อรรณพ ศิริติกุล ผู้อำนวยการ Google Cloud ประเทศไทย เปิดมุมมองว่าความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงต้นุทุนที่สูงขึ้น และความซับซ้อนของห่วงโซ่อุปทาน ผู้ผลิตรถยนต์จึงเร่งนำเทคโนโลยีคลาวด์ และ AI

มาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเต็มที่ ในปี 2025 นี้ การนำ AI มาประยุกต์ใช้จะขยายตัวอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างกลไกการเติบโตใหม่ๆ ให้กับธุรกิจต่อไป 5 แนวโน้ม สำคัญที่จะมาปฏิวัติวิธีการออกแบบ การผลิต การขาย และประสบการณ์วงการรถยนต์ในอนาคต 1) การดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วย gen AI จะช่วยเทอร์โบชาร์จประสิทธิภาพ เช่น ทีมวิจัยและพัฒนายานยนต์ยังสามารถใช้เครื่องมือการจำลองภาพที่ขับเคลื่อนด้วย Gen AI เพื่อจำลอง และประเมินการออกแบบได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้พวกเขาสามารถพัฒนาโมเดลรถยนต์และนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วยิ่งขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลง 2) การซื้อรถจะกลายเป็นเรื่องง่ายและไร้รอยต่อด้วย gen AI ด้วยการสร้างระบบการซื้อขายที่ไร้รอยต่อ ตั้งแต่ในช่วงสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ไปจนถึงบริการหลังการขาย 3) Multimodal AI agents หรือตัวแทน AI ที่สามารถรับรู้และประมวลผลข้อมูลจากหลายรูปแบบพร้อมกัน ซึ่งจะทำให้ประสบการณ์การสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์มีความเหมาะสมกับแต่ละบุคคลและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น 4) ระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย gen AI เสริมสร้างการขับขี่ปลอดภัย โดยสามารถตรวจจับกิจกรรมที่น่าสงสัยและจุดอ่อนได้อย่างทันที สร้างความอุ่นใจที่เหนือกว่าให้กับผู้ขับขี่ 5) จุดเริ่มต้นของห่วงโซ่อุปทานที่ชาญฉลาด เป็นห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับตัวได้ดีต่อสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากผลกระทบของสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงการปรับเปลี่ยนในการเคลื่อนไหวของตลาด ดังนั้น ผู้ผลิตรถยนต์ที่ยอมรับและพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วย AI และ gen AI จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ พร้อมรักษาความปลอดภัยของข้อมูลไว้ได้ และสามารถปรับกระบวนการการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

ที่มา: https://www.bangkokbiznews.com/tech/gadget/1170250 วันที่ 28 มีนาคม 2568