รถยนต์ไฟฟ้าแทนที่รถใช้น้ำมันจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต แต่ก่อนจะถึงวันนั้น บริษัทยักษ์ใหญ่น้ำมันนำโดยเอสโซ่ ดิ้นเพื่อความคงอยู่ ตั้งแต่ลอบบี้ภาครัฐสกัดกั้นการอนุญาตตั้งเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้า ไปจนถึงผนึกกำลังบริษัทรถยนต์ใช้น้ำมันและดีลเลอร์ หน่วงการขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้า
บรรดาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลหรือน้ำมัน/ก๊าซ ต่างก็จับมือกันต่อต้านรถใช้ไฟฟ้า แม้จะยังมีเวลารอไปจนถึงปี 2045 หรืออีก 26 ปี อุตสาหกรรมน้ำมันยังเชื่อมั่นว่า “ Peak Oil” จะเกิดขึ้นตามคาดหมายในราวกลางศตรรษ 2021 หรือในอีก 31 ปีข้างหน้า ระหว่าง 26 ปีที่จะมาถึงยุคทองของรถยนต์ไฟฟ้ากับ 31 ปีสิ้นยุคน้ำมัน คาดการณ์ด้านเวลาต่างกัน 5 ปี จะก่อเกิดความแย้งถึงขั้นปะทะกันระหว่างอุตสาหกรรมพลังงานทั้งสอง
ฝ่ายหนึ่งพยายามชะลอหรือยืดเวลาการใช้รถยนต์น้ำมันออกไปให้นานเท่าที่จะนานได้ ส่วนอีกฝ่ายเข้ามาเพื่อแทนที่รถใช้น้ำมัน เอสโซ่นำทีมกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันและรถยนต์ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงล็อบบี้หน่วยงานรัฐให้จำกัดสถานที่ติดตั้งหัวจ่ายกระแสไฟฟ้า ที่ใช้กำลังไฟฟ้า 240 โวลต์ ทั้งๆที่บางปั๊มน้ำมันมีติดตั้งกันอยู่ เหมือนกับบ้านเราหลายแห่ง
ส่วนอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้ไฟฟ้า นำโดยเทสล่าและอุตสาหกรรมโซล่าเซล มีกลุ่มพลังอนุรักษ์สภาพแวดล้อมเป็นกองสนับสนุน เรียกร้องให้รัฐบาลอนุญาตให้ติดตั้งหัวจ่ายกระแสไฟฟ้าและหน่วยบริการรถยนต์ไฟฟ้าเสรี อีกกลุ่มที่จะเป็นตัวแปรก็คือ อุตสาหกรรมแบตเตอรี่ที่มีอยู่ในรถยนต์ทุกคันที่ใช้น้ำมัน รถใช้ไฟฟ้าก็ใช้แบตเตอรี่เช่นกัน แต่เป็นไปในรูปกักเก็บกระแสไฟฟ้า เหมือนกับถังน้ำมันเก็บและจ่ายน้ำมัน กลุ่มอุตสาหกรรมแบตเตอรี่เข้ากันได้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ดูจะสนับสนุนกลุ่มใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า
ที่มา: หนังสือพิมพ์ดอกเบี้ยธุรกิจ ฉบับวันที่ 23 กันยายน 2562