก ต้นทุนของการลดราคาในสหรัฐทำให้ผลกำไรจากการดำเนินงาน ลดลง สำหรับผู้ผลิตรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ รวมถึง "โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป" และ "มาสด้า คอร์ป" ซึ่งมีแนวโน้มทำกำไรในอเมริกาเหนือลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่ผลกำไรของ "นิสสัน มอเตอร์ โค" ในภูมิภาคนี้ ก็มีแนวโน้ม ลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
ที่มา: หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ  วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561
 

 

               นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ได้ประมาณการการผลิตรถจักรยาน ยนต์ปี 61 อยู่ที่ 2.12 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 3.15% หรือ 64,807 คัน แบ่งเป็นผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศจำนวน 1.75 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 3.74% การผลิตเพื่อการส่งออกจำนวน 370,000 คัน เพิ่มขึ้น 0.45% จากที่ผ่านมาได้ตั้งเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปีนี้ 2 ล้านคัน เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งรัฐเองมีนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 2 ราคาพืชผลเกษตรดีขึ้น จะทำให้รถจักรยานยนต์และรถกระบะขายดี  สำหรับการผลิตรถยนต์เดือน ม.ค. 61 มีทั้งสิ้น 166,196 คัน เพิ่มขึ้น 9.15% ผลิตเพื่อส่งออก 98,152 คัน คิดเป็นสัดส่วน 59.06% ของยอดการผลิตทั้งหมด ขณะที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือน ม.ค.  ผลิตได้ 68,044 คัน คิดเป็นสัดส่วน 40.94% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 23% ส่วนรถจักรยานยนต์ เดือน ม.ค.  61 ผลิตได้ 231,451 คัน เพิ่มขึ้น 4.06% ยอดขายภายในประเทศ 66,513 คัน เพิ่มขึ้น 16.2% ส่งออก 84,003 คัน ลดลง 1.91%
ที่มา: หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์  วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561
 

 

             บริษัทไฟฟ้าสิงคโปร์ทุ่มทุนครึ่งล้านดอลลาร์ตั้งสถานีชาร์จ รถพลังงานไฟฟ้า (อีวี) 50 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปีหน้า   เรด ดอท เพาเวอร์ ผู้ค้าปลีกไฟฟ้าของสิงคโปร์ แถลงว่า เตรียมลงทุน 5 แสนดอลลาร์ เพื่อตั้งสถานีชาร์จรถอีวีอย่างน้อย 50 แห่งภายในสิ้นปี 2562 ด้วยความร่วมมือ กับบริษัทปลั๊กไอที ซึ่งเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชาร์จไฟฟ้าของฟินแลนด์  บริษัทจะตั้งสถานีชาร์จอีวีภายในระยะเวลา 2 เฟส และจะรองรับมาตรฐานการชาร์จที่แตกต่างกันซึ่งใช้โดยรถอีวีจากญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐ  ในเฟสแรก ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน สิ้นปีนี้ เรด ดอท เพาเวอร์จะตั้งสถานีชาร์จ10 แห่งที่มีหัวชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (เอซี) ไทป์ 2 แบบ 22 กิโลวัตต์ที่ใช้สำหรับการชาร์จนานซึ่งเหมาะสมที่สุดสำหรับรถอีวี ไฮบริดแบบปลั๊กอิน    ส่วนในเฟสที่ 2 ซึ่งจะเริ่มดำเนินการ ในปีหน้า บริษัทจะตั้งสถานีชาร์จอีก 40 แห่งที่มีหัวชาร์จหลายมาตรฐานแบบ 24 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถใช้ได้สำหรับทั้งการชาร์จแบบนาน และแบบเร็ว เครือข่ายชาร์จไฟฟ้าดังกล่าวจะทำให้ ผู้ใช้รถอีวีแปลงไฟฟ้าเป็นกริดพลังงาน ซึ่งเป็น แนวคิดที่เรียกกันว่า "ยานพาหนะไฟฟ้าสู่ระบบกริด"
ที่มา : หนังสือพิม กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 21  กุมภาพันธ์ 2561