สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก

อินโดนีเซียได้รับเลือกเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ จากการร่วมทุนของบริษัทรถยนต์ “ฮุนได” และบริษัท “แอลจี” จากเกาหลีใต้ ขณะนี้อินโดนีเซียพยายามส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันเป็น “ศูนย์กลางด้านรถยนต์ไฟฟ้า”

ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้อินโดนีเซียมีแหล่งแร่นิกเกิลสำรองมากที่สุดในโลก นักวิเคราะห์มองว่าอินโดนีเซียยังคงเผชิญกับความยากลำบาก เนื่องจากความสามารถในการแปรรูปและการสกัดแร่ยังคงต่ำ เกิดความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม และอุตสาหกรรมอาจมีการแข่งขันสูงเพราะแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ มีความนิยมมากขึ้น นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังต้องดำเนินการอีกมากเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดอีวีจากไทย ข้อมูลจากธนาคารกรุงศรีเผยว่า ในช่วงต้นปี 2023 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากถึง 78.7% รองลงมาเป็นอินโดนีเซีย มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 8% เอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซียออกมาตรการให้เงินอุดหนุนเพื่อกระตุ้นตลาดอีวีจำนวนมาก รวมถึงการยกเว้นภาษีสินค้าหรูสำหรับรถยนต์อีวีที่ช่วยกระตุ้นยอดขายและทำให้แบรนด์สำคัญอย่าง "บีวายดี" ของจีน และ "วินฟาสต์" ของเวียดนาม เข้าสู่ตลาดอินโดนีเซียที่มีลูกค้า 280 ล้านคน อย่างไรก็ตาม อินโดนิเซียยังมองว่ากุญแจสำคัญของกลยุทธ์รัฐบาลจาการ์ตา คือ การดึงดูดผู้ผลิตรถยนต์ก่อนที่พวกเขาจะออกไปตั้งโรงงานที่อื่น และแหล่งแร่นิกเกิลสำรองของอินโดนีเซีย คือ ปัจจัยที่สร้างความแตกต่าง  

ที่มา: https://shorturl.asia/81xO5 วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567