การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมากหน้าหลายตาจากการแบ่งปันพื้นที่
หรือสิ่งของร่วมกันในการใช้ชีวิตเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ได้กลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เทรนด์ “แชริ่ง อีโคโนมี” จำนวนมากเติบโตอย่างก้าวกระโดด อย่างธุรกิจ “ไรด์ เฮลลิ่ง” และ ธุรกิจแชร์ที่อาศัย ที่เจ้าของรถยนต์หรือสถานที่พักสามารถแบ่งปันให้ผู้อื่นมาร่วมใช้งานได้ แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค “โควิด-19” ได้ทำให้ผู้คนทั่วโลกจำเป็นต้องเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไวรัส ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจแชริ่งเหล่านี้โดยตรง
“แอร์บีเอ็นบี” ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจองที่พักแบบแชริ่ง อีโคโนมี ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานเกือบ 1,900 คน หรือราว 25% ของพนักงานทั้งหมดราว 7,500 คน เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะโรคระบาดที่ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวหยุดชะงักไปในทันที
ขณะที่ “อูเบอร์” ผู้ให้บริการไรด์ เฮลลิ่งรายใหญ่ระดับโลก ก็ประกาศเลิกจ้างพนักงานราว 3,700 คน หรือ 14% ของพนักงานทั้งหมด เนื่องจากภาวะโรคระบาดที่ทำให้ยอดผู้ใช้บริการลดฮวบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนโดยบริษัทระบุว่า ในเดือน เม.ย. ยอดผู้ใช้บริการในบางเมืองลดลงมากถึง 80% พร้อมกันนี้ในไตรมาส 1/2020 บริษัทประสบภาวะขาดทุนถึง 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะมีรายรับเพิ่มขึ้นราว 14% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากยอดผู้ใช้บริการ “อูเบอร์อีทส์” สั่งอาหารออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น
เช่นเดียวกันกับ “ลิฟต์” ผู้ให้บริการไรด์แชริ่งรายใหญ่ในสหรัฐอีกราย ที่ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 982 คน หรือ 17% ของพนักงานทั้งหมด หลังจากที่บริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 1/2020 สูงถึง 398 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะมีรายรับเพิ่มขึ้นราว 956 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ที่มา : www.prachachat.net วันที่ 18 พฤษภาคม 2563