มาเลเซียสำคัญมากในฐานะศูนย์ทดสอบชิป ซึ่งเป็นลำดับท้ายๆ ในขั้นตอนการผลิตชิปให้สมบูรณ์ และถือเป็นหนึ่งในฐานะผู้ผลิตแนวหน้าของโลก
การล่าช้าใดๆ ที่เกิดขึ้นที่นี่จึงส่งผลกระทบต่อการประกอบรถทั่วโลก โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ถือเป็น 39% ของมูลค่าส่งออกของมาเลเซียต่อปีทีเดียว นอกจากชิปแล้ว มาเลเซียยังเป็นแหล่งผลิต MLCC (multilayer ceramic capacitors) ซึ่งถูกใช้ในสินค้าตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปถึงรถยนต์อีกด้วย
ตั้งแต่เกิดการขาดแคลนชิปทั่วโลกขึ้น ตลาดรถยนต์ก็ถูกควาดว่าจะเกิดความเสียหายกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจำนวนนี้ยังไม่นับความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังสถานการณ์ในมาเลเซีย และอาจจะแย่ลงอีกหากรัฐบาลควบคุมการแพร่เชื้อในอนาคตไม่ได้ ด้าน Ford ต้องประกาศระงับการผลิตรถกระบะยอดนิยมรุ่น F-150 ที่สหรัฐชั่วคราว เนื่องจาก “การขาดชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับชิป ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในมาเลเซีย” Toyota ประกาศว่าจะระงับการผลิตในโรงงานกว่า 14 แห่ง เหตุจากการขาดแคลนชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน เช่น ประเทศไทย เวียดนาม และ มาเลเซีย ซึ่งทั้งสามประเทศมียอดผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ที่มา : https://brandinside.asia/malaysia-worsens-chip-shortage/ วันที่ 26 สิงหาคม 2564