การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานและเทคโนโลยีกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ โดยได้เห็นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในข่าวสารด้านภาคส่วนต่างๆ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในด้านต่างๆ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า หรือการใช้แบตเตอรี่รีไซเคิลแบบหมุนเวียน
ตลาดแบตเตอรี่โลกต้องเผชิญกับปีที่ยากลำบากในปี 2567 ด้วย ความต้องการ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ลดลงเกินคาด กำลังการผลิตที่มากเกินไป การแข่งขันที่รุนแรงระหว่างเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่แตกต่างกัน และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดจากการที่สหรัฐฯ เพิ่มภาษีนำเข้ากับจีน โดย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดแบตเตอรี่โลก ความขัดแย้งด้านการค้าและเทคโนโลยีที่อาจเกิดขึ้น (โดยเฉพาะกับจีนและยุโรป) อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการแข่งขันเพื่อเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งราคาแบตเตอรี่ EV เฉลี่ยทั่วโลกอาจสูงถึง 90 เหรียญสหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ในปี 2025 ลดลงจาก 111 เหรียญสหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงในตอนสิ้นปี 2024 ภายในปี 2026 ราคาแบตเตอรี่เฉลี่ยอาจลดลงเหลือ 80 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งลดลงเกือบ 50% ตั้งแต่ปี 2023 ทำไมราคาแบตเตอรี่ EV ถึงลดลงเร็วเกินกว่าที่คาด เพราะว่ามีปัจจัยขับเคลื่อนหลักอยู่ 2 ประการ คือ 1) นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ใหม่ๆ ที่มีพลังงานสูงกว่าประมาณ 30% และมีต้นทุนต่ำกว่า 2) ราคาโลหะของแบตเตอรี่ ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และหากสมมติว่าราคาน้ำมันยังคงสูงอยู่ จึงเชื่อว่าในตลาดเช่น สหรัฐ ต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของจะยังคงเริ่มตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ซึ่งต้องยอมรับว่าความต้องการแบตเตอรี่ EV ในระยะใกล้ยังคงขึ้นอยู่กับกฎระเบียบที่มากขึ้นด้วย
ที่มา: https://www.thansettakij.com/motor/ev/615996 วันที่ 21 มกราคม 2568