สถานการณ์การส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ไทยในตลาดสหรัฐอเมริกาอาจต้องปรับราคาขึ้น หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศตัด GSP
ชิ้นส่วนเหล่านี้ลง โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2564 ทำให้ต้องกลับไปเสียภาษีนำเข้าในอัตรา 2.5% จากเดิมที่เป็น 0% การปรับเพิ่มราคาขึ้นนั้นอาจส่งผลให้ชิ้นส่วนในกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันมากขึ้น จากสาเหตุหลัก 2 ประการ คือ สินค้าที่โดนตัดสิทธิ์ GSP นี้ ส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ (REM) ที่ผู้ซื้อมักมีความอ่อนไหวต่อราคาสูง และยิ่งในช่วงเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างมากดังเช่นปัจจุบันนี้ ไม่เพียงแต่จะกระทบต่อคำสั่งซื้อรถยนต์ใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการใช้ชิ้นส่วน OEM ที่จะชะลอลงเท่านั้น แต่ยังลุกลามไปถึงการตัดสินใจชะลอการซ่อมบำรุงรถยนต์ ซึ่งต้องใช้ชิ้นส่วน REM ออกไปด้วยเช่นเดียวกัน
โดยชิ้นส่วนในกลุ่มที่โดนตัดสิทธิ์ GSP นี้ ได้แก่ กระปุกเกียร์และชิ้นส่วนประกอบ พวงมาลัยและชิ้นส่วนประกอบ เพลาขับพร้อมเฟืองท้ายและชิ้นส่วนประกอบ ล้อรถยนต์และชิ้นส่วนประกอบ และชิ้นส่วนรวมอุปกรณ์ตกแต่งอื่น ๆ ดังนั้น ผู้ผลิตชิ้นส่วนกลุ่มที่โดนตัดสิทธิ์ GSP จึงจะต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับความเสี่ยงดังกล่าว ทั้งการปรับลดต้นทุนลงและการหาตลาดใหม่ทดแทน เช่น แอฟริกาใต้ เม็กซิโก แคนาดา ญี่ปุ่น ประเทศในกลุ่มอาเซียน อินเดีย ปากีสถาน และออสเตรเลีย และที่สำคัญ หากไม่มีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีใหม่จากตลาดรถยนต์ขับเคลื่ยนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปสู่ชิ้นส่วนรถยนต์ BEV โอกาสอุตฯชิ้นส่วนไทยในตลาดสหรัฐอเมริกา ก็คงริบหรี่ลงเรื่อย ๆ
ที่มา : https://www.prachachat.net/motoring/news-561455 วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563