สมัครสมาชิกวันนี้

  • Silver
  • สมาชิกระดับ Silver
  • ฟรี
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารขั้นพื้นฐานได้
  • ข้อมูลผู้ประกอบการต่างประเทศ
  • ข้อมูลสถิติในประเทศและต่างประเทศ
  • มาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ
  • กฎ ระเบียบ นโยบายในประเทศ
  • เทคโนโลยี และงานวิจัย
  • สมัครสมาชิก
ข่าวสารยานยนต์
อ่านข่าวสารล่าสุด

ค้นหาข้อมูล

ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม

            ปี 2560 มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเงื่อนไขหลายอย่างสำหรับรถนำเข้า ทั้งการชำระภาษีเพื่อนำรถยนต์ออกจากเขตพื้นที่ปลอดภาษี, การปรับเปลี่ยนวิธีการและอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต, การกำหนดราคาจำหน่าย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลายอย่างของหน่วยงานราชการ เป็นสิ่งที่ สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ มองว่าส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจอย่างรุนแรง ยอดจำหน่ายหดตัวอย่างชัดเจน "ปีที่ผ่านมาถือเป็นช่วงสำคัญในการดำเนินธุรกิจของผู้นำเข้าอิสระ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนนโยบายของภาครัฐแบบกะทันหัน ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการจำหน่ายรถยนต์เป็นอย่างมาก หลายบริษัทปิดกิจการ  เลิกจ้างงาน หรือปัญหาภาวะหนี้สูญ ขณะที่ผู้บริโภค ต้องซื้อรถยนต์แพงขึ้น ตลาดไม่เกิด การแข่งขันด้านราคา ทำให้ตลาดหดตัวลงอย่างรุนแรง"  สมศักดิ์ ศรีรัตนประภาสนายกสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่
ที่มา: หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ  วันที่ 11 มกราคม 2561
 

 

             ในปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่ตลาดรถยนต์ทั่วโลกจะได้มีโอกาสสัมผัสอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มของรถยนต์พลังไฟฟ้า รุ่นใหม่ๆ หรือไม่ก็เป็นการเสริมทางเลือกแบบ EV ให้กับ รถยนต์ที่มีอยู่ในตลาดอยู่แล้ว เพราะว่าปี 2020 ทางฝั่งยุโรป โดยเฉพาะประเทศเยอรมนีจะถือเป็นจุดเริ่มต้นของนโยบายในการกระตุ้นให้คนหันมาใช้รถยนต์พลังไฟฟ้ากันมากขึ้น พร้อมกับมีการตั้งเป้าว่าจะต้องมีรถยนต์ประเภทนี้แล่นอยู่บนท้องถนนรวม 1 ล้านคัน     นั่นเท่ากับว่าปี 2018-2019 จะเป็น 2 ปีในการกอบโกยยอดขายเพื่อทำตัวเลขของรถยนต์ประเภทนี้ให้ขยับขึ้นมาอยู่ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และการที่จะโกยยอดได้ บรรดาผู้ผลิต ทั้งหลายก็จะต้องมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นรถยนต์ในกลุ่ม BEV หรือ Battery Electric Vehicle ออกมารองรับกับความต้องการของตลาดด้วยเช่นกัน  นั่นคือแง่มุมหนึ่งของความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นใน ปีหน้าสำหรับตลาดรถยนต์ในต่างประเทศ แต่แม้ว่า EV จะเป็น กระแสฮ็อตที่ถูกพูด ถึงแต่นั่นไม่ได้หมายความว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในทั่วไปจะถูกลืมในบัดดล และไม่มีอะไรใหม่ๆ ออกมาขาย ซึ่งอย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์ประเภทนี้ ก็ยังจำเป็นอยู่ และมีบทบาทในการขับเคลื่อนผู้คนทั่วโลกต่อไปอีกสักระยะหนึ่งเลยทีเดียว และรุ่นใหม่ๆ ก็จะมีการเปิดตัวออกสู่ตลาดมาให้เราได้เห็นกันอย่างแน่นอน

ที่มา: หนังสือพิมพ์ ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ที่ 10 มกราคม 2561
 

 

                 A Chinese start-up has unveiled its vision for the automobile of the future, promising to deliver an intuitive and intelligent car to global markets starting next year from around $ 45,000
(Bt 1.44 million) The electric-powered concept car shown by Byton at the Consumer Electronics Show in Las Vegas, Nevada, is touted as a computing device on wheels, equipped with a digital lounge featuring a panoramic display acting as a hub for navigation, entertainment and even monitoring the health of its occupants.
ที่มา: หนังสือพิมพ์ The Nation วันที่ 9 มกราคม 2561




 

          ค่ายรถจูงมือซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนเท 5 หมื่นล้านเดินเครื่องลุยตลาดไฮบริด, ปลั๊ก-อิน ไฮบริด บิ๊กโตโยต้าประเดิมส่ง “ซีเอช-อาร์” ปลายควอร์เตอร์แรกปีนี้ “มาสด้า” เล็งเพิ่มกำลังผลิตเครื่องยนต์ 1.2 แสนเครื่องต่อปี หวั่นรถยนต์ไฟฟ้าจีนนำเข้าปลอดภาษีตามกรอบเอฟทีเอ ทำตลาดป่วน  แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผย ว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ปี 2561 คึกคักอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยปรากฏว่ามีค่ายรถยนต์หลากหลายยี่ห้อประกาศทุ่มเม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาลกับโครงการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า 3 แบบ ประกอบด้วย 1.รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและพลังงานไฟฟ้า (Hybrid Electric Vehicle : HEV) 2.รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก (Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV) ซึ่งคิดอัตราภาษีสรรพสามิตแค่ 50% และ 3.รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV) คิดภาษีสรรพสามิตแค่ 2%
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 8 มกราคม  2561
 

 

          China will extend a tax rebate on purchases of electrified vehicles through 2020, a boost for hybrid and electric vehicle makers amid a shift by policymakers away from the traditional internal combustion engine. The finance ministry said the tax rebate, which was to expire on Jan. 1, will be extended until Dec. 31, 2020. Eligible models will include all-electric cars, plug-in hybrids and fuel cell vehicles.
ที่มา: www.autonews.com วันที่ 5 มกราคม 2561
 

 

            นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ายุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ภายหลังผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ขณะนี้ได้นำแผนกลับมาทบทวนข้อมูล โดยหลักสำคัญ คือ รถยนต์สะอาด ปล่อยมลพิษน้อย ส่วนประเด็นเรื่องการกำหนดสิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจภาคเอกชนให้ลงทุนนั้น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) รูปแบบจะคล้ายกับการลงทุนของรถยนต์ประหยัดพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม (อีโคคาร์)   ขณะนี้ สศอ. กำลังศึกษายุทธศาสตร์ฯเพิ่มเติมคือ การกำหนดค่ามาตรฐานการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ใหม่ เพื่อให้เสียภาษีสรรพสามิตในอัตราที่ถูกลงและไม่จำกัดขนาดเครื่องยนต์อาทิ รถไฮบริด หากปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ต่ำกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตร อาจจะเสียภาษีในอัตราลดลงจากเดิม
 
ที่มา: หนังสือพิมพ์ แนวหน้า วันที่ 4 มกราคม 2561
 

 

            อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเนื้อหอม/ ค่ายรถเดินหน้าลงทุนใหญ่ "มาสด้า"ขยับโครงการไฮบริด ส่วน "เอ็มจี" มุ่งเป้าอีวี ด้านมอเตอร์ไซค์ "ฮอนด้า"ลุ้นใช้ไทยเป็นฐานประกอบรถไฮบริด ขณะที่กลุ่ม"สตาร์ต อัพ" หวังใช้โอกาสของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีแจ้งเกิด"อีวี"   ภาพรวมของอุตสาห กรรมยานยนต์ในปี 2561 ยังคงต้องจับตามองการลงทุนใหม่ๆจากค่ายรถยนต์-รถจักรยานยนต์ รวมไปถึงค่ายน้องใหม่ และผู้ผลิตชิ้นส่วน อุปกรณ์เกี่ยวเนื่องต่างๆ จากโรดแมปรัฐบาลที่สนับสนุนในโครงการรถยนต์ไฟฟ้า และอีอีซี โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ประกอบกับการตั้งเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์ให้ได้ 2 ล้านคัน (หลังจากพลาดเป้ามาในปี 2560 )และการประเมินยอดขายภายในประเทศที่หลายค่ายมั่นใจว่าจะทะลุ 9 แสนคันในปี 2561 ล้วนเป็นแรงผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกลับมาคึกคัก
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 3 มกราคม  2561

 

     สศค. ฟันธงเศรษฐกิจไทยปีนี้โตเกิน 3.8% หลังเครื่องชี้หลายตัวส่งสัญญาณดีขึ้น ขณะ การบริโภค-ลงทุนเอกชน เริ่มฟื้น เผยกำลังซื้อเดือนพ.ย.โตดี จากยอดขายรถยนต์ที่สูงถึง 7 หมื่นคัน เพิ่มขึ้นจากช่วงที่ผ่านมากว่า 67% มองปีหน้าการลงทุนเอกชนดีขึ้น หลังกลุ่มรถยนต์จ่อขยายกำลังผลิต    สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มว่าจะเติบโตได้สูงกว่า 3.8% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ สศค. ได้คาดการณ์เอาไว้ เนื่องจากเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจมีหลายปัจจัยที่ส่งสัญญาณดีขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะการส่งออกที่ขยายตัวได้สองหลักในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น  นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า กำลังซื้อภายในประเทศส่งสัญญาณดีขึ้นมาก โดยเครื่องชี้ด้านการจดทะเบียนซื้อขายรถยนต์ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาสูง มียอดเพิ่มขึ้นมาก โดยในเดือนพ.ย.มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 6-7 หมื่นคันต่อเดือน สูงจากระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ที่มียอดจดทะเบียนอยู่ในระดับ 4 หมื่นคันต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้น 67% ทั้งนี้ ตัวเลขการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดีในระดับ 3%กว่าๆ ถือว่า อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะถ้าโตเร็วไป ก็น่าเป็นห่วง

ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ  วันที่ 29 ธันวาคม 2560

 

     ประเมินตลาดรถยนต์ ปี 61 กลุ่มไฮบริด อี-เพาเวอร์ เพิ่มบทบาท หลังผู้ผลิตส่งรถขนาดเล็กเปิดตัวส่งผล ผู้บริโภคจับต้องง่ายขึ้น ผู้ประกอบการ ขานรับ เชื่ออนาคตเติบโตก้าวกระโดด เดินหน้าเตรียมความพร้อมรองรับ ด้านตลาดรวมคาดได้แรงส่งลงทุนภาครัฐ ท่องเที่ยวขยายตัว ดอกเบี้ยนโยบายทรงตัว ลูกค้ารถคันแรกเปลี่ยนรถใหม่ ดันยอดทะลุ 9 แสนคัน   ตลาดรถยนต์ปีนี้ขยายตัวตั้งแต่ 767,348 คัน โต 12.5% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และคาดยอดรวมปีนี่  8.4-8.7 แสนคัน อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายมองว่าอุตสาหกรรมเข้าสู่จุดเปลี่ยน โดยรถทีใช้พลังงานไฟฟ้าจะมีบทบาทมากขึ้น หลังรัฐมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนทั้งรถไฮบริด,ปลั๊กอิน ไฮบริด และรถไฟฟ้า (EV) ขณะที่ค่ายรถก็ปรับตัวให้สอดคล้องกับทิศทาง รายงานผลวิจัยตลาดรถยนต์ปี 2561 ว่า รถที่ใช้ไฟฟ้าในระบบขับเคลื่อนจะได้รับการตอบรับมากขึ้น หลังมี่บทบาทชัดเจนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แต่การที่เป็นเรื่องใหม่ มีต้นทุนสูง ทำให้อยู่ในวงจำกัด ผู้ซื้อมีกำลังซื้อสูง เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ได้ง่าย เนื่องจากมีทางเลือกในการใช้รถมากกว่า 1 คันในครอบครัว   ปีนี้คาดว่ารถในกลุ่มนี้มีประมาณ 11,200 คัน เพิ่ม 60% จากปี 2559 สาเหตุหลักมาจากปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่ขยายตัวมาก โดยเพิ่มจากไม่ถึง 3,000 คันในปี 2559 เป็น 7,800 คันจากผู้เล่นหลัก เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู และ วอลโว่
ที่มา : หนังสือพิมพ์  กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 28 ธันวาคม 2560

 

ศูนย์สารสนเทศยานยนต์

ติดต่อ ศูนย์สารสนเทศยานยนต์ สถาบันยานยนต์

อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา (สพข.) ซ.ตรีมิตร กล้วยน้ำไท ถ.พระรามที่ 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์: 0-2712-2414 ต่อ 6443
email : aiu@thaiauto.or.th