นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรมสรรพสามิต เป็นกรมที่จัดเก็บรายได้เป็นอันดับ 2 รองจากกรมสรรพากร ที่ผ่านมา กรมมีบทบาทในการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
ซึ่งปัจจุบันเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจึงต้องมีกลไกต่าง ๆ โดยเฉพาะภาษีออกมาสนับสนุนส่งเสริม โดยเห็นได้ว่ารถอีวีจะมีภาษีต่ำกว่ารถยนต์สันดาปมาก จากราว 20% เหลือแค่ 2% ดังนั้นเม็ดเงินภาษีสรรพสามิตรถยนต์จะหายไปค่อนข้างมากเกือบ 50% อย่างไรก็ดี ในช่วงเปลี่ยนผ่านก่อนจะไปถึงโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่นั้น กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างเสนอปรับภาษีรถยนต์ PHEV (Plug-in Hybrid) ให้สอดคล้องกับยุคเปลี่ยนผ่าน EV ส่วนหนึ่งก็ช่วยซัพพลายเชนของรถยนต์สันดาปให้มีเวลาการปรับตัวมากขึ้น โดยอัตราภาษีใหม่ของ PHEV ที่อยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยได้ตัดเงื่อนไขเรื่องขนาดถังน้ำมันออก จะต่างจากรถยนต์ตัวอื่น ๆ ที่จะดูจากการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับ PHEV ดูที่ระยะทางต่อรอบชาร์จไฟ เพื่อจะช่วยอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย โดยอัตราภาษี PHEV นี้จะเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 2569 เพื่อที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมในช่วงเปลี่ยนผ่าน ก่อนไปถึง EV ก็สามารถที่จะช่วยซัพพลายเชนของส่วนที่ยังมีสันดาปอยู่ ยังมีใช้น้ำมันอยู่ในการปรับตัว ก่อนที่จะเข้าสู่โครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ในช่วงปี 2573
ที่มา: https://www.prachachat.net/finance/news-1780291 วันที่ 17 เมษายน 2568