เอกชน -บีโอไอ ชี้ EV จะเกิดต้องมีดีมานด์ "อีเอ" ย้ำชัดต้องเริ่มจากรถขนส่งมวลชน -รถราชการ พร้อมเสนอ 5 ข้อเร่งด่วน
ขณะที่บีโอไอ รับมาตรการส่งเสริมยังไม่เพียงพอ เตรียมพิจารณาให้สิทธิประโยชน์กับกลุ่มรถจักรยานยนต์และกลุ่ม 3 ล้อ
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การสนับสนุนให้ EV เกิด หรือการผลักดันให้ไทย ASEAN BEV Hub & Logistic Hub ต้องมีดีมานด์ในประเทศให้ได้ก่อน โดยต้องมีกระบวนการแบบเป็นระบบ เริ่มจากรถขนส่งมวลชน ,รถราชการ,รถแท็กซี่ ,ขนส่งพาณิชย์ ,อี-ไบค์ ,อี-ทรัค, รถส่วนบุคคล ดังนั้นสิ่งสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องทำ ประกอบไปด้วย 1.ยุทธศาสตร์ดึงดูดผู้ผลิตชั้นนำ 2.มาตรการส่งเสริมที่ครบทั้งระบบ 3. พัฒนา Core Strength เทคโนโลยี EV 4.บูรณาการการดำเนินงานและแก้ไขข้อติดขัด กฎเกณฑ์ 5. เตรียมพร้อมการเปลี่ยนผ่าน
นายระวี มาศฉมาดล ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการพลังงาน ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง FTA ไทย-จีน ว่า รัฐบาลอาจจะต้องกลับไปแก้ไขบางจุดที่แก้ได้ อาทิ ลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วน ตรงจุดนี้ก็ต้องไปศึกษาว่าได้หรือไม่ได้ เพราะหากมีการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนโดยใช้สทิธิประโยชน์ FTA ก็อาจจะกระทบกับผู้ผลิตในประเทศ เพราะราคาสู้ไม่ได้
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ กล่าวว่า ปัจจุบันมาตรการส่งเสริมเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้ายังไม่เพียงพอ ซึ่งบีโอไอกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงมาตรการใหม่ออกมาเพื่อขยายสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพราะเดิมมีแค่รถยนต์ และรถบัส แต่ตอนนี้กำลังพิจารณาเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ (2 ล้อ) และ 3 ล้อ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าหากอยากให้ยานยนต์ไฟฟ้ามีการขับเคลื่อนไปได้นั้น จะต้องมีมาตรการสนับสนุนให้เกิดดีมานด์ ทำอย่างไรให้มีวอลุ่มเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังถือว่ามีสัดส่วนที่น้อยอยู่
ด้านดร.ยศพงษ์ ละออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่า โอกาสการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าในไทยยังมี เพราะถือเป็นช่วงเริ่มต้นของเทคโนโลยี ดังนั้นตอนนี้ทุกคนต้องทำงานร่วมกัน ทั้งผู้ประกอบการเดิมที่มีอยู่ในประเทศ และผู้ประกอบการใหม่ๆในต่างประเทศ ที่ไทยจะต้องดึงเข้ามาลงทุน ซึ่งรัฐบาลก็ต้องทำให้นโยบายให้ต่อเนื่อง
ที่มา : https://www.thansettakij.com/content/motor/445903?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=motor วันที่ 18 สิงหาคม 2563