สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก

          สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อดูจากตัวเลขยอดผลิตยอดส่งออก-ยอดขาย ในภาพรวมมีการเติบโต โดยเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2561 มีรถที่ผลิตทั้งสิ้น 344,433 คัน เพิ่มขึ้น 12.28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในช่วง 2 เดือนพบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 184,284 คัน เพิ่มขึ้น 3.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 และคิดเป็นมูลค่าการส่งออกจะอยู่ที่  94,287.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.03 %   ส่วนยอดขายรถในประเทศ ตั้งแต่เดือนมกราคม- กุมภาพันธ์ 2561 มีจำนวน 142,011 คัน เพิ่มขึ้น 13% ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 300,517คัน เพิ่มขึ้น 0.9%    แม้ในภาพรวมจะดูสดใส แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยมีความกังวลใจ นั่นก็คือ สงครามการค้าระหว่าง จีน-สหรัฐอเมริกา ที่จะกระทบกับภาวะเศรษฐกิจโลก และเป็นห่วงโซ่ทั่วทั้งโลก ที่อาจจะส่งผลดี หรือ ผลเสียให้กับการส่งออกของไทย
ที่มา : หนังสือพิม ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 16  เมษายน 2561

 

            ผู้นำจีน ประกาศกลางเวที ประชุมโป๋อ่าว ให้คำมั่นเปิดเสรีการค้า-การลงทุน ลดภาษีรถยนต์นำเข้าภายในปีนี้ พร้อมปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มขึ้น ขณะกระทรวงพาณิชย์จีน ยื่นดับเบิลยูทีโอ แก้ข้อพิพาทการค้ากับสหรัฐ ประเด็นขึ้นภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม  นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวสุนทรพจน์ ในพิธีเปิดการประชุมโป๋อ่าว ฟอรัม ฟอร์ เอเชีย (บีเอฟเอ) ที่มณฑลไห่หนาน ทางตอนใต้ของจีน
เมื่อวานนี้ (10เม.ย.) ว่าในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์มวลรวม ภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนขยายตัวประมาณ 9.5% ต่อปี ส่วนปริมาณการค้ากับต่างประเทศขยายตัว ต่อปีประมาณ 14.5% ทำให้ชาวจีนเริ่มลืมตาอ้าปากจากเดิมที่มีชีวิตขาดแคลนและยากจน  และปัจจุบันนี้ ชาวจีนได้รับประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์ มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก     ในโอกาสนี้ ประธานาธิบดีสีของจีน ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจีนจะเปิดตลาดให้กว้างขึ้น ด้วยการขับเคลื่อนการเปิดเสรีการลงทุนด้านยานยนต์ เรือและเครื่องบิน ลดกำแพงภาษีสินค้านำเข้าประเภทรถยนต์ภายในปีนี้ และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเพิ่มขึ้น พร้อมย้ำว่า  กระแสโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ เป็นกระแสที่คงทนถาวร ไม่ย้อนกลับ เช่นเดียวกับประตูสู่เศรษฐกิจจีน ที่เมื่อเปิดออกแล้ว จะไม่มีวันปิด มีแต่จะเปิดกว้างยิ่งขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 12  เมษายน 2561
 

 

           ค่ายรถโลกตบเท้าลงทุนผลิตแบตเตอรี่อีวีในไทย รับนโยบายรัฐหนุนรถไฟฟ้า ค่ายรถทั่วโลกเตรียมเพิ่มกำลังผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในไทยมากยิ่งขึ้น หลังรัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนด้านผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ขณะที่ตลาดรถยนต์ไฮบริดในประเทศกำลังขยายตัว     นายอันเดรอัส เลทเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เดมเลอร์ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนีวางแผนเปิดโรงงานแบตเตอรี่ขนาด 4.8 หมื่นตารางเมตรในไทยช่วงต้นปี 2562 ภายใต้การบริหารโดยหน่วยธุรกิจของเมอร์เซเดส ซึ่งโรงงานดังกล่าวจะเน้นประกอบแบตเตอรี่รถอีวีให้เมอร์เซเดสโดยเฉพาะ    ทั้งนี้ เมอร์เซเดสกำลังวางแผนขยายโรงงานผลิตแบตเตอรี่ออกไปอีก 6 แห่งทั่วโลก ที่ประกอบด้วยในสหรัฐ จีน และไทย โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เมอร์เซเดสประกาศลงทุน 100 ล้านยูโร หรือกว่า 3,900 ล้านบาท จนถึงปี 2563 เพื่อขยายโรงงานประกอบรถยนต์และสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทย นิกเกอิรายงานว่า แผนขยายโรงงานผลิตของเมอร์เซเดสเกิดขึ้นขณะที่ความนิยมรถยนต์ไฮบริดในไทยกำลังเพิ่มขึ้น โดยเมื่อปี 2560 รถไฮบริดคิดเป็นสัดส่วน 40% ของยอดขายรถในไทยของบริษัทขณะเดียวกันรายงานระบุว่า บีเอ็ม ดับเบิลยูบริษัทรถยนต์เยอรมนีรายใหญ่อีกรายกำลังจะลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ที่ จ.ระยอง ซึ่งจะเป็นโรงงานแห่งที่ 4 ของบริษัท หลังตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในเยอรมนี สหรัฐ และจีน โดยปัจจุบันบีเอ็มดับเบิลยูประกอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 4 รุ่นในไทย และจำหน่ายรถยนต์รุ่นดังกล่าวได้ 1,300 คัน

ที่มา : หนังสือพิม  โพสต์ทูเดย์ วันที่ 11  เมษายน 2561