ในปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่ตลาดรถยนต์ทั่วโลกจะได้มีโอกาสสัมผัสอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มของรถยนต์พลังไฟฟ้า รุ่นใหม่ๆ หรือไม่ก็เป็นการเสริมทางเลือกแบบ EV ให้กับ รถยนต์ที่มีอยู่ในตลาดอยู่แล้ว เพราะว่าปี 2020 ทางฝั่งยุโรป โดยเฉพาะประเทศเยอรมนีจะถือเป็นจุดเริ่มต้นของนโยบายในการกระตุ้นให้คนหันมาใช้รถยนต์พลังไฟฟ้ากันมากขึ้น พร้อมกับมีการตั้งเป้าว่าจะต้องมีรถยนต์ประเภทนี้แล่นอยู่บนท้องถนนรวม 1 ล้านคัน นั่นเท่ากับว่าปี 2018-2019 จะเป็น 2 ปีในการกอบโกยยอดขายเพื่อทำตัวเลขของรถยนต์ประเภทนี้ให้ขยับขึ้นมาอยู่ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และการที่จะโกยยอดได้ บรรดาผู้ผลิต ทั้งหลายก็จะต้องมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นรถยนต์ในกลุ่ม BEV หรือ Battery Electric Vehicle ออกมารองรับกับความต้องการของตลาดด้วยเช่นกัน นั่นคือแง่มุมหนึ่งของความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นใน ปีหน้าสำหรับตลาดรถยนต์ในต่างประเทศ แต่แม้ว่า EV จะเป็น กระแสฮ็อตที่ถูกพูด ถึงแต่นั่นไม่ได้หมายความว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในทั่วไปจะถูกลืมในบัดดล และไม่มีอะไรใหม่ๆ ออกมาขาย ซึ่งอย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์ประเภทนี้ ก็ยังจำเป็นอยู่ และมีบทบาทในการขับเคลื่อนผู้คนทั่วโลกต่อไปอีกสักระยะหนึ่งเลยทีเดียว และรุ่นใหม่ๆ ก็จะมีการเปิดตัวออกสู่ตลาดมาให้เราได้เห็นกันอย่างแน่นอน
สศค. ฟันธงเศรษฐกิจไทยปีนี้โตเกิน 3.8% หลังเครื่องชี้หลายตัวส่งสัญญาณดีขึ้น ขณะ การบริโภค-ลงทุนเอกชน เริ่มฟื้น เผยกำลังซื้อเดือนพ.ย.โตดี จากยอดขายรถยนต์ที่สูงถึง 7 หมื่นคัน เพิ่มขึ้นจากช่วงที่ผ่านมากว่า 67% มองปีหน้าการลงทุนเอกชนดีขึ้น หลังกลุ่มรถยนต์จ่อขยายกำลังผลิต สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มว่าจะเติบโตได้สูงกว่า 3.8% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ สศค. ได้คาดการณ์เอาไว้ เนื่องจากเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจมีหลายปัจจัยที่ส่งสัญญาณดีขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะการส่งออกที่ขยายตัวได้สองหลักในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า กำลังซื้อภายในประเทศส่งสัญญาณดีขึ้นมาก โดยเครื่องชี้ด้านการจดทะเบียนซื้อขายรถยนต์ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาสูง มียอดเพิ่มขึ้นมาก โดยในเดือนพ.ย.มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 6-7 หมื่นคันต่อเดือน สูงจากระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ที่มียอดจดทะเบียนอยู่ในระดับ 4 หมื่นคันต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้น 67% ทั้งนี้ ตัวเลขการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ดีในระดับ 3%กว่าๆ ถือว่า อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะถ้าโตเร็วไป ก็น่าเป็นห่วง