ผู้ผลิตจีนเล็งตั้งฐานในเมียนมา ขณะที่สงครามการค้าระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจกำลังระอุในขณะนี้ นายถั่น อ่อง จ่อ รองอธิบดีกรมบริหารการลงทุนและบริษัทเมียนมา(ดีไอซีเอ) เผยกับสำนักข่าวเมียนมา ไทม์ส นอกรอบงานสัมมนา ในนครย่างกุ้งว่า เมียนมาพร้อมรับผลพลอยได้จากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ และขณะนี้ กลุ่มทุนจีนมีความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะเข้ามาตั้งโรงงานและ ฐานการผลิตในประเทศ นับตั้งแต่สหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้า 25% กับผลิตภัณฑ์จีน มูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนนี้ "ธุรกิจจีนหลายรายได้สอบถามเรา เกี่ยวกับการลงทุนและการตั้งฐานในประเทศ" นายถั่น กล่าวและว่า "จีนต้องการย้ายฐานการผลิตของตนมายังเมียนมา ส่วนใหญ่ต้องการตั้งฐานในเขตเศรษฐกิจพิเศษทิละวา ซึ่งมีการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าและการขนส่งที่จำเป็น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการทำธุรกิจ" รองอธิบดีดีไอซีเอ เสริมว่า เมียนมา ควรเตรียมพร้อมตอบสนองความต้องการเหล่านี้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นโอกาสทองสำหรับประเทศในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ด้านนายฉ่วย เฮง เลขาธิการคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษทิละวา กล่าวว่า หวังที่จะดึงดูดบริษัทจีนเข้ามามากขึ้น เนื่องจากสามารถถ่ายทอดโนว์ฮาวด้านเทคโนโลยีให้กับบรรดาธุรกิจท้องถิ่นได้ ข้อมูลล่าสุดของดีไอซีเอ ระบุว่า ใน 94 บริษัทที่ดำเนินการในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทิละวา มีเพียง 1 รายที่มาจากจีนคือผู้ผลิตเสื้อผ้า "หลู ไท่ โค" อย่างไรก็ตาม จีนยังคงเป็น หนึ่งในผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในเมียนมา โดยได้ลงทุนไปแล้วรวม 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
ที่มา:หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 21 มิถุนายน 2561