ดีลอยท์ ประเทศไทย ชี้ตลาดยานยนต์ในประเทศไทย กำลังเผชิญกับความซับซ้อนของ VUCA (ความผันผวน ความไม่แน่นอน ความซับซ้อน และความคลุมเครือ) ไม่ต่างจากตลาดอื่น ๆ แม้รัฐบาลไทยจะให้การสนับสนุน แต่ตลาด
ยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) ในประเทศไทยกลับประสบปัญหาชะลอตัว เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องสงครามราคา และประสบการณ์ด้านบำรุงรักษา ทั้งนี้ จากรายงาน 2025 Global Automotive Consumer Study ของดีลอยท์ พบว่าความต้องการของลูกค้าชาวไทยที่มีต่อรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน และรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) เพิ่มขึ้นระหว่างปี 2567 และปี 2568 แต่ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ยังคงทรงตัวเนื่องจากแบตเตอรี่ เป็นต้นทุนสำคัญของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แต่ถูกมองว่าเป็นจุดอ่อนของรถไฟฟ้า จากความกังวลหลักของผู้บริโภคเมื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ ระยะทางขับขี่ และ ระยะเวลาในการชาร์จ แต่ก็มีแบตเตอรี่ทางเลือกใหม่ ๆ เช่น แบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน (Na-ion) จากแร่เกลือหินยิ่งทำให้ราคาจับต้องได้ เนื่องจากโซเดียมมีอยู่มาก และต้นทุนต่ำกว่าแบตเตอรี่ LFP ทั้งนี้คาดว่าแบตเตอรี่โซเดียม-ไอออน จะมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้นประมาณ 13% ระหว่างปี 2565 และปี 2571 ส่งผลให้ผู้ผลิตสามารถผลิตสินค้ารุ่นเริ่มต้นในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้บริโภคในอนาคต จากความท้าทายในปัจจุบัน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยยังคงมีศักยภาพในการเติบโตเป็นอย่างมาก ด้วยการแก้ไขข้อกังวลของผู้บริโภคในด้านราคา โครงสร้างพื้นฐาน และความยั่งยืน ผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ส่งผลให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถปลดล๊อกโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ได้
ที่มา: https://www.infoquest.co.th/2025/481578 วันที่ 20 เมษายน 2568