เตรียมจะเปิดตัวรถเก๋งขนาดกลางยอดนิยม อย่างโตโยต้า โคโรลลา อัลติส รุ่นใหม่ ภายในปีนี้ หรืออีกไม่กี่เดือนนี้อย่างแน่นอน เพราะเมื่อตอนต้นปี โตโยต้า ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ทยอยเปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โตโยต้า โคโรลลา อัลติส 2019 เวอร์ชั่นไต้หวัน มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็นรุ่นเบนซิน 3 รุ่น และรุ่นไฮบริด 2 รุ่น โดยรุ่นไฮบริดใช้ชื่อทำตลาดว่า โตโยต้า โคโรลลา อัลติส ไฮบริด (Toyota Corolla Altis Hybrid ) ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์มทีเอ็นจีเอ (TNGA) เทคโนโลยีเดียวกับ โตโยต้า คัมรี ผู้พี่ โตโยต้า ไต้หวัน เปิดที่ราคาจำหน่ายระหว่าง 719,000-925,000 บาท โดยประมาณ มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FE ความจุ 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ล็อกอัตราทดได้ 7 สปีด มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 14.9 กม./ลิตร และเครื่องยนต์ ไฮบริด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE คววามจุ 1.8 ลิตร รุ่นท็อป เบนซิน/รุ่น มิด ไฮบริด เพิ่มจาด รุ่นมิด เบนซิน ไฟท้ายแอลอีดี แบบ ไลท์ ไกด์ มาตรวัดดิจิทัล พร้อมจอ TFT ขาด 7 นิ้ว กุญแจ สมาร์ท เอ็นทรี่ (Smart Entry) ปุ่ม พุช สตาร์ต (Push Start) ระบบเตือนมุมอับสายตา BSM จออินโฟเทนเมนท์ Drive+ Connect ขนาด 8 นิ้ว (รุ่น ไฮบริด 7 นิ้ว) ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED (เฉพาะเบนซิน) ระบบส่งเสียงเตือนคนเดินข้ามถนน (เฉพาะไฮบริด)
ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชน ฉบับวันที่ 7 มิถุนายน 2562
หลังการเปิดตัว “นิสสัน เทอร์ร่า” เป็นน้องใหม่ในเซ็กเมนซ์ “พีพีวี” หรือปิกอัพดัดแปลงในบ้านเราเมื่อราวๆ ไตรมาตร 3 ปีที่แล้ว ถือว่ายอดขายพอไปวัดไปวาได้ มีรถวิ่งให้เห็นบนถนนบ้าง นิสสันเชิญสื่อมวลชนไปทดสอบกันมาแล้ว ผมเองส่งทีมงาน “ข่าวสดยานยนต์” ไปร่วมขบวนทัพกับเข้าด้วย จึงต้องรอทิ้งช่วงพักใหญ่ๆ กว่าจะยืมรถมาทดสอบด้วยตัวเองอีกรอบ ที่ได้มาเป็นตัวท็อป “2.3VL 4WD 7AT” สีน้ำตาล “เอร์ธบราวน์” (Earth Brown) สีซิกเนเจอร์ในการทำตลาด พวงมาลัยพร้อมระบบมัลติฟังก์ชัน มีปุ่มสตาร์ต-สต็อป และตัวรับสัญญาณบริเวณมือจับด้านนอก กุญแจรีโมตอัจฉริยะ (Intelligent Key) เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบเตือนภัยแบบ VSS ทำให้ไม่ต้องควักกุญแจออกมากดรีโมตในการล็อก-ปลดล็อกประตู เรียกว่าใส่กุญแจไว้ในกระเป๋านิ่งได้เลย ขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัยทัศนวิสัยแจ่มว้าวมากๆ แม้ขนาดตัวถังใหญ่บะละฮึ่ม แต่ด้วยความสูงของรถดูไม่อึดอัดมากนักเวลาขับขี่บนถนน และยังกะเก็งสถานการณ์ล่วงหน้าได้ดีกว่ารถเก็งที่เตี้ยกว่า อุปกรณ์ใช้ต่างๆอยู่ใกล้มือ มาตรวัดแสดงข้อมูลขับขี่อัจฉริยะแบบ 3 มิติ Multifunction Intelligent Display (MID) ที่แสดงผลข้อมูลการขับขี่ระยะเวลาที่เข้ารับการตรวจสอบสภาพรถเสียงเตือนในกรณีที่ไม่ได้ปิดไฟหน้า และสัญญาณเตือนกันการลืมกุญแจภายในรถ มาตรวัดยังแสดงโหมดออฟโรด บอกข้อมูลการขับเคลื่อนต่างๆ รวมถึงบอกองศาความลาดเอียงของตัวรถด้วย ตรงกลางเป็นหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง เชื่อมต่อกับ USB / HDMI และลำโพง 6 จุด สามารถควบคุมระบบเสียงและโทรศัพท์ได้โดยตรงจากพวงมาลัยคนขับ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 7 มิถุนายน 2562