กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานในเบื้องต้นว่า ยอดส่งออกจากญี่ปุ่นไปยังสหรัฐอเมริการ่วงลง 13.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 1.39 ล้านล้านเยน (9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน เนื่องจากมูลค่าการส่งออกรถยนต์
ลดลงหลังถูกสหรัฐฯ รีดภาษีนำเข้า ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ดิ่งลงถึง 50.5% แตะระดับ 3.24 แสนล้านเยน โดยได้รับแรงกดดันจากยอดส่งออกรถยนต์ที่ร่วงลง 28.4% ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 11.6% สู่ระดับ 1.06 ล้านล้านเยน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากเดิม 2.5% เป็น 27.5% เมื่อเดือนเม.ย. ต่อมาในเดือนก.ค. ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงลดภาษีนำเข้ารถยนต์ลงเหลือ 15% ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยอดส่งออกโดยรวมของญี่ปุ่นขยับลง 0.1% สู่ระดับ 8.43 ล้านล้านเยน ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ส่วนยอดนำเข้าลดลง 5.2% แตะที่ 8.67 ล้านล้านเยน ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลให้ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าลดลง 65.9% สู่ระดับ 2.425 แสนล้านเยนในเดือนส.ค. ทั้งนี้ ญี่ปุ่นยังคงขาดดุลการค้ากับจีนเป็นเดือนที่ 53 ติดต่อกัน โดยมียอดขาดดุลอยู่ที่ 4.257 แสนล้านเยน
ที่มา: https://www.wsj.com/economy/trade/japans-exports-fall-for-fourth-straight-month-under-weight-of-tariffs-75a1edd3 วันที่ 8 ตุลาคม 2568