ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี เป็นกระแสที่ทั่วโลกให้ความสนใจ แม้ต้องใช้เวลา โดยเฉพาะบ้านเราที่เป็นแหล่งผลิตยานยนต์ขนาดใหญ่ของโลก
ก็คงจะต้องเกาะติดกระแสดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับตัวและรับมืออยู่เสมอ ก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงาน ตั้งเป้าหมายระยะยาวไว้ว่า ภายในปี 2573 จะต้องมี อีวี ทุกประเภทใช้งานไม่ต่ำกว่า 1.2 ล้านคัน และแม้ว่าตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี แต่ล่าสุดทางพลังงานยังคงยืนยันว่าจะยังคงเป้าหมายเดิมเอาไว้ ไม่เปลี่ยนแปลง และการจะก้าวไปยังจุดนั้นได้ จะต้องดำเนินการด้านอื่นๆ ควบคู่กันไป ไม่ว่าจะเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบไฟฟ้า สถานีชาร์จ ระบบมิเตอร์อัจฉริยะ รวมไปถึงแผนการลดการใช้ไฟฟ้าภาคสมัครใจของประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า เมื่อมีความต้องการมากขึ้นจากการขยายตัวของ อีวี
และช่วงจากนี้ไป อีวี จะยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะหลายบริษัทมีแผนที่จะเปิดตลาดทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นอาวดี้ ที่เตรียมเปิดตัว อี-ตรอน เวอร์ชั่นใหม่เพิ่มเติม หรือ บีเอ็มดับเบิลยู ที่มีแผนนำเข้า ไอเน็กซ์ จากฐานการผลิตในประเทศจีน หรือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่แม้ก่อนหน้านี้จะพับแผนการทำตลาด อีคิวซี ไปแล้ว แต่ยืนยันว่าเป้าหมายการเปิดตลาด อีวี จะยังคงเดินหน้าต่อไปโดยจะขึ้นสายการผลิตในประเทศ คาดว่าจะเป็นเช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยคาดการณ์กันว่าจะเป็นรุ่น อีคิวเอส ซึ่งเป็นอีวีที่มีพื้นฐานเดียวกับรถธงอย่าง เอส-คลาส นั่นเอง
ขณะที่เอ็มจี ที่เป็นผู้ครองตลาด อีวี ในขณะนี้ก็มีแนวคิดจะเสริมตลาดในอนาคตเช่นกัน ซึ่งปัจจุบัน เอสเอไอซี มอเตอร์ บริษัทแม่ที่ประเทศจีนพัฒนาอีวีขึ้นมาหลายรุ่นทั้งเอสยูวี และรถยนต์นั่ง และในอนาคต ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นอีกหลายๆ ยี่ห้อตามเข้ามาทำตลาด รวมถึงน้องใหม่ที่เตรียมเข้ามาตลาดในบ้านเราครั้งแรก คือ เกรทวอลล์ มอเตอร์ ที่ซื้อโรงงานผลิตจีเอ็ม ที่ระยอง มีผลตั้งแต่ต้นปี 2564 เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าเกรทวอลล์ จะเริ่มต้นการทำตลาดด้วยรถเอสยูวี ฮาวาล เนื่องจากเป็นตลาดที่มีทิศทางการเติบดตที่น่าสนใจ แต่ว่าเกรทวอลล์ ก็เป็นผู้ผลิต อีวี เช่นกัน โดยใช้ยี่ห้อ ออร่า (ORA) และสามารถนำเข้ามาทำตลาดได้ โดยใช้สิทธิพิเศษด้านภาษีนำเข้า 0% จากข้อตกลงเขตการค้า อาเซียน-จีน เช่นเดียวกับ เอ็มจี
แม้ว่าแนวโน้มด้านผลิตภัณฑ์มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่จะต้องตามดูกันต่อไป คือ ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่จะมีผลต่อการเติบโต เช่น สถานีชาร์จ การคิดค่่าไฟฟ้า หรือ ระบบการจำหน่ายไฟฟ้า ที่ยังไม่ตกผลึกเต็มที่
ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/894898?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=auto วันที่ 24 สิงหาคม 2563