ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเดินหน้าปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศล่าสุด หันมาปกป้องอุตสาหกรรมยนตรกรรม โดยเฉพาะรถยนต์นำเข้าจากต่างชาติ ถึงกับสั่งให้กระทรวงพานิชย์ดำเนินการสอบสวนว่ารถยนต์นำเข้าของบริษัทสัญชาติใดบ้างที่เข้ามาทำลายตลาดรถยนต์ในประเทศ และเข้าช่วยเหลือภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศภายใต้มาตรา 232 หรือไม่ ทรัมป์ย้ำด้วยว่าสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มเติม ถ้าหากหารเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับอียูล้มเหลวแถมยังบอกด้วยว่า อียูเป็นกลุ่มประเทศที่ทำข้อตกลงด้วยยาก และถ้าหากไม่มีการทำข้อตกลง สหรัฐก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากภาษีนำเข้า คำพูดของผู้นำสหรัฐเกี่ยวกับการเกก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ครั้งนี้ เท่ากับตอกย้ำทวีตเมื่อเดือนมิถุนายน ปีที่แล้วที่ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าจากอียูในอัตรา 20% และในเดือนพฤศจิกายน ทรัมป์ ประกาศเพิ่มอัตราภาษีเป็น 25% หลังจากบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ตัดสินใจปิดโรงงานหลายแห่งในสหรัฐและปลดพนักงานเพิ่มอีกกว่า 14,000 ตำแหน่ง สงครามการค้ากับจีนยังไม่ทันจบ ทรัมป์ก็เปิดศึกแนวใหม่กับยุโรปเสียแล้ว คาดปีนี้คงเป็นปีที่เหนื่อยหนักทั้งสหรัฐและประเทศคู่ค้า
ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 5 มีนาคม 2562